ถ้าพูดกันตามสเตอริโอไทป์แล้ว คนเยอรมันอาจจะได้ชื่อว่าเป็นชาติที่ขึงขังและจริงจัง ดังนั้นเมื่อทราบมาว่าเชฟเมอร์โค เคลเลอร์ (Mirco Keller) เชฟหนุ่มชาวเยอรมันมาเปิดร้านของตัวเองในชื่อ Keller Bangkok ใจเราก็แอบคิดไปก่อนว่าบรรยากาศคงต้องออกมาเป็นแบบขรึมๆ สไตล์เยอรมันแน่ๆ จนเมื่อมีโอกาสได้ไปลองชิมเมื่อไม่นานมานี้ก็ต้องบอกว่าผิดจากที่คาดไปไกล

อันที่จริงแล้ว ตัวเชฟเองดูจะไม่ผิดคาดสักเท่าไร เชฟเมอร์โค เคลเลอร์ เชฟชาวเยอรมันผู้เคยฝึกฝีมือกับเชฟระดับตำนานอย่างทิม ลฮาวห์เวอร์ (Tim Raue) มากว่าสิบปี รวมถึงประจำอยู่ที่ Water Library สาขาจามจุรีสแควร์ถึงแปดปีเป็นเชฟที่จริงจังที่สุดคนหนึ่ง ด้วยความท่ีอยากจะสร้างสรรค์เมนูที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า Keller Bangkok ในช่วงเปิดแรกๆ นี้จึงมีการปรับเปลี่ยนเมนูอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเชฟคนนี้ก็ไม่ใช่คนที่ประนีประนอมในเรื่องคุณภาพและรสชาติซะด้วย

ที่ผิดคาดจริงๆ คือบรรยากาศของร้านที่ซ่อนตัวในแมนชั่นสีขาวหลังใหญ่ในย่านสวนพลู ภายในร้านเน้นโทนสีทอง ชมพูเบบี้พิงค์ และเขียวจากต้นไม้ ส่วนโซนที่นั่งจัดเป็นโต๊ะแบบหันหลังชนกัน ดูสบายๆ แต่เป็นสัดเป็นส่วน โดยมีห้องแบบไพรเวทสำหรับหมู่คณะจำนวน 2 ห้อง ซึ่งในแต่ละวันที่นี่สามารถรับรองลูกค้าได้ 32 ที่นั่ง ซึ่งแม้จะเพิ่งเปิดมาไม่ทันไร บางวันกับเต็มอยู่เหมือนกัน ฉะนั้นถ้าจะให้ดีควรสำรองที่นั่งล่วงหน้า

 

Toast Hawaii

คอนเซ็ปต์ของร้านนั้นถูกออกแบบมาให้ล้อไปกับอาหารแบบ Contemporary European Cuisine ที่เชฟนิยามว่าเป็นอาหารยุโรปแบบกินง่าย และเข้าถึงได้ง่ายแบบไม่ต้องพยายาม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงคุณภาพและเทคนิคแพรวพราวแบบอาหารไฟน์ไดนิ่งที่เขาเชี่ยวชาญ โดยเมนูของที่นี่เป็นการผสมผสานระหว่างอาหารยุโรปแบบดั้งเดิมและเทคนิคสมัยใหม่ พร้อมกลิ่นอายของความเป็นเยอรมนีซึ่งเป็นบ้านเกิดของเชฟ รวมถึงความเป็นเอเชียที่เชฟได้สัมผัสมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2010 เมื่อเขาตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่เอเชีย อาหารของที่นี่จึงเป็นเหมือนหนังสือหนึ่งเล่มที่บอกเล่าแต่ละช่วงเวลาในชีวิตของเขา ตั้งแต่รสชาติอาหารที่เขาโปรดปรานในวัยเด็ก ไปจนถึงวินาทีที่เขาได้ชิมน้ำฝรั่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เมืองไทย 

Berliner Senfei

Chilean Sea Bas

Charred Nakhonpathom Pork Jowl

ในวันนี้ Keller Bangkok เสิร์ฟอาหารทั้งแบบอะ-ลา-คาร์ทและแบบเป็นคอร์สสั้นๆ ที่เรียกว่า ‘Keller Signature Journey’ (2,900++ บาท) โดยเริ่มจากอาหารเรียกน้ำย่อยอย่าง Toast Hawaii กระทงทองอันจิ๋วและซุปเห็ดอุ่นๆ ที่ให้ยกซดแบบเอสเพรสโซช็อต แล้วค่อยเข้าสู่เมนู Fish Mousse ที่เสิร์ฟไข่ปลาเทราต์และฮามาจิดิบพร้อมกับมูส ท็อปด้วยเลมอนเดรสซิ่ง ทานคู่กับข้าวเกรียบกุ้ง ตามด้วย Berliner Senfei อาหารคอมฟอร์ตฟู้ดของเชฟตอนเด็กๆ ที่แพร์มันฝรั่งรมควันบดกับไข่เป็ดออนเซ็นกับบีทรูตดอง แถมด้วยคาเวียร์ที่เชฟเติมเข้ามาให้จานนี้หรูหรายิ่งขึ้นและเป็นการเพิ่มรสชาติไปในตัว ส่วนเมนคอร์สนั้นมีให้เลือกระหว่าง Chilean Sea Bass เสิร์ฟพร้อมแอสพารากัส ชิเมจิและซอส Chive Velvet หรือ Charred Nakhonpathom Pork Jowl คอหมูเนื้อนุ่มจากนครปฐมที่เชฟบอกว่าคุณภาพดีที่สุด มาพร้อมกับพูเรต้นหอมฝรั่ง มะม่วง และซอสที่เคี่ยวจากซุปกระดูกหมู ซึ่งเชฟบอกว่าเขาได้แรงบันดาลใจในการทำเมนูนี้มาจากซุปราเมนที่ต้องเคี่ยวน้ำซุปให้กลมกล่อมนั่นเอง ปิดท้ายด้วย Guava ขนมหวานแสนสดชื่นที่ผสมผสานเท็กซ์เจอร์ของฝรั่งดองและซอร์เบต์ฝรั่งสดเข้ากับโยเกิร์ตเอสพูม่า อะโลเวรา มะพร้าวและนูกัต ซึ่งได้ไอเดียมาจากรสชาติตอนได้ชิมน้ำฝรั่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เมืองไทยนี่เอง

Guava

แถมท้ายสำหรับคนชอบไวน์ เราแอบบอกว่าที่นี่ไม่ได้มีดีแค่อาหารเท่านั้น แต่ยังสามารถสั่งไวน์จาก The Wine Room ที่ Cloud Wines คอนเซ็ปต์สโตร์ของ Wine Garage ที่อยู่ห้องข้างๆ มาทานคู่กันได้แบบไม่เสียค่าเปิด โดยที่นี่จะเน้นไวน์โลกเก่า พร้อมไวน์แบบไบโอไดนามิก ไม่ว่าจะแวะมาหาอะไรทานเบาๆ หลังเลิกงานหรือมาสังสรรค์แบบไพรเวทกับกลุ่มเพื่อน ที่นี่ก็พร้อมต้อนรับเสมอ… อร่อย ง่ายๆ สบายๆ แฮปปี้ ตรงตามคอนเซ็ปต์เชฟเค้าล่ะ

 

Fact Box

  • Keller Bangkok ตั้งอยู่ที่เลขที่ 31 สวนพลูซอย 2 เปิดตั้งแต่วันพุธถึงวันจันทร์ เวลา 18.00-22.00 น. (หยุดวันอังคาร) สำรองที่นั่ง โทร. 0-2092-7196 หรืออีเมล reservations@kellerbangkok.com 
Tags: