Mustmeat อีกร้านเนื้อวัวไทยดีที่ยังไม่ต้องต่อคิว

เชื่อว่าหลายคนคงกำลังกดโทรศัพท์เพื่อจองร้านเนื้อวัวที่โด่งดังในโลกโซเชียลอยู่แน่ๆ หากใครไหวก็โทรต่อไป ใครไม่ไหวเราขอแนะนำร้านนี้ Mustmeat Butcher ร้านอาหารที่เด่นเรื่องเนื้อวัวแห่งใหม่ที่มีดีไม่แพ้กัน ที่สำคัญคนยังรู้จักไม่มากไม่ต้องแย่งกันกินให้หงุดหงิด

ด้วยปรัชญาของร้านที่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบท้องถิ่นเช่นกัน ทำให้ที่นี่ไม่ได้มองเพียงแค่ความเป็นเนื้อวัวไทย แต่ยังใส่ใจเรื่องการพัฒนาคุณภาพของเนื้อวัวไทยด้วย ซึ่งในตอนนี้อยู่ระหว่างทดลองพัฒนาคุณภาพของเนื้อวัวไทยให้ดีขึ้น

โดยเจ้าของร้านได้ให้ฟาร์มวัวแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรีช่วยเลี้ยงวัวตามที่ร้านต้องการ ทั้งเรื่องของอาหารที่เชื่อว่าวัวกินอะไรเข้าไปก็ได้ลักษณะนั้นออกมา ตอนนี้ทดลองใช้ข้าวโพดเลี้ยงเป็นหลักแต่ในอนาคตก็จะเปลี่ยนแปลงอาหารไปเรื่อยๆ เพื่อให้ได้คาแรกเตอร์ของเนื้อวัวตามที่ต้องการ ซึ่งตอนนี้มีเนื้อวัวไทย ไทยวากิว และวัวนมผสมบราห์มัน เลี้ยงประมาณ 6 เดือน แล้วขุนต่ออีก 1 ปี แล้วนำมาเอจจิ้งต่อนาน 30-45 วัน ที่อุณหภูมิประมาณ 4 องศา ซึ่งทางร้านใช้ไขมันวัวเคลือบผิวนอกของเนื้อวัวเมื่อเวลาผ่านไปสักพักเพื่อไม่ให้เนื้อวัวที่ดรายเอจแห้งจนเกินไป นอกจากนั้นทางร้านยังนำเอาเนื้อวัวไทยมาทำเป็นแฮมโฮมเมดด้วย

แม้จะเชื่อว่าเนื้อวัวไทยไม่แพ้เนื้อชาติไหนในโลก แต่ทางร้านก็เตรียมเนื้อวัวนำเข้าไว้สำหรับคนที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ชอบวัวไทย เมนูหลักของที่นี่ก็คือสเต็ก ทางร้านจึงให้เราเลือกชิ้นเนื้อก่อนแล้วคิดราคาตามน้ำหนัก โดยนำไปชั่งก่อนย่าง ทางร้านใช้เทคนิคการย่างเนื้อวัวบนเตาถ่านที่ใช้ไม้แอเปิ้ลมาช่วยเพิ่มกลิ่นหอม ก่อนนำไปย่างบนกระทะอีกครั้งให้ผิวเนื้อด้านนอกสุกน่ากิน

จานเด่นของที่นี่เป็น Mixed Grill เสิร์ฟชิ้นเนื้อหลากหลายส่วนแล้วแต่เชฟแนะนำในวันนั้น น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 500-600 กรัม วันที่เราไปมีเนื้อพีคาน่า เนื้อขั้วตับ เนื้อสะโพก และเนื้อส่วนท้อง ซึ่งชิ้นเนื้อแต่ละส่วนให้รสสัมผัสที่ต่างกัน เสิร์ฟคู่กับชิมิชูรี แยมมะม่วง และน้ำเนื้อผสมน้ำมันหอย

Mixed Grill 

นอกจากสเต็กแล้วต้องบอกว่าอาหารจานเนื้อของที่นี่ก็ค่อนข้างหลากหลาย หน้าตาออกมาแบบโมเดิร์น อาทิ ข้าวกะเพราสเต็กเนื้อไข่เค็มรมควัน เชฟเลือกใช้เนื้อสันนอกที่มีมันหน่อยผัดกับน้ำมันกะเพรา ไข่เค็ม และกะเพรากรอบ

ข้าวกะเพราสเต็กเนื้อไข่เค็มรมควัน

เฟตตูชินีชะอมพริกสดก็น่าสนใจ เด่นตรงที่กลิ่นรสของชะอมที่ผัดมาบนเส้น มาพร้อมกับแฮมเนื้อที่นำเอาเนื้อวัวส่วนริบอายไปม้วนทำเป็นแฮมที่ให้รสชาติที่ค่อนข้างจัด

เฟตตูชินีชะอมพริกสด

ข้าวเนื้อตุ๋นมัสมีท เชฟใช้เนื้อวัวหลายส่วนไปตุ๋นรวมกัน แต่ละวันก็จะมีชิ้นเนื้อที่ต่างกัน ตุ๋นกับดาชิ ซีอิ้ว มิริน และสาเก ประมาณ 2-3 ชั่วโมง จนนุ่มเปื่อย กินเคียงกับขิงดอง

ข้าวเนื้อตุ๋นมัสมีท

จานนี้ต้องร้องว้าว สมองวัวทอดกรอบราดซอส ดีระดับเดียวกับหมกสมองหมูที่เคยกินที่ขอนแก่น สมองด้านนอกหนึบแต่นุ่มด้านในเหมือนเต้าหู้ราดด้วยซอสที่ทำจากซุปผักและเห็ด แต่ปรุงรสด้วยพริกแห้ง และมะนาว รสออกเผ็ดเปรี้ยวหน่อยๆ

สมองวัวทอดกรอบราดซอส

บีฟทาร์ทาร์โนริเทมปุระ

และเป็นโชคดีของเราที่เชฟนำเอาเมนูใหม่ออกมาให้ชิมตั้งแต่วันแรกที่ทำเสร็จ นี่ยังไม่ได้ลงในเมนูเลย บีฟทาร์ทาร์โนริเทมปุระ ทาโก้บิสเกตรมควัน และของหวาน มิโซะแอนด์คอร์น ไอศกรีมมิโซะ ข้าวโพดทอด เจลมะขาม

มิโซะแอนด์คอร์น ไอศกรีมมิโซะ ข้าวโพดทอด เจลมะขาม

ส่วนซิกเนเจอร์ค็อกเทลทำออกมาในคอนเซปต์ของเนื้อวัวเช่นกัน แก้วทรงสูงสีเหมือนเลือด Blood ลาบเลือด ที่ใช้เลือดวัวกับเครื่องลาบอีสานและเตกีล่า Smoked Beef Everyday ใช้ไม้แอปเปิ้ลที่รมควันเนื้อมารมควันแก้วเสิร์ฟคู่กับมันเนื้อทอด B-Lover ใช้เครื่องเทศหมักเนื้อวัวอย่างโรสแมรี่ ไทม์ พริกไทย ผสมกับวิสกี้ เสิร์ฟกับคาเวียร์เมเปิ้ลไซรัปที่มาบนโบนส์แมโรว์ Secret Garden เสิร์ฟกับคาเวียร์น้ำผึ้ง และ Mercury ค็อกเทลที่เหมือนขนมหวานสำหรับปิดท้าย