อาจเรียกได้ว่า นี่เป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ในช่วงศตวรรษที่ 21 นับแต่การเดินขบวนต่อต่านการเข้าร่วมทำสงครามอิรักของสหราชอาณาจักรเมื่อปี 2003  

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม มีผู้ชุมนุมหลายแสนคนเดินขบวนผ่านใจกลางกรุงลอนดอน เรียกร้องให้จัดประชามติเบร็กซิตใหม่ ขณะที่ผู้จัดการชุมนุมบอกว่า ตัวเลขผู้ชุมนุมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าการชุมนุมไม่เอาเบร็กซิตเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว

ผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันจากแคมเปญ ‘ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน’  (Put It To The People) บางส่วนโบกธงของอียู เริ่มต้นเดินจากปาร์คเลนไปยังจตุรัสรัฐสภาซึ่งเป็นสถานที่จัดการชุมนุม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศของการชุมนุมว่า ผู้ชุมนุมมีหลายช่วงอายุ และมาจากหลายพื้นที่ทั่วสหราชอาณาจักร

หนึ่งในแนวหน้าของผู้ชุมนุมคือผู้ว่าการกรุงลอนดอน ซาดิก ข่าน เขาทวีตคลิปวิดีโอระหว่างที่ตัวเองร่วมชุมนุมและถือป้ายผ้าด้วย นอกจากนี้ ยังมีส.ส.จากพรรคแรงงานอีกหลายคนที่ร่วมเดินขบวนในครั้งนี้

ข่านทวีตข้อความว่า “ไม่ว่าคุณจะโหวตอะไร แต่ผมแน่ใจว่าคุณจะเห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า เบร็กซิตนั้นยุ่งเหยิงมากที่สุด ชาวสหราชอาณาจักรไม่ได้โหวตเพื่อข้อตกลงเบร็กซิตที่แย่ๆ ชาวสหราชอาณาจักรไม่ได้โหวตเพื่อออกจากอียูแบบไร้ข้อตกลง ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้พูดเป็นครั้งสุดท้าย”

ผู้ชุมนุมคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า การเป็นสมาชิกอียูไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ได้สร้างสันติภาพในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา เขาบอกว่า ก่อนหน้านี้เป็นการโหวตโดยหลักการ  แต่ตอนนี้ประชาชนรับทราบความเป็นจริงเพิ่มขึ้น และประชาชนต้องการโอกาสโหวตอีกครั้ง “ถ้าตอนนี้ประชาชนบอกว่า อยากแยกตัวออกจากอียูโดยรู้ว่ามันคืออะไร ผมก็จะเคารพผลที่ออกมา”

การชุมนุมครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่อียูเห็นชอบกับข้อเสนอขอต่อเวลาออกไปอีกของเทเรซ่า เมย์ ซึ่งบอกว่าพร้อมจะยกเลิกแผนต่างๆ สำหรับการลงคะแนนของส.ส.ครั้งต่อไป หากว่าไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากส.ส.มากพอ ในกรณีนี้ สหราชอาณาจักรต้องมีแผนอื่นๆ รองรับ ไม่เช่นนั้นก็จะต้องออกจากอียูแบบไร้แผนในวันที่ 12 เมษายน

ขณะเดียวกัน จำนวนประชาชนที่ร่วมลงชื่อเพื่อขอให้ยกเลิกเบร็กซิตในเว็บไซต์รวบรวมรายชื่อของสภา ก็ทะลุ 4 ไปถึงล้านคนแล้ว

 

ที่มา:

Tags: , , , , ,