“คุณกลัวอะไรกันแน่”
เป็นข้อความในป้ายประกาศที่นักศึกษามหาวิทยาลัยปักกิ่งประท้วงมหาวิทยาลัย ที่พยายามปิดบังรายงานการสืบสวนสอบสวนกรณีอาจารย์ข่มขืนลูกศิษย์ ด้านรัฐจีนก็เซ็นเซอร์ข้อความและแฮชแท็ก #MeToo สุดฤทธิ์ จนนักศึกษาที่เคลื่อนไหวครีเอทวิธีใหม่ คือเขียนแถลงเปิดผนึก เผยแพร่ผ่านเงินดิจิทัลในระบบบล็อกเชน
ขบวนการเคลื่อนไหว #MeToo แพร่หลายในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ทางการจีนตอบโต้อย่างระมัดระวัง พร้อมกับบอกว่า การรณรงค์จากต่างชาติไม่มีพื้นที่ในประเทศจีน อย่างไรก็ตามนักศึกษายังคงเรียกร้องให้มีมาตรการป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ และใช้โซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางรายงานกรณีที่อาจารย์มีความประพฤติไม่เหมาะสม
หลังจาก เย่ว ซิน (Yue Xin) นักศึกษามหาวิทยาลัยปักกิ่ง (Peking University) เคลื่อนไหวในประเด็นการล่วงละเมิดในมหาวิทยาลัย อาจารย์ก็พาแม่ของเธอมาที่หอพักตอนตี 1 ของวันจันทร์ที่ผ่านมา (23 เม.ย.) เพื่อเตือนเธอให้หยุดทำให้มหาวิทยาลัยอับอาย ด้วยการพูดถึงเหตุการณ์ที่มีหญิงอายุ 20 ปีคนหนึ่งถูกข่มขืน
จากนั้น ก็มีปฏิกิริยาโต้กลับอย่างรุนแรงต่อการกระทำของมหาวิทยาลัย กลุ่มนักศึกษาติดป้ายข้อความว่ามหาวิทยาลัยทรยศต่อคุณค่าของตัวเอง และกล่าวว่าเยว่กำลังยืนหยัดด้วยจิตวิญญาณของการเคลื่อนไหวของนักศึกษาเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 1919
“คุณกลัวอะไรกันแน่” เป็นคำถามที่อยู่บนป้ายที่มีข้อความว่า “ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกับเยว่ซินผู้กล้าหาญของเรา” (In Solidarity with Our Brave Yue Xin)
ด้าน เยว่ ซิน ก็ออกจดหมายเปิดผนึกที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ เล่าถึงความพยายามเธอและนักศึกษาอีกเจ็ดคนเพื่อกดดันมหาวิทยาลัยให้เปิดเผยบันทึกที่เกี่ยวกับกรณีละเมิดเมื่อปี 1988 ที่ศาสตราจารย์เฉิน หยาง (Shen Yang) ถูกกล่าวหาว่าข่มขืน เกา หยาน (Gao Yan) นักศึกษาในตอนนั้น เธอยังบอกเพื่อนๆ และญาติว่าเธอถูกเขาข่มขืน และฆ่าตัวตายในเวลาต่อมา
กรณีนี้ได้รับความสนใจหลังจากที่ในเดือนนี้ เพื่อนของเกา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากขบวนการเคลื่อนไหว #MeToo โพสต์ข้อความระลึกถึงเธอทางอินเทอร์เน็ต มีชาวจีนหลายล้านคนได้อ่านเรื่องราวของเกาและโกรธมาก มหาวิทยาลัยปักกิ่งเปิดเผยว่าได้ส่งคำเตือนไปยังเฉินแล้วเกี่ยวกับข้อสงสัยที่ว่าเขามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม หลังจากตำรวจเข้ามาสืบสวนกรณีนี้ในปี 1998 ส่วนเฉิน ซึ่งปัจจุบันเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่งปฏิเสธข้อกล่าวหา
เยว่กล่าวในจดหมายว่า สำนักทะเบียนข่มขู่ว่าจะยับยั้งการจบการศึกษาของเธอ และบังคับให้เธอลบเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนกรณีนี้
นอกจากนี้ ในช่วงสองสามสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวจีนพบว่า ข้อความที่เกี่ยวกับขบวนการ #MeToo หายไปจาก วีแชต (WeChat) เว่ยป๋อ (Weibo) และสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (24 เม.ย.) นักศึกษาได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกของเยว่ทางอินเทอร์เน็ต แต่จดหมายของเธอถูกเซนเซอร์อย่างรวดเร็ว ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนหนึ่งจึงเริ่มโพสต์ใหม่โดยโพสต์แบบที่ต้องอ่านจากล่างขึ้นบน โดยหวังว่าจะหลบการเซนเซอร์ได้
บางคนใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อหลีกเลี่ยงการเซนเซอร์ของรัฐบาล ด้วยการส่งเงิน 0 อีเธอเรียม (สกุลเงินดิจิทัล) ออกไป เมทาดาตาของธุรกรรมนี้จะสามารถบรรจุเนื้อหาในจดหมายลงไปในโน้ตได้ด้วย เหมือนกับเวลาที่เราโอนเงินออนไลน์ และกรอกข้อความลงไปตรง Note ได้ก่อนจะกดส่ง และในกรณีของอีเธอเรียม ธุรกรรมทั้งหมดเปิดสาธารณะ ทำให้ใครๆ ก็อ่านข้อความใน Note ได้
ขณะที่การเซนเซอร์ใช้วิธีตัดช่องทางการเข้าถึงเว็บหรือบังคับให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเซนเซอร์ข้อความ แต่มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปลี่ยนบล็อกเชนที่เป็นสาธารณะอย่างอีเธอเรียมหรือบิตคอยน์
ประธานสมาคมบิทคอยน์แห่งฮ่องกงอธิบายว่า ในการหาจดหมายนี้ เราจะต้องมี URL ของเว็บที่แสดงบันทึกการส่งข้อมูลบน block explorer ซึ่งเป็นเหมือนเว็บค้นหาธุรกรรมบนบล็อกเชน แต่กำแพงเมืองจีนเวอร์ชั่นดิจิทัลไม่สามารถตัดการเข้าถึง block explorer ได้แบบเดียวกับที่ตัดการเข้าถึงเฟซบุ๊ก
มหาวิทยาลัยปักกิ่งพยายามยุติการถกเถียงเรื่องนี้
นักศึกษาบางคนประกาศบอยคอตต์งานครบรอบ 120 ปีของมหาวิทยาลัยที่จะมาถึงในเดือนพฤษภาคมนี้ด้วยแฮชแทค #NotMyAnniversary
“คนส่วนใหญ่แค่ช็อกและสับสน” นักศึกษาคนหนึ่งกล่าว “บรรยากาศทางการเมืองกำลังตึงเครียดทั้งภายในและนอกมหาวิทยาลัย”
นักศึกษาที่เรียนจบไปแล้วตั้งแต่ปี 2006 ให้สัมภาษณ์ว่า ความพยายามในการบล็อกการอภิปรายในเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศเป็นสิ่งโง่เขลาและเกินทน
มหาวิทยาลัยปักกิ่งไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ
ขณะที่ความโกรธเคืองต่อการกระทำของมหาวิทยาลัยต่อเยว่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยหาทางไกล่เกลี่ย
ขณะที่หนังสือพิมพ์พีเพิลส เดลี (People’s Daily) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์หลักของพรรคคอมมิวนิสต์ ได้ตีพิมพ์บทความที่ระบุว่า “โรงเรียนและนักเรียนไม่ใช่ปฏิปักษ์ต่อกัน” และบอกว่า มหาวิทยาลัยควรจะหาทางทำความเข้าใจความคิดและการกระทำของคนหนุ่มสาว
เหอ เว่ยฟาง (He Weifang) อาจารย์ด้านกฎหมายของมหาวิทยาลัยปักกิ่งกล่าวว่า สมาชิกของหลายคณะโกรธที่มหาวิทยาลัยปฏิบัติต่อเยว่ ซึ่งรณรงค์เรื่องการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่ม LGBT เช่นนี้
นักศึกษาอีกหลายคนซึ่งพยายามผลักดันให้การสืบสวนกรณีการล่วงละเมิดทางเพศมีความโปร่งใสมากขึ้นก็ถูกฝ่ายบริหารคุกคาม เหอบอกว่า มหาวิทยาลัยปักกิ่งเป็นหนึ่งในสถาบันอันทรงเกียรติที่สุดของจีนควรจะซื่อสัตย์และโปร่งใส
“ความต้องการความจริงของนักศึกษาแสดงให้เห็นว่าพวกเขารับผิดชอบต่อสังคม มหาวิทยาลัยควรจะขอโทษ ไม่เพียงแค่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนเท่านั้น แต่ต่อสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นด้วย”
ที่มาภาพ: REUTERS/Thomas White
ที่มา:
- https://www.nytimes.com/2018/04/24/world/asia/china-metoo-peking-university.html
- https://qz.com/1260191/metoo-activists-in-china-are-turning-to-the-blockchain-to-dodge-censorship/