อังเกลา แมร์เคิล (Angela Merkel) นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีเรียกร้องให้มีการห้ามสวมผ้าคลุมหน้า ที่มีลักษณะคลุมเต็มหน้าในที่สาธารณะ ระหว่างการประชุมพรรค Christian Democratic Union (CDU) เมื่อวันอังคารที่ 6 ธันวาคม 2016

“ผ้าคลุมเต็มหน้าไม่เหมาะสมต่อที่นี่ และจริงๆ แล้วมันควรถูกห้ามทุกที่” เธอกล่าวต่อหน้าสมาชิกพรรค
หลังจากเธอพูดจบ มีเสียงปรบมือดังขึ้นภายในห้องประชุม และนโยบายนี้ได้รับการสนับสนุนจากตัวแทนพรรค CDU ของเธอกว่า 1,000 คน

ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พรรค CDU ของเธอออกมาเรียกร้องให้ผ้าคลุมหน้าเป็นสิ่งผิดกฎหมายในเยอรมนี ก่อนหน้านี้ โทมัส เดอ ไมซิเออร์ (Thomas de Maizière) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เคยออกมาเรียกร้องให้ผ้าคลุมหน้าเป็นสิ่งต้องห้ามในที่สาธารณะเมื่อเดือนสิงหาคม 2016

“ผ้าคลุมหน้าไม่เหมาะกับสังคมและชุมชนของเรา ดังนั้นเพื่อให้เหมาะสมกับสังคมของเรา เราจึงขอให้คุณแสดงหน้าของคุณในที่สาธารณะ” โทมัส เดอ ไมซิเออร์ ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารไทมส์

นโยบายห้ามสวมผ้าคลุมหน้าที่มาพร้อมกับการลงเลือกตั้งสมัยหน้าของแมร์เคิล

นโยบายสนับสนุนกฎหมายห้ามสวมผ้าคลุมหน้ามาพร้อมกับ จุดยืนต่อเรื่องนโยบายรับคนอพยพที่เริ่มเปลี่ยนไปของแมร์เคิล หลังจากเธอตัดสินใจนำพรรค CDU ของเธอเลือกตั้งทั่วไปในปี 2017 เธอประกาศว่า การหลั่งไหลของผู้อพยพหลายพันคนจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะตอนนี้ชาวเยอรมันหลายคนไม่พอใจกับการที่ผู้ลี้ภัยจำนวนมากมาอาศัยอยู่ในประเทศ อีกทั้งรู้สึกว่าไม่อยากแบกรับภาระ และหวาดระแวงต่อภัยก่อการร้าย ซึ่งการสวมผ้าคลุมหน้านั้นจะทำให้ทางการระบุตัวได้ยาก

แม้ว่าเธอจะยังเห็นว่าผู้ลี้ภัยควรจะได้รับการปกป้องจากสงครามในแผ่นดินบ้านเกิด แต่มาวันนี้เธอยอมรับว่า ‘ไม่ใช่ทุกคนจะอยู่ที่นี่ได้’

นโยบายต่อเรื่องผู้อพยพที่เข้มงวดขึ้นของแมร์เคิล สะท้อนว่า พรรคของเธอจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนจุดยืนเรื่องการรับผู้อพยพ เพื่อต่อสู้กับพรรคการเมืองฝั่งขวาในสนามเลือกตั้ง

แม้ว่าโพลสำรวจจะระบุว่า แมร์เคิลและพรรคของเธอจะยังมีคะแนนนำพรรคอื่นๆ และพรรคฝ่ายขวาอย่าง Alternative for Germany จะได้รับความนิยมเพียง 12% แต่แมร์เคิลยอมรับว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ยากที่สุดตั้งแต่เธอลงเลือกตั้งมาทั้งหมดแล้ว 3 สมัย

สองนโยบายทั้งเรื่องการห้ามสวมผ้าคลุมหน้าและนโยบายจำกัดจำนวนผู้อพยพจึงถูกมองได้ว่า แมร์เคิลต้องการเอาใจคนเยอรมันบางกลุ่ม ที่กำลังจะเทใจไปเลือกพรรคการเมืองฝั่งขวา

สังคมยุโรปกำลังเดินหน้าสู่บรรยากาศความหวาดระแวง

หลังจากยุโรปเจอกับเหตุการณ์ก่อการร้ายหลายครั้ง ฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายห้ามสตรีใส่เบอร์กา (Burqa, เครื่องแต่งกายสตรีของชาวมุสลิมที่ปิดตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้า และบริเวณใบหน้าใช้เป็นผ้าตาข่าย) และนิกาบ (Niqab, เครื่องแต่งกายสตรีของชาวมุสลิม ที่มีลักษณะคล้ายกัน แต่จะเปิดบริเวณดวงตา)

ถ้าหากใครฝ่าฝืนกฎหมายนี้ จะถูกปรับเป็นเงิน 150 ยูโร หรือต้องทำงานสาธารณะ

เบลเยียม และสวิตเซอร์แลนด์ คืออีกสองประเทศที่ออกกฎหมายห้ามสวมผ้าคลุมหน้าตามฝรั่งเศส

ศาลด้านสิทธิมนุษยชนของยุโรปสนับสนุนกฎหมายนี้ แม้ว่าสาวชาวมุสลิมวัย 24 ปี จะออกมาบอกว่า กฎหมายห้ามสวมผ้าคลุมหน้าของฝรั่งเศสเป็นการทำลายสิทธิเสรีภาพด้านศาสนาของเธอ และกระทบกับวัฒนธรรม และความเชื่อของเธอ ซึ่งเธอได้ยืนคำร้องต่อศาลสูงสุดของยุโรปในสตราสบูรก์ (Strasbourg) แต่สุดท้ายศาลมีดุลยพินิจว่า กฎหมายห้ามสวมผ้าคลุมหน้าไม่ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด ซึ่งทำให้ชาวมุสลิมในยุโรปมีความเห็นออกไป 2 ทาง ฝ่ายหนึ่งมองว่าการห้ามสตรีมุสลิมสวมผ้าคลุมหน้านั้นทำให้สตรีมุสลิมมีเสรีภาพมากขึ้น ขณะที่นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนบางกลุ่มมองว่า กฎหมายนี้เป็นการกดขี่ชาวมุสลิมในยุโรป

ปัจจุบันมี 5 ชาติที่มีกฎหมายห้ามสวมผ้าคลุมหน้าที่คลุมเต็มหน้าในที่สาธารณะ คือ ฝรั่งเศส เบลเยียม ชาด (Chad) คองโก และกาบอง (Gabon) และยังมีอีกหลายประเทศ เช่น จีน อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ที่บางรัฐมีกฎหมายนี้ หรือประเทศอย่างซีเรีย และมาเลเซียที่มีกฎหมายห้ามสวมผ้าคลุมหน้าเฉพาะในบางสถานที่ อย่างเช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถานที่ราชการ

กฎหมายห้ามสวมผ้าคลุมหน้าที่หลายประเทศในยุโรปเริ่มนำมาพิจารณา ไม่เพียงสะท้อนว่าพวกเขามองว่าสิ่งนี้ขัดต่อวัฒนธรรมของยุโรป แต่ยังชี้ให้เห็นว่าโลกกำลังเดินหน้าสู่บรรยากาศหวาดระแวง ที่จะนำไปสู่ปรากฏการณ์ความนิยมต่อพรรคฝ่ายขวาในยุโรป ที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันนักในการเมืองสมัยใหม่

อ้างอิง:
     – www.aljazeera.com/news/2016/12/angela-merkel-full-face-veil-banned-germany-161206130507492.html
– http://edition.cnn.com/2016/12/06/europe/angela-merkel-full-veil-ban-germany
– http://edition.cnn.com/2014/07/01/world/europe/france-burqa-ban

Tags: , ,