เช้าวันที่ 6 มีนาคม 2017 เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 4 ลูกไปทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น และขีปนาวุธ 3 ลูกตกลงในน่านน้ำซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
การยิงขีปนาวุธครั้งนี้เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ทำการซ้อมรบร่วมกัน ซึ่งเกาหลีเหนือมองว่า 2 ประเทศนี้กำลังเตรียมตัวเข้าสู่สงคราม โดยปีที่แล้วเกาหลีเหนือเคยแสดงแสนยานุภาพด้วยการยิงขีปนาวุธในขณะที่ทั้ง 2 ประเทศนี้กำลังร่วมซ้อมรบมาแล้ว
เมื่อเดือนที่แล้วเกาหลีเหนือเพิ่งยิงขีปนาวุธชนิดใหม่เพื่อท้าทายประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งแสนยานุภาพทางอาวุธของเกาหลีเหนือส่งผลให้ทั้งญี่ปุ่นเองเตรียมพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธขั้นสูง รวมถึงสหรัฐฯ กำลังพิจารณาว่าอาจต้องกลับมาพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีใต้อีกครั้ง เพื่อไว้ตอบโต้กับเกาหลีเหนือ หลังจากเคยถอนอาวุธนิวเคลียร์จากเกาหลีใต้ไปเมื่อ 26 ปีที่แล้ว
เมื่อโลกไม่สามารถทราบได้ว่าเกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธเมื่อไร จึงทำให้ประเทศใกล้เคียงต้องหันมาพิจารณาการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง คาบสมุทรเกาหลีจึงกำลังเต็มไปด้วยบรรยากาศความหวาดระแวง
เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 4 ลูก แต่คาดว่ายังไม่ใช่ขีปนาวุธข้ามทวีป
เกาหลีใต้เปิดเผยว่า ลักษณะขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือยิงในครั้งนี้ ไม่ใช่ขีปนาวุธข้ามทวีป (Intercontinental Ballistic Missiles) ที่จะสามารถยิงไปได้ถึงสหรัฐอเมริกา แต่สามารถยิงได้ไกลในระยะประมาณ 1,000 กิโลเมตร ในความสูงประมาณ 260 กิโลเมตร
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ขีปนาวุธบางลูกตกลงบริเวณ 300 กิโลเมตร จากชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นน่านน้ำเขตเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น โดยขีปนาวุธถูกยิงมาจากบริเวณ Tongchang-ri ใกล้กับพรมแดนระหว่างเกาหลีเหนือกับจีน นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นกล่าวว่า “นี่เป็นการกระทำที่อันตรายมาก”
ซึ่งขณะนี้เกาหลีใต้กับสหรัฐอเมริกากำลังทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อวิเคราะห์ว่าขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือยิงครั้งนี้เป็นขีปนาวุธชนิดใด
เกาหลีเหนือแสดงแสนยานุภาพหลังเกาหลีใต้กับสหรัฐอเมริการ่วมซ้อมรบ
สหรัฐอเมริกากับเกาหลีใต้ร่วมกันซ้อมรบประจำปี (Foal Eagle) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (1 มีนาคม 2017) เพื่อแสดงความพร้อมต่อความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับเกาหลีเหนือ ซึ่งเกาหลีเหนือตอบโต้ว่าการร่วมซ้อมรบประจำปีของทั้งสองประเทศเป็นการเตรียมตัวเข้าสู่สงคราม และเมื่อปีที่แล้วเกาหลีเหนือเคยยิงขีปนาวุธในช่วงเวลาที่ทั้งสองประเทศกำลังซ้อมรบ
ทางการเกาหลีเหนือแถลงการณ์ผ่าน KCNA สื่อทางการของเกาหลีเหนือว่า “อีกครั้งที่ชาวสหรัฐฯ ล่าอาณานิคมกับลูกไล่สหรัฐฯ อย่างเกาหลีใต้ร่วมมือกันเตรียมอาวุธร้ายแรง เพื่อไว้ตอบโต้เกาหลีเหนือ แต่ทหารของเราจะต่อสู้ด้วยมาตรการที่เข้มแข็งที่สุด”
เกาหลีเหนือแสดงแสนยานุภาพทางอาวุธของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา เมื่อเดือนที่แล้วเกาหลีเหนือเพิ่งทดลองขีปนาวุธชนิดใหม่เพื่อท้าทายอำนาจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่ก่อนหน้านี้ประกาศว่าจะต้องควบคุมเกาหลีเหนือและคิมจองอึนให้ได้
ประเทศเพื่อนบ้านเตรียมรับมือกับแสนยานุภาพของเกาหลีเหนือ
New York Times เปิดเผยว่าหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ กำลังทบทวนกลยุทธ์ในการตอบโต้กับแสนยานุภาพทางอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งมีทั้งการยิงขีปนาวุธโดยตรงใส่ฐานทัพอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้กับเกาหลีใต้ โดยกลยุทธ์เหล่านี้จะถูกนำเสนอให้ประธานาธิบโดนัลด์ ทรัมป์ พิจารณา
ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ เคยถอนอาวุธนิวเคลียร์ออกจากเกาหลีใต้ในปี 1991 หลังจากที่ทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับการถอนอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี แต่ต่อมาเกาหลีเหนือไม่ทำตามข้อตกลงโดยอ้างว่า เกาหลีเหนือจำเป็นต้องพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เพื่อป้องกันการรุกรานของสหรัฐฯ
ปัจจุบันสหรัฐฯ มีอาวุธถึง 28,500 ชิ้น ในเกาหลีใต้ และเตรียมจะติดตั้งระบบป้องกันอาวุธนิวเคลียร์ขั้นสูง (THAAD – Termimal High Altitude Area Defense) ในเกาหลีใต้ในปลายปีนี้
ขณะที่ญี่ปุ่นเตรียมจะเพิ่มกำลังการป้องกันอาวุธนิวเคลียร์ โดยอาจจะนำระบบป้องกันอาวุธนิวเคลียร์ที่ปัจจุบันติดตั้งอยู่ในเรือบริเวณทะเลของญี่ปุ่นมาติดตั้งบนบกด้วยเช่นกัน
Photo: KCNA KCNA
อ้างอิง:
- www.reuters.com/article/us-northkorea-missiles-idUSKBN16C0YU
- edition.cnn.com/2017/03/05/asia/north-korea-projectile/index.html?sr=fbCNN030617north-korea-projectiles1245AMVODtopLink&linkId=35143560