เนสท์เล่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำดื่มบรรจุขวดยี่ห้อ Zephyrhills และ Pure Life มีแผนที่จะนำน้ำปริมาณ 1.1 ล้านแกลลอนต่อวันจากบ่อน้ำพุจินนี่ สปริงส์ (Ginnie Springs) ที่อยู่ทางใต้ของแม่น้ำซานตาเฟ ในรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นบ่อน้ำตามธรรมชาติมาทำน้ำดื่มใส่ขวดขาย ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมท้องถิ่น
บริษัทเนสท์เล่ วอเตอร์ นอร์ธ อเมริกา ยื่นขอใบอนุญาตในการสูบน้ำออกจากจินนี่ สปริงส์ บ่อน้ำที่มีน้ำสีฟ้าใส เป็นทั้งสถานที่เล่นกีฬาทางน้ำ พื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งเป็นรังของเต่าหลายสปีชีส์ ปริมาณ 1.152 ล้านแกลลอนต่อวันเพื่อบรรจุขวดขาย
ใบอนุญาตที่มีอยู่ในปัจจุบันยินยอมให้มีการนำน้ำออกมาได้ในปริมาณนี้ แต่ก็ไม่เคยมีรายงานว่ามีการนำน้ำไปใช้ในปริมาณมากมายถึงขนาดนี้มาก่อน โดยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ปริมาณการใช้น้ำต่อวันสูงที่สุดอยู่ที่ 0.27 ล้านแกลลอน
ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกำลังหาทางยับยั้งโครงการนี้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นภัยทางสิ่งแวดล้อมและกระทบกับผลประโยชน์สาธารณะ ผู้คัดค้านกล่าวว่า แม่น้ำนี้อยู่ในภายช่วงของการฟื้นฟูโดยเขตจัดการน้ำแม่น้ำซูวานนี หลังจากที่มีการสูบน้ำมากเกินไปเป็นเวลาติดต่อกันหลายปี และไม่สามารถปล่อยให้มีการดึงน้ำออกไปในปริมาณมากๆ ได้อีก
นักรณรงค์พากันระดมรายชื่อและรวบรวมความคิดเห็น เพื่อยื่นคัดค้านก่อนจะถึงเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีการตัดสินใจ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าเพียงแค่ประเด็นผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมก็เพียงพอที่จะทำให้แผนการนี้ตกไป
ด้านหน่วยงานจัดการน้ำ แม่น้ำซูวานนีต้องการบทวิเคราะห์ทางการตลาดที่พิสูจน์ความต้องการนำน้ำในปริมาณเท่านี้ การประเมินผลกระทบต่อพื้นที่ชุ่มน้ำ และหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าการดูดน้ำออกไปจะไม่เปลี่ยนระดับน้ำ หรือการไหลของบ่อน้ำ
อันที่จริงใบอนุญาตนี้เป็นของบริษัทเซเวน สปริงส์ วอเตอร์ เนสท์เล่ ซึ่งซื้อโรงงานผลิตน้ำดื่มจินนี่สปริงส์ จากบริษัทไอซ์ ริเวอร์ สปริงส์ มาเรียนนา เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และเนสท์เล่ต้องการให้เขตจัดการน้ำแม่น้ำซูวานนีต่อใบอนุญาตที่หมดอายุแล้วของเซเวน สปริงส์ วอเตอร์ใหม่ โดยขอนำน้ำออกไปเพิ่มจากเดิมเป็น 1.1 ล้านแกลลอน
ในแถลงการณ์ของเนสท์เล่ระบุว่า “เราปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานของรัฐ เช่นเดียวกับเจ้าของโรงงานเดิมที่ผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด เราไม่ได้เอาน้ำที่สาธารณะเป็นเจ้าของมาใช้ แต่เราซื้อน้ำจากบริษัทเอกชน ซึ่งมีใบอนุญาตใช้น้ำได้” นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่าบริษัทมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ธุรกิจของเราขึ้นอยู่กับคุณภาพและความยั่งยืนของน้ำที่เรานำออกมา
อาวเวอร์ ซานตาเฟ ริเวอร์ องค์กรไม่แสวงหากำไรในพื้นที่บอกว่า น้ำทุกหยดในบ่อนี้มีความสำคัญในการรักษาสุขภาพของแม่น้ำ บริษัทต่างๆ ที่นำน้ำออกจากบ่อน้ำต่างจ่ายค่าธรรมเนียมในการนำน้ำออกไป แต่น้ำเป็นของฟรีในตัวมันเอง ส่วนเนสท์เล่ยืนยันว่าน้ำในบ่อน้ำเป็นแหล่งทรัพยากรที่หมุนเวียนกลับมาได้เร็ว และสัญญาว่าจะจัดทำแผนจัดการน้ำที่สมบูรณ์ ร่วมกับตัวแทนในท้องถิ่นสำหรับความยั่งยืนในระยะยาว
ข้อพิพาทเรื่องการแย่งแหล่งน้ำของท้องถิ่นไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเนสท์เล่ ในปี 2017 คณะกรรมการควบคุมทรัพยากรแคลิฟอร์เนียออกรายงานสอบสวนที่สรุปว่า บริษัทมีการผันน้ำออกจากมาจากป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่มีสิทธิอันชอบธรรมเพื่อผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด และมีการสูบน้ำออกไปประมาณ 45 ล้านแกลลอนในปีที่ผ่านมา
ที่มา:
https://www.theguardian.com/business/2019/aug/26/nestle-suwannee-river-ginnie-springs-plan-permit