อีกหนึ่งร้านอาหารอิตาเลียนที่มีคอนเซ็ปต์ไม่เหมือนใครย่านทองหล่อ สำหรับ Mio Food & Art ที่ผสมผสานความเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์และงานศิลปะนำเข้าจากยุโรป กับร้านอาหารอิตาเลียนแบบดั้งเดิมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

Mio Food & Art เป็นร้านอาหารกึ่งโชร์รูมเฟอร์นิเจอร์ ที่นำเฟอร์นิเจอร์และงานศิลปะรูปทรงแปลกตาสไตล์โมเดิร์นมาจัดวางเป็นของตกแต่งภายในร้านทั้งสองชั้น ไม่ว่าจะมาเป็นโต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟ กรอบรูป มีที่นั่งรองรับได้มากกว่า 50 ที่ มีเคาน์เตอร์บาร์และเครื่องสไลด์เนื้อที่ตั้งอย่างโดดเด่นอยู่กลางร้าน

ภายในบรรยากาศเหมือนนั่งทานอาหารอยู่ในแกลลอรีงานศิลปะ Mio Food & Art ใส่ใจกับวัตถุดิบที่นำมาใช้ทำเป็นอาหารอิตาเลียน โดยวัตถุดิบส่วนหนึ่งนำเข้าจากอิตาลี อีกส่วนหนึ่งใช้วัตถุดิบในประเทศไทย แต่ไม่ใช่แค่การเลือกซื้อจากเกษตรกรเท่านั้น ทางร้านหาพาร์ทเนอร์ฟาร์มปศุสัตว์จากภาคอีสาน และบุกเบิกการผสมพันธุ์เทียม เพื่อสร้างวัวสายพันธุ์พิเศษขึ้นมา สำหรับเนื้อแบล็คแองกัสและชาร์โรเลส์ ผ่านกรรมวิธีการผสมเทียมลูกโคด้วยคุณภาพสูง ที่ปล่อยให้เติบโตอย่างอิสระตามธรรมชาติ และให้กินอาหารธัญพืช เช่นมันสำปะหลัง ผลไม้ และกากน้ำอ้อย เป็นเวลาอย่างน้อย 15 เดือน ก่อนจะนำไปบริโภค นอกจากนี้ยังต้องนำไปแขวนกับราวทิ้งไว้เป็นเวลา 20 วัน ตามแบบฉบับอิตาลี และการเก็บรักษาเนื้อก็ถูกควบคุมอุณหภูมิความชื้นไว้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เนื้อยังคงความนุ่มและฉ่ำเป็นพิเศษ เมื่อถูกส่งมาทำเป็นสเต็กเนื้อที่ร้าน

มาถึงเมนูอาหาร ทางเชฟอันโตนิโอ แฟคชิเนติ หัวหน้าเชฟของร้านภูมิใจนำเสนอ Selection Cold Cuts la Mora Romagnola with Condiments (ราคา 890 บาท) เชฟใช้เครื่องสไลด์เนื้อแบบต่างๆ เช่น พาร์มาแฮม และซาลามีมาเสิร์ฟในจานเดียวกันเป็นเมนูเรียกน้ำย่อย ก่อนต่อด้วยจานถัดมาเป็น Imported Burrata, Vine Tomatoes, Culatello (ราคา 420 บาท) บูราต้าชีสนำเข้าจากอิตาลีทานคู่กับมะเขือเทศและแฮม เราชอบจานนี้เพราะรสชาติของบูราต้าชีส เค็มๆ มันๆ ตัดกับความหวานของมะเขือเทศ และยิ่งทานคู่กับขนมปังด้วยอร่อยมาก

Selection Cold Cuts la Mora Romagnola with Condiments

ส่วนจานหลักเป็นพาสต้า ในเมนูชื่อ Cavatelli, Nduja Sausage, Red Onion, Pomodoro Fresco (ราคา 420 บาท) พาสต้าไส้กรอกผัดกับหัวหอมแดงและซอสมะเขือเทศ อาจดูไม่แปลกใหม่เท่าไร แต่รสชาติก็จัดว่าใช้ได้ทีเดียว และมาถึงพระเอกของงานคือ Costata (Prime Rib 500gr) (ราคา 1,400 บาท) สเต็กเนื้อ ตอนแรกเชฟทำมาเป็นสเต็กเนื้อแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ แต่เรารู้สึกว่าเนื้อข้างในดูสีแดงสดไปหน่อย เลยขอให้ย่างเพิ่มให้สุกกว่าเดิมอีกเล็กน้อย พอเราได้ทานแล้วก็ถือว่าเป็นสเต็กเนื้อที่ใช้ได้คือไม่ถึงกับแย่ แต่อาจไม่ว้าวมากนัก เนื้อติดมันเล็กน้อย เคี้ยวเพลินๆ ก็นุ่มดี แต่เชฟบอกว่าให้ทานแบบยังไม่ใส่ซอสก่อนในคำแรกเพื่อจะให้ได้รสสัมผัสของเนื้อแบบเต็มคำ

Cavatelli, Nduja Sausage, Red Onion, Pomodoro Fresco

Costata (Prime Rib 500gr)

คลาสสิกทีรามิสุ

ปิดท้ายเมนูด้วยขนมหวานอย่าง คลาสสิกทีรามิสุ (ราคา 240 บาท) เสิร์ฟมาในกระถางต้นไม้สุดน่ารัก ที่ไม่ถึงกับหวานมากนัก หอมกลิ่นกาแฟ ตัดเลี่ยนกับสตรอว์เบอร์รีลูกโตที่วางอยู่ด้านบน นอกจากนี้ทางร้านยังมีเครื่องดื่มทั้งม็อกเทลและค็อกเทลสั่งได้ตามใจชอบ หรือจะลองซิกเนเจอร์ดริ้งของทางร้านก็ไม่ว่ากัน

Fact Box

  • Mio Food & Art ตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของโครงการ Alcove สุขุมวิท 53 เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.30 - 23.00 น.ข้อมูลเพิ่มเติมคลิก www.miofoodart.com หรือ Facebook: https://www.facebook.com/MIO-foodart
Tags: