ในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศประจำปี 2019 ขององค์การสหประชาชาติ (2019 UN Climate Change Conference) ที่ประเทศสเปน ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยผู้นำจากหลากหลายประเทศ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล  (WWF) จึงร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์ Prado Museum ในกรุงมาดริก ประเทศสเปน สร้างแคมเปญรณรงค์ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ โดยนำเอาภาพวาดคลาสสิกระดับโลกซึ่งอยู่ในการดูแลของพิพิธภัณฑ์ Padro มาสร้างสรรค์ในรูปแบบดิจิตัลอาร์ต ภายใต้แนวคิดการเสียดสีที่ว่าหากโลกร้อนมากขึ้นจะส่งผลให้ภาพวาดเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร  

โปรเจ็กต์นี้ชื่อว่า + 1,5ºC Lo Cambia Todo หรือ + 1.5ºC Changes Everything ในภาษาอังกฤษ ซึ่งมีความหมายว่า อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1.5 องศาเซลเซียสนั้น เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ซึ่งเป็นการนำเอาข้อตกลงปารีสในปี 2015 ที่พยายามจะหยุดยั้งการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ให้ร้อนขึ้นเกิน 1.5 องศาเซเลเซียสให้ได้ก่อนปี 2030 ซึ่งการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกนั้น มีผลทั้งต่อระดับน้ำทะเล ความแปรปรวนของสภาพอากาศ และความอยู่รอดของสัตว์หลากหลายสายพันธุ์

การสร้างสรรค์แคมเปญครั้งนี้ เลือกเอางานคลาสสิกระดับโลกมา 4 ภาพ โดยสามภาพนั้นเป็นของศิลปินสเปน ทั้ง ฟรานซิสโก โกยา, ดิเอโก เบลัสเกซ, ฮัวคิน โซโรยา และอีกหนึ่งศิลปินชาวเฟลมิชในยุคเรเนสซองส์อย่าง โยอาคิม ปาร์ตินีร์ โดยใช้การรีทัชภาพและสร้างสรรค์ภาพในธีมใหม่ขึ้นมา โดยศิลปินดิจิทัลอาร์ตทั้ง เปโดร เวโลโซ, มาร์ตา ซาฟรา, ฮูลิโอ ฟาลาแกน และทีมงาน 

ภาพแรกนั้นเป็นผลงานชื่อ  The Parasol ในปี 1777 ของ ฟรานซิสโก โกยา ภาพของหญิงสูงศักดิ์ที่กำลังนั่งพัก โดยมีมีสุนัขบนตัก และชายรับใช้ที่คอยกางร่มให้ กลายมาเป็นภาพของสองผู้อพยพในค่ายผู้อพยพภายใต้สภาพภูมิอากาศที่เลวร้าย

ภาพต่อมาคือภาพ Felipe IV a Caballo ของดิเอโก เบลัสเกซ ซึ่งภาพดั้งเดิมเป็นเป็นภาพกษัตริย์ฟิลิปที่สี่แห่งสเปนบนหลังม้า ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นภาพกษัตริย์ฟิลิปที่สี่แห่งสเปนบนหลังม้าบนผืนดินที่ถูกน้ำท่วมเนื่องด้วยระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 

ภาพต่อมาคือภาพ  Niños en la playa ของ ฮัวคิน โซโรยา โดยดั้งเดิมนั้นเป็นภาพของกลุ่มเด็กชายที่กำลังเล่นน้ำทะเลอยู่บนชายหาด ก่อนจะถูกเปลี่ยนเป็นชายหาดที่เต็มไปด้วยปลาตายเกลื่อนเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ 

และภาพสุดท้ายคือภาพ โยอาคิม ปาร์ตินีร์  El paso de la laguna Estigia จากเดิมปรากฏเป็นภาพคนแจวเรือนามเครอน ซึ่งเป็นผู้ที่คอยพาวิญญาณข้ามฟากแม่น้ำสติกซ์ไปยังนรกตามเทพปกรณัมกรีก ก่อนจะถูกเปลี่ยนเป็นแม่น้ำสติกซ์ที่เหือดแห้งจากภาวะโลกร้อน 

ภาพทั้งสี่ภาพที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่นี้ นำไปติดตั้งเป็นบิลบอร์ดขนาดใหญ่ทั่วกรุงมาดริดในช่วงการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศประจำปี 2019 ที่ผ่านมา

“สำหรับพิพิธภัณฑ์โครงการนี้ แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่งานศิลปะอังทรงคุณค่านี้สามารถนำมาใช้ในการรับใช้สังคมต่อไปได้ คุณค่าของผลงานที่ถูกทำขึ้นมาใหม่นี้ อาจเป็นแรงบันดาลใจและเป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมในการถ่ายทอดให้ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนรุ่นใหม่ ให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ฮาเวียร์ โซลานา ประธานกรรมการบอร์ดบริหารของพิพิธภัณฑ์กล่าว

 

อ้างอิง

ภาพ : Prado Museum

Tags: , ,