กองหยกดิบหลากสีหลายไซส์วางเรียงรายแบราบอยู่กับพื้นตามรายทาง ผู้คนขวักไขว่ถึงขั้นแออัด รถมอเตอร์ไซค์แน่นขนัดราวกับว่ามีหยกแจกฟรี คือภาพตื่นตาตื่นใจขณะก้าวสู่โลกของธุรกิจหยกในตลาดค้าหยกขนาดใหญ่ที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา ตลาดที่มีเงินหมุนเวียนในแต่ละวันหลายล้านบาท!

หยก เป็นอัญมณีที่ชาวจีนชื่นชอบและให้คุณค่ามากเป็นพิเศษ โดยมีความเชื่อมานานนับพันปีว่าเป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์จากสวรรค์  ช่วยนำพาความโชคดี ความมั่งคั่งร่ำรวย และรักษาสมดุลในร่างกายให้มีแต่สุขภาพดี ชาวจีนจึงมีความผูกพันกับหินชนิดนี้ตั้งแต่เกิดจนตาย และให้ค่าสูงมากจนมีคำกล่าวโบราณว่า “ทองนั้นมีค่า แต่หยกนั้นประเมินค่าไม่ได้” 

และหากพูดถึงหยกก็ต้องเป็นหยกจากเมียนมา เพราะได้ชื่อว่าเป็นแหล่งแร่คุณภาพสูงและมีปริมาณมากที่สุดในโลก โดยเหมืองหยกขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเมืองผะก่าน (Hpakant) ดินแดนแห่งหยก ในรัฐคะฉิ่น ห่างจากตลาดค้าหยกในมัณฑะเลย์ออกไปราว 530 กิโลเมตร ซึ่งหยกที่พบจะเป็นหยกเนื้อแข็ง (Jadite) มีสีสันหลากหลายไล่เฉดตั้งแต่ขาว-ดำ ต่างกับหยกในประเทศจีนที่เป็นหยกเนื้ออ่อน (Nephrite) มีเพียงสีขาวขุ่น ทำให้คนจีนนิยมมาซื้อหยกจากเมียนมาและกลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุด ในแต่ละปีที่มีการเปิดประมูลหยกพ่อค้านักลงทุนชาวจีนจึงมาร่วมประมูลกันหลายพันคน หยกนับเป็นสินค้าส่งออกที่ทำเงินให้ประเทศในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นกว่าครึ่งของ GDP รวมทั่วประเทศ

นอกจากพ่อค้าทุนหนักที่แห่แหนมาประมูลหยกกันทุกปี ในแต่ละวันก็มีผู้มาซื้อขายแลกเปลี่ยนหยกกันที่ตลาดในมัณฑะเลย์เป็นจำนวนมาก โดยตลาดจะแบ่งออกเป็น 2 โซน ภายนอกจะเปิดให้เข้าฟรี จะเป็นลักษณะวางขายกันที่พื้น หยกดิบจะถูกขนกันมาขายเป็นกระสอบๆ มีตั้งแต่หลักร้อยไปยันหลักล้านบาท ส่วนโซนภายใน ชาวต่างชาติต้องเสียค่าธรรมเนียมค่าเข้าประมาณคนละ 50 บาท เป็นลักษณะตั้งโต๊ะรับซื้อขาย ทั้งหยกก้อนและหยกที่เจียระไนแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวเมียนมานำมาขายให้ชาวจีนที่ตั้งโต๊ะรับซื้อเป็นหลักและนักท่องเที่ยวขาจรบ้างประปราย 

ภายในยังมีส่วนที่ช่างฝีมือชาวบ้านมานั่งรับตัดหยกจากก้อนๆ มาเป็นชิ้นหรือแผ่น รับเจาะเพื่อทำกำไลและแหวน ขัดเงา แกะสลัก เจียระไนด้วยระบบแมนนวล มือทำ ตามอง พร้อมเท้าปั่นเครื่องมือเจียระไนแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีตัวเรือนพร้อมสำหรับทำเป็นเครื่องประดับต่างๆ มากมาย เรียกได้ว่าเป็น one stop service ที่เราสามารถหาซื้อหยกดิบ จนผ่านกระบวนการต่างๆ แล้วกลับบ้านพร้อมเครื่องประดับหยกสักชิ้นที่เราเลือกหินเองกับมือมาครอบครองได้ภายในที่แห่งเดียว 

ไม่เพียงแต่หยกละลานตา แต่ไฟฉายกับสมาร์ทโฟนพร้อมขาตั้ง ยังกลายเป็นไอเทมสำคัญที่พบเห็นได้ง่ายสำหรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนหยกในตลาดแห่งนี้ ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจะใช้ไฟฉายส่องไปที่ก้อนหยกเพื่อตรวจเช็คคุณภาพเบื้องต้น ยิ่งเนื้อหยกมีความใสมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีราคาแพงมากขึ้น                         ส่วนสมาร์ทโฟนพร้อมขาตั้งเป็นอุปกรณ์ที่พ่อค้าชาวจีนจะไลฟ์สดขายหยกให้ลูกค้าชาวจีนทางไกลผ่านแอปพลิเคชั่น WeChat โดยปัจจุบันกว่า 80% ของการค้าขายที่ตลาดแห่งนี้คือการขายตรงออนไลน์ที่เพิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าหยกจะซื้อง่ายขายคล่องและนำความโชคดีมาสู่ชาวบ้านและประเทศที่ตั้งของทรัพยากรมูลค่าสูงมากขึ้น? แต่ภาพที่เกิดขึ้นในตลาดค้าหยกแห่งนี้ดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่พื้นผิวหน้าดินของหุบเหวขุมทรัพย์นี้เท่านั้น 

“ผมเกลียดตลาดหยกนี้ มันเป็นแหล่งฟอกเงินของพวกนักธุรกิจจีนในมัณฑะเลย์ เป็นตลาดมืดแห่งใหญ่ของที่นี่ (เมียนมา) เลย” โก จ่อ คนทำทัวร์ในเมียนมาเปิดเผยความรู้สึกให้ฟังขณะที่เรากำลังมุ่งออกจากตลาดดำมืดที่เขาพูดถึง 

เมื่อตลาดค้าหยกปัจจุบันอยู่ในโลกออนไลน์เป็นหลัก การซื้อขายทำได้รวดเร็วเพียงกดนิ้วยืนยันโอนเงิน อัญมณีเหล่านี้ก็จะถูกลักลอบขนไปยังประเทศปลายทางผ่านด่านชายแดนเมียนมา-จีน โดยไม่ต้องเสียภาษีใดๆ ให้กับรัฐ เมื่อกฎหมายอัญมณีเมียนมาปี 2018 ไม่ครอบคลุมถึงการซื้อขายหยกและโอนเงินออนไลน์ และหากเดินทางจากตลาดค้าหยกย้อนกลับไปยังต้นทางของเหมืองแร่ ความมืดดำของวงการนี้ก็ยิ่งมีสีเข้มขึ้นๆ 

ป่าเขียวชอุ่มที่ถูกทำลายเพื่อแลกกับแร่สีเขียวจักรพรรดิ์ใต้ดิน ภูเขาหลายลูกถูกขุดเจาะระเบิดเป็นหุบเหวลึก แหล่งน้ำที่เต็มไปด้วยเคมีและกากแร่ คือสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปเมื่อมีเหมืองหยกเกิดขึ้น ชาวบ้านในพื้นที่สัมปทานถูกไล่ที่ตามสูตรเดิมๆ เมื่อมีการลงทุน ลานกว้างที่เต็มไปด้วยเข็มฉีดยาเมื่อคนงานเกินครึ่งพึ่งพาเฮโรอีนในการสู้ทนกับงานหนัก ความเครียด และการเอาชีวิตรอดในแต่วัน ปัญหาอาชญากรรม ค้าประเวณี และ HIV ที่แพร่ระบาดในชุมชน การสู้รบกันระหว่างกองทัพพม่ากับกองกำลังคะฉิ่นที่ยังไม่จบสิ้นตราบใดที่ยังแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว และชีวิตนักแสวงโชคนับพันที่ต้องถูกกลบฝังยามเกิดดินถล่ม ไม่รวมถึงผู้ที่สูญหาย ไม่พบศพ และผู้บาดเจ็บสาหัส ลมหายใจชาวเหมืองเหมือนเป็นอากาศเมื่อเทียบกับมูลค่าจากตลาดซื้อขายหยก เป็นภาพที่ถูกผลิตซ้ำตามสื่อต่างๆ เรื่อยมาไม่มีวี่แววว่าปัญหาเหล่านี้จะถูกแก้ไขจริงจัง แต่ความเสี่ยงและอันตรายเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มทั่วเมียนมาหมดหวังที่จะมาแสวงหาโชคและโอกาสจากการขุดหาหยก เพราะหากโชคดีพบหยกเนื้อดีสักก้อนกำมือก็อาจกลายเป็นเศรษฐีหน้าใหม่เพียงชั่วข้ามคืน         

หากความเชื่อที่ว่าหยกคืออัญมณีจากสวรรค์ที่มีมูลค่า นำพามาซึ่งความโชคดี ความมั่งคั่งร่ำรวย และการมีสุขภาพดี เหล่านี้คงเป็นเพียงการให้ค่าของผู้ครอบครอง เมื่อนักขุดแร่และชาวบ้านในพื้นที่กลับแทบไม่มีสิทธิ์ที่จะได้สัมผัสแม้กระทั่งความหมายของมัน…