ไม่มีใครอยากเดินดูงานศิลปะขณะที่ท้องร้อง! นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ทั้งพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ต่างให้ความสำคัญกับการมี ‘คาเฟ่’ แต่เป็นพิพิธภัณฑ์ทั้งที จะขายกาแฟและอาหารธรรมดาๆ ก็คงไม่พอ วันนี้เราเลยอยากพาไปชม (และชิม) คาเฟ่ในมิวเซียมเจ๋งๆ รอบโลก ที่มีลีลาหลากหลายจนต้องตกหลุมรัก

คาเฟ่ที่วิจิตรงดงาม เหมือนนั่งทานงานศิลปะ
V&A Café (The Gamble, Poynter and Morris Room) – The Victoria and Albert Museum, London

ถ้าให้พูดถึงประสบการณ์ฟินประหนึ่งได้นั่งจิบชาในวังอังกฤษ คงหนีไม่พ้นคาเฟ่ใน Victoria and Albert Museum ใจกลางลอนดอน โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1852 ปัจจุบันจัดแสดงคอลเล็คชั่นเกี่ยวกับงานออกแบบดีไซน์จากทั่วโลก มีขนาดใหญ่กว่า 12.5 เอเคอร์ และมีห้องจัดแสดง145 ห้องด้วยกัน! แน่นอนว่าในพื้นที่ขนาดนี้ อาการเมื่อยย่อมถามหาผู้เข้าชมในเวลาไม่ช้าก็เร็ว

ทางมิวเซียมจึงมีคาเฟ่ที่สวยงามจัดไว้ให้ตรงกลางอาคารเสียเลย โดยคาเฟ่นี้แบ่งเป็นสามห้องติดกัน ตั้งชื่อตามนักออกแบบตกแต่งภายในของแต่ละห้อง ได้แก่ James Gamble, William Morris and Edward Poynter เมนูแนะนำได้แก่ Victorian Afternoon Tea ที่ทางมิวเซียมร่วมมือกับนักประวัติศาสตร์อาหาร เพื่อถอดแบบมาจากอาฟเตอร์นูนทีของพระราชินีวิคตอเรียเลยทีเดียว

คาเฟ่ที่พาคุณวาร์ป เข้าไปในเนื้อหานิทรรศการ
Cafe Sabarsky – Neue Galerie, New York

หากได้เดินเข้าไปในคาเฟ่ภายในพิพิธภัณฑ์ Neue Galerie ใจกลางกรุงนิวยอร์กแห่งนี้  อาจจะหลงนึกไปว่าเดินอยู่ในเวียนนา เพราะคาเฟ่นีมี้ทั้งกลิ่นอายความเป็นออสเตรียเต็มรูปแบบ ตั้งแต่การตกแต่งภายใน จนกระทั่งเมนู ที่รังสรรค์โดยเชฟมิชลินสตาร์ด้านอาหารออสเตรียนโดยเฉพาะ แม้แต่แกรนด์เปียโนที่ตั้งอยู่มุมห้องยังเป็นแบรนด์ Bösendorfer สัญชาติออสเตรียน เรียกได้ว่า มาเยือนพิพิธภัณฑ์ด้านศิลปะของเยอรมันและออสเตรียแห่งนี้แล้ว ไม่ได้แค่เห็นงานศิลปะ แต่ได้ประสบการณ์แบบคน local ไปเต็มๆ   

คาเฟ่ที่มาจากธีมของวัตถุจัดแสดง
The Orangery – Fan Museum, London

ต้องเกริ่นก่อนว่าตัวมิวเซียมเล็กๆ แห่งนี้ จัดแสดงวัตถุแสนเก๋ประจำตัวสาวๆ จากทุกยุคสมัย นั่นคือ ‘พัด’ หลากหลายรูปแบบ ดังนั้นพอจะทำคาเฟ่ก็ต้องมีจริตจะก้านไม่แพ้กัน โดนตัวคาเฟ่ถูกออกแบบให้อยู่ในอาคารที่เรียกว่า orangery ซึ่งมีลักษณะยาวเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า และรายรอบด้วยกระจก ให้คนได้มองต้นไม้เขียวชอุ่มพร้อมอาบแสงยามบ่าย แถมภายในยังเขียนภาพเถาวัลย์และดอกไม้ตามผนัง เป็นพื้นที่หย่อนใจ เวลาดูพัดเสร็จก็มานั่งจิบชา เมาท์มอยกับเพื่อนสาวได้ยาวๆ ไป

คาเฟ่ที่เมนูมาจากงานศิลปะชิ้นเอก
Schokko Art Café – Columbus Museum of Art, Ohio

ร้านใหม่ประจำ Ohio’s Columbus Museum of Art ได้แรงบันดาลใจมากจากภาพเขียนชื่อ Schokko with Red Hat  ของศิลปินอเลเซจ วอน จอว์เลนสกี (Alexej von Jawlensky) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในงานชื้นเอกของพิพิธภัณฑ์ โดย ‘ช็อคโก้’ เป็นชื่อเล่นของนางแบบสาวผู้นั่งเป็นแบบให้หลายๆ ภาพเขียนของศิลปินท่านนี้ในฤดูหนาวปี 1909-1910

ชื่อเล่นนี้มีที่มาจากการที่นางแบบสาวแซนซนคนนี้มักจะร้องขอช็อคโกแล็ตร้อน เวลาที่เธอมานั่งเป็นแบบเสมอๆ ดังนั้นบอกเลยว่าถ้าใครโปรดปรานรสหวานแบบ ช็อคโก้ แล้วละก็ ที่นี่มีเมนูของหวานยาวยืดที่จะทำให้คุณแฮปปี้ อย่างเช่น Dad’s Peanut Butter Cookie หรือ Housemade Brownie และทีเด็ดอย่าง Cookie Sundae ที่ผสมคุกกี้เนยถั่วกับช็อคโกแล็ตด้วยกัน เสริฟกับไอศครีม Brambleberry ราดด้วย ราสเบอร์รี่ซอสเปรี้ยวๆ อร่อยจนอยากจะไปเป็นนางแบบกับเขาด้วยคน (เกี่ยวไหม?)

คาเฟ่ที่จะพาคุณย้อนเวลาไปตามยุคสมัยในพิพิธภัณฑ์
Garden Café – The Charles Dickens Museum, London

บ้านที่ครั้งหนึ่งนักเขียนชาวอังกฤษชาร์ลส์ ดิกเคนส์ (Charles Dickens 1812-1870) เคยอยู่อาศัย ได้กลายมาเป็นมิวเซียมแห่งนี้ แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนงานเขียนในยุคของดิกเคนส์หรือไม่ก็ตาม คาเฟ่นี้จะไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยเมนูของคาวพร้อมเค้กนานาชนิดที่แทบจะเลือกไม่ถูก

ที่พลาดไม่ได้คือสวนเล็กๆ ที่เขียวขจี ล้อมด้วยกำแพงอิฐให้ความเป็นส่วนตัว ทั้งยังมีน้ำพุเล็กๆ เหมาะแก่การออกไปนั่งจิบชาหย่อนใจ นอกจากนี้ เมื่อมีอีเวนท์พิเศษยามค่ำคืน (candlelit evening) ของทางพิพิธภัณฑ์ ทั้งมิวเซียมและสวนยังถูกเนรมิตให้เต็มไปด้วยบรรยากาศลึกลับใต้แสงเทียน

คาเฟ่ที่อร่อยด้วย ได้ความรู้ด้วย
Misitam Native Food Café – National Museum of the American Indian, Washington D.C.

นอกจากตัวพิพิธภัณฑ์ว่าด้วยชาวอเมริกันอินเดียนแห่งนี้ จะเป็นหนึ่งในมิวเซียมยอดนิยมแห่งเครือสมิธโซเนียนแล้ว ตัวร้านอาหารในพิพิธภัณฑ์เองก็ฮิตไม่แพ้กันด้วยเมนูอาหารพื้นถิ่นอเมริกันอินเดียนแท้ รังสรรค์โดยเชฟเฟรดดี้ บิตโซ (Freddie Bitsoie) ผู้สืบเชื้อสายอเมริกันอินเดียน ที่นำเอาการศึกษาด้านมานุษยวิทยาของตนผนวกเข้ากับการทำอาหารได้อย่างลงตัว เกิดเป็นเมนูที่สะท้อนอาหารของภูมิภาคต่างๆ ที่มีลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละเผ่า เรียกได้ว่ามาเรียนรู้เรื่องอเมริกันอินเดียนกันต่อถึงในครัว

คาเฟ่ที่ทำให้บะหมี่ถ้วยเป็นเรื่องสนุก
Tasting Room –Cupnoodles Museum, Osaka

วันที่ 25 สิงหาคม 1958 คุณโมโมฟุกุ อันโดะ (Momofuku Ando) ได้คิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถ้วยแรกของโลกขึ้น ในห้องทดลองที่ถูกสร้างขึ้นตามมีตามเกิดในสวนหลังบ้านของเขา ตั้งอยู่ในเมือง อิเคดะ จังหวัดโอซาก้า หลังจากนั้นไม่นานบะหมี่นี้ก็ถูกจัดจำหน่ายและได้รับความนิยม เป็นหน้าเป็นตาของประเทศญี่ปุ่นในสากลโลก ถึงขนาดที่ปัจจุบันได้มีการตั้งพิพิธภัณฑ์ Cupnoodles Museum ขึ้นเพื่อเป็นการให้เกียรติกับนวัตกรรมนี้!

แน่นอนว่าจะมามิวเซียมนี้ทั้งที หากไม่ได้กินบะมี่กึ่งสำเร็จรูปสักถ้วยก็คงถือว่ามาไม่ถึง ทางมิวเซียมเลยจัดห้อง Tasting Room ไว้ให้ผู้ชมได้ชิม ทั้งบะหมี่รสดั้งเดิม รวมถึงรสแปลกๆ ที่ไม่มีขายในโอซาก้า  รวมๆ กันมากกว่า 30 ชนิด นอกจากนี้ยังมีห้อง My cupnoodle factory ที่เป็นเสมือนโรงงานเล็กๆ เปิดให้ผู้ชมได้ลองสร้าง (และลองชิม) บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในรูปแบบของตัวเองด้วย

คาเฟ่ดีต่อใจ แม้จะยังไม่ได้ดูนิทรรศการ
บ้านฮอลันดา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ถ้าใครได้ไปเที่ยวอยุธยาเราขอแนะนำคาเฟ่สุดแสนน่ารักของพิพิธภัณฑ์บ้านฮอลันดา ตั้งอยู่ติดกับคานเรือโบราณศรีเจริญ ข้างๆ วัดพนัญเชิง โดยที่ดินผืนนี้เคยเป็นแหล่งที่ตั้งของสถานีการค้าของชาวฮอลันดาในศตวรรษที่17 ตอนนี้ได้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์แหล่งการเรียนรู้ความสัมพันธ์ 400 ปี ระหว่าง ไทย-ดัทช์ ซึ่งหากใครได้เข้ามาจะเห็นว่า ด้านล่างได้ถูกออกแบบให้เป็นคาเฟ่ริมน้ำแสนน่ารัก มีกาแฟจากเนเธอร์แลนด์ยี่ห้อดังเป็นสปอนเซอร์ กินคู่กับขนมวาฟเฟิลแบบดั้งเดิม

ที่นี่ยังมีหนังสือสวยๆ ให้อ่าน โต๊ะใหญ่ๆ ไว้นั่งคุยงานกัน ล้อมรอบไปด้วยผนังที่มีการวาดรูปเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศเนเธอร์แลนด์ไว้อย่างเก๋ไก๋น่าถ่ายรูปมากๆ ที่สำคัญคือส่วนของคาเฟ่นี่สามารถเข้าใช้ได้ฟรี ไม่ต้องเสียค่าผ่านประตู (ถ้าใครกินกาแฟแล้วอยากจะซื้อบัตรเข้าชมนิทรรศการด้านบนต่อก็ได้ ไม่ว่ากัน) จึงไม่แปลกใจเลยที่ ที่นี่กลายมาเป็นจุดพักรถของชมรมนักปั่นจักรยาน รวมถึงนักท่องเที่ยวมากมาย ติดดันดับต้นๆ ใน tripadvisor ของกิจกรรมในจังหวัดอยุธยา

แน่นอนว่า ประสบการณ์ ของผู้เข้าชมถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับพิพิธภัณฑ์ในยุคปัจจุบัน เพราะฉะนั้น ‘คาเฟ่’ จึงสามารถเติมเต็มประสบการณ์การได้เรียนรู้และพักผ่อนอย่างอิ่มใจ (และอิ่มกาย!) มิหนำซ้ำ บางที่ยังช่วยต่อยอดประสบการณ์สุนทรีย์ในการชมนิทรรศการได้อีกด้วย

 

ที่มาของภาพ

Victoria and Albert Museum : https://www.vam.ac.uk

Café Sabarsky – Neue Galerie : http://www.neuegalerie.org

Fan Museum : https://www.thefanmuseum.org.uk

Schokko Art Café, Columbus Museum of Art : https://www.columbusunderground.com

Charles Dickens Museum : https://dickensmuseum.com

Misitam American Indian : https://www.indianz.com

Tasting Room – Cupnoodles Museum : https://www.cupnoodles-museum.jp

บ้านฮอลันดา : https://www.wongnai.com

Tags: , , , , , , , ,