ฮิงาชิโนะ เคโงะ นักเขียนชื่อดังที่ผลงานของเขาถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และซีรีส์หลายเรื่อง เป็นที่รู้จักและโดดเด่นจากนวนิยายประเภทสืบสวนสอบสวน
เคโงะเริ่มเขียนนวนิยายหลังจากเรียนจบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ขณะนั้นเขายังทำงานเป็นวิศกรควบคู่ไปด้วยกับการเขียนหนังสือ จนต่อมาได้รับชนะเลิศรางวัลเอโดะงาวะ รัมโป และตัดสินใจลาออกจากงานมาเริ่มอาชีพนักเขียนเต็มตัว
เคโงะเขียนผลงานออกมาอย่างสม่ำเสมอ และทุกเรื่องก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีตลอดมา เรื่องราวของเขามักเหนือความคาดหมาย หักมุม และชวนขบคิด ซึ่งนอกเหนือไปจากนวนิยายสืบสวนสอบสวนแล้ว ผลงานที่ไม่ได้มีกลิ่นอายชัดเจนจากฆาตกรรมก็ยังทำได้ดีไม่แพ้กัน
หลังจากที่ผลงานของเขาห่างหายไปจากตลาดหนังสือบ้านเรา แต่ในช่วง 2-3 ปีมานี้ก็ได้มีหลายๆ สำนักพิมพ์หยิบผลงานของเคโงะมาจัดจำหน่ายอีกครั้ง ทั้งผลงานเก่าและผลงานใหม่ และสำหรับหนังสือ 5 เล่มนี้น่าจะเป็นที่ครองใจผู้อ่านมากเป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้
ความลับ
ผู้แปล: บุญชู ตันติรัตนสุนทร
Himitsu แปลตรงตัวจากภาษาญี่ปุ่นว่า ความลับ ซึ่งต้นฉบับในภาษาไทยก็ใช้ชื่อเดียวกันนี้ แต่กลับกันในชื่อภาษาอังกฤษ หนังสือเล่มนี้ใช้ชื่อว่า Naoko ซึ่งเป็นชื่อภรรยาหรือตัวละครตัวสำคัญของเรื่อง
ความลับ เป็นนวนิยายที่ได้รับรางวัล Mystery Writers of Japan Award ครั้งที่ 52 ตีพิมพ์ในปี 1998 และได้รับการนำไปสร้างภาพยนตร์ในอีกหนึ่งปีถัดมา
หนังสือเล่าเรื่องของครอบครัวครอบครัวหนึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วยพ่อแม่ลูก ได้แก่ เฮซึเกะ ผู้เป็นสามีและเสาหลักของบ้าน นาโอโกะ ภรรยาผู้เป็นแม่บ้านเต็มตัว และโมนามิ ลูกสาววัยประถมศึกษาปีที่ 5 ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวธรรมดาๆ ทั่วไป แต่แล้ววันหนึ่งเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้ครอบครัวไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อรถทัวร์ที่นาโอโกะและโมนามิโดยสารไปต่างจังหวัดเกิดประสบอุบัติเหตุ คนจำนวนกว่าครึ่งบนรถเสียชีวิตในทันที รวมถึงนาโอโกะด้วยเช่นกัน โมนามิรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่เรื่องราวดันผิดแผกไปจากที่มันควรจะเป็น เพราะความจริงแล้วคนที่รอดมาได้คือนาโอโกะต่างหาก วิญญาณของเธอสถิตอยู่ในร่างของลูกสาว และไม่ใช่แค่เธอที่สับสน เพราะเมื่อเฮซึเกะได้รู้ความจริง เขาก็ไม่สามารถยอมรับได้ในทันทีเหมือนกัน
ความลับครั้งนี้ดูจะไม่ยากเย็นเท่าไรในการปิดบังคนนอก แต่กับภายในจิตใจตัวละครแล้ว มันเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน ทั้งความรู้สึกผิด ความรู้สึกรัก เส้นบางๆ ของศีลธรรม การก้าวเดินต่อไปในชีวิต ฯลฯ เนื้อหาไม่ได้ฉาบฉวยอยู่ที่การสลับร่างเท่านั้น แต่ผู้เขียนเล่นกับความรู้สึกของผู้อ่านและตัวละครได้เป็นอย่างดี ความสับสนจากการสูญเสีย ความเจ็บปวดจากความลับที่ร่วมกันปิดบัง และความลับที่ปิดบังต่อกันเอง
ความลับ ปราศจากการฆาตกรรมโดยสิ้นเชิง แต่กลับชวนให้เราประหลาดใจและติดตามอย่างไม่อยากหยุดพัก รวมถึงจุดหักมุมในตอนท้ายก็เหนือกว่าสิ่งที่ใครจะคาดคิดไว้ได้ มันจึงเต็มไปด้วยอรรถรสและความเจ็บปวดเกินกว่าจะหาอะไรมาเปรียบเทียบ
นิ้วสีแดง
ผู้แปล: วงส์สิริ สังขวาสี มิยาจิ
แม้ว่า นิ้วสีแดง จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับฆาตกรรม แต่มันก็แฝงไปด้วยความดราม่าและสายสัมพันธ์ครอบครัวไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ในขณะที่เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น เราก็แทบจะรู้ในทันทีว่าใครคือฆาตกร แต่ถึงอย่างนั้นการดำเนินเรื่อง รวมถึงการสืบสวนก็ไม่ได้ทำให้น่าเบื่อแต่อย่างใด จุดหักมุมนอกจากจะทำให้ประหลาดใจแล้ว ยังบีบคั้นหัวใจผู้อ่านให้เจ็บช้ำอย่างง่ายดาย
อาคิโอะ ชายวัยกลางคนที่มีชีวิตเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดา มีภรรยาเป็นแม่บ้าน และลูกชายที่เข้ากันไม่ค่อยได้ แต่ครอบครัวนี้ไม่ได้มีกันแค่สามคนเท่านั้น อาคิโอะยังต้องดูแลแม่ผู้แก่ชราด้วยอีกหนึ่งชีวิต ซึ่งตั้งแต่พ่อเขาจากไป แม่ก็ไม่ค่อยพูดค่อยจา ชอบเก็บตัว ทั้งยังหลงๆ ลืมๆ อยู่เป็นประจำ
ค่ำวันหนึ่งอาคิโอะได้รับสายจากภรรยาว่าให้รีบกลับบ้าน แถมน้ำเสียงยังเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเขาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ภรรยาก็ไม่ตอบ เขาจึงรีบรุดหน้ากลับไป เมื่อมาถึงบ้านก็พบความผิดปกติและกลิ่นฉุนบางอย่าง ลางสังหรณ์ที่กังวลไว้ตอนแรกถูกทำให้ตื่นตะลึงด้วยคำตอบที่ต่างออกไป แต่กลับเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม
สวนข้างบ้านปรากฏร่างไร้วิญญาณของเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ประสาทของพวกเขาเครียดขมึง และพยายามหาทางออกที่เป็นไปได้มากที่สุด คนลงมือไม่ใช่คนอื่นไกล นั่นคือลูกชายของเขาเอง แต่การเลี้ยงดูและให้ความรักอย่างผิดๆ ทำให้พวกเขาตัดสินใจจะป้ายความผิดให้หญิงชราที่ถูกตัดสินว่าเป็นอัลไซเมอร์ ซึ่งก็คือแม่ผู้ให้กำเนิดอาคิโอะ!
นอกจากเรื่องฆาตกรรมแล้ว นิ้วสีแดง ยังสะท้อนให้เห็นสภาพสังคมของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ทั้งเรื่องการเลี้ยงดูลูก ปัญหาความรุนแรงในเยาวชน การรับมือกับผู้สูงอายุ ความสำคัญของหนังสือเล่มนี้จึงไม่ใช่การหาฆาตกร แต่เป็นการรู้ผิดชอบชั่วดีและหน้าที่ของตน ความรักความเอาใจใส่ในสายใยครอบครัวที่ขาดสะบั้น สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลต่อคนรอบตัว แต่ยังรวมถึงสังคมในวงกว้างอีกด้วย
ฆาตกรรมคืนฝนดาวตก
ผู้แปล: อิศเรศ ทองปัสโณว์
บางทีสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น ความจริงมากมายถูกทำให้เข้าใจผิดจากจุดนั้น เพราะบางครั้งการที่เราเลือกจะเชื่อสิ่งที่ตาเห็นก็ดูจะง่ายกว่า ซึ่งบ่อยๆ มันก็ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเราเอง
ฆาตกรรมในคืนฝนดาวตก เป็นเรื่องราวของสามพี่น้องนักต้มตุ๋น ที่เติบโตมาในบ้านเด็กกำพร้า เพราะพ่อแม่ของพวกเขาถูกฆาตกรรม ในคืนที่ฟ้าไร้เมฆหมอก พี่น้องทั้งสามคนแอบหนีออกจากบ้านเพื่อไปรอดูฝนดาวตก แต่ครั้นกลับมาถึงบ้าน พวกเขาก็ต้องพบความจริงอันโหดร้ายว่าพ่อแม่ของตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว
ชีวิตวัยเด็กของพวกเขาหายไปภายในพริบตา ครอบครัวแสนอบอุ่นไม่มีอีกต่อไป พวกเขาต่างเก็บความคับแค้นนั้นไว้ในใจตลอดมา ทั้งสามปิดบังตัวเองจากคนภายนอกเรื่องความสัมพันธ์ทางสายเลือด สิ่งหนึ่งที่พวกเขาพร้อมใจจะทำร่วมกันก็คือการตามหาตัวคนร้าย จากการพยายามอย่างหนักทำให้พวกเขาค้นพบเป้าหมายในที่สุด คนที่น่าจะเป็นฆาตกรในคืนนั้น
พวกเขาพยายามยิ่งขึ้นไปอีกเพื่อหาหลักฐานมัดตัว แต่ยิ่งสืบต่อไปมากเท่าไร กลับยิ่งเจอเรื่องที่ผิดแปลกออกไปมากเท่านั้น ความจริงค่อยๆ ปรากฏตัวตรงหน้า และมันก็ทำให้พวกเขาเจ็บปวดยิ่งๆ ขึ้น สิ่งที่ฆาตกรทำนั้นได้ทำลายชีวิตของพวกเขาอย่างไม่อาจหวนคืน
สำหรับเรื่องนี้เคโงะไม่ได้เปิดเผยตัวฆาตกรให้ผู้อ่านทราบตั้งแต่แรก แม้ดูเหมือนว่าจะทำแบบนั้นก็ตาม มันคล้ายจะดูเป็นไปตามสูตรสำเร็จ ค่อยๆ สืบสวนแล้วสิ่งที่ซ่อนอยู่ก็จะค่อยๆ เผยออกมา แต่อย่าลืมว่าเคโงะถนัดนักกับการหลอกผู้อ่านให้หลงทิศ ชะตากรรมของตัวละครอยู่ในมือเขาทั้งหมด
ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ
ผู้แปล: กนกวรรณ เกตุชัยมาศ
นวนิยายที่มียอดขายกว่า 12 ล้านเล่ม และถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งฉบับภาพยนตร์ก็ได้รับการตอบรับที่ดีไม่ต่างจากต้นฉบับ ความน่าสนใจของเรื่องนี้คือมันมีความอบอุ่นบางอย่างที่ต่างออกไปจากเรื่องอื่นๆ ของเคโงะ ทั้งยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านได้เป็นอย่างดี ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นนั้นสอนตัวละครทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งมันก็ได้ทำให้ชีวิตใครคนใดคนหนึ่งเปลี่ยนไปตลอดกาล
เรื่องราวเริ่มต้นจากหัวขโมยสามคน ที่หลบหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในร้านชำนามิยะ ซึ่งห่างไกลและรกร้างจากผู้คน ร้านชำนี้มีเจ้าของคือคุณนามิยะที่เสียชีวิตไปหลายสิบปีแล้ว ที่นี่ไม่เพียงเป็นร้านชำเท่านั้น เพราะเมื่อก่อนคุณนามิยะยังรับปรึกษาปัญหาต่างๆ จากผู้คนทั่วไปโดยผ่านจดหมายด้วย
แต่แล้วในวันครบรอบวันเสียชีวิต 33 ปีของคุณนามิยะ หัวขโมยทั้งสามดันมากบดานอยู่ที่นี่พอดี ทันใดนั้นจึงมีจดหมายปรากฏขึ้น ใจความของจดหมายเขียนมาเพื่อปรึกษาปัญหาชีวิตและขอคำแนะนำจากเจ้าของร้าน พวกเขานึกสนุกจึงตอบจดหมายกลับไป เรื่องน่าประหลาดใจก็คือจดหมายนั้นถูกส่งมาจากอดีตเมื่อ 40 ปีก่อน และทุกครั้งที่พวกเขาตอบกลับไป จดหมายฉบับใหม่ก็จะถูกส่งต่อมาในทันที มิติของกาลเวลาบรรจบลง ณ จุดจุดหนึ่ง ทั้งสามจึงพยายามหาคำตอบให้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
เคโงะร้อยเรียงเรื่องราวไว้อย่างลื่นไหล ทำให้ผู้อ่านไม่สับสนกับช่วงเวลาทั้งกับอดีตและปัจจุบัน ตัวละครแต่ละตัวมีความเชื่อมโยงกันอย่างที่เราคาดไม่ถึง จดหมายแต่ละฉบับสอดแทรกด้วยเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ทั้งการเติบโต การมีชีวิต และความเจ็บปวด แม้เราจะเป็นได้เพียงผู้สังเกตการณ์ แต่เราก็สามารถรับรู้ถึงความในใจอันเปี่ยมล้นที่ออกมาจากคุณนามิยะได้ ดังนั้นแล้วจงใช้ชีวิตอย่างที่จะไม่เสียใจในภายหลัง ทั้งหมดนั่นขึ้นอยู่กับตัวเราเอง
พิษรักสั่งตาย
ผู้แปล: ธนัญ พลแสน
พิษรักสั่งตาย เป็นนวนิยายที่เคยตีพิมพ์มาแล้วครั้งหนึ่งโดยสำนักพิมพ์ Bliss Publishing ซึ่งในตอนนั้นใช้ชื่อว่า ‘รักต้องฆ่า’ เป็นผลงานซีรีส์ยอดนิยมของเคโงะที่ส่งผลให้เขาได้รับรางวัลไปมากมาย และยังถูกนำไปสร้างเป็นละครยอดฮิตของญี่ปุ่นอีกด้วย
พิษรักสั่งตาย เฉลยตัวคนร้ายไว้ตั้งแต่แรก แต่การสืบสวนอย่างมีชั้นเชิงนั้นกลับทำให้ผู้อ่านไม่สามารถวางหนังสือลงได้ง่ายๆ
ในวันที่ดูเหมือนจะสงบสุขวันหนึ่ง แต่กลับเกิดคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ ผู้ตายคือโยชิทากะ เขาถูกวางยาจนเสียชีวิตในบ้าน และคนที่น่าจะเป็นคนร้ายมากที่สุดก็ไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหน แต่คืออายาเนะ ภรรยาของเขาเอง เธอมีแรงจูงใจมากพอที่จะก่อเหตุ เพราะตัวผู้ตายนั้นพยายามจะเขี่ยเธอออกจากชีวิต ด้วยเหตุผลที่ว่าอายาเนะไม่สามารถมีลูกให้เขาได้
แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าในวันเกิดเหตุ อายาเนะกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัด เธอจึงไม่มีทางลงมือสังหารสามีตัวเองได้ แต่มันมีเงื่อนงำบางอย่างที่ยังไม่กระจ่าง ซึ่งก็เกินกว่าที่ตำรวจจะรับมือไหว ดังนั้น พวกเขาจึงไหว้วานนักฟิสิกส์ผู้ปราดเปรื่อง ยุคาวะ ผู้มีฉายาว่ากาลิเลโอ มาช่วยสืบคดี โยชิทากะตายได้อย่างไร ยาพิษถูกซ่อนไว้ที่ไหน และวิธีการฆาตกรรมเป็นอย่างไร ทำไมการที่ใครคนหนึ่งเดินจากไปถึงทำให้อีกคนสิ้นลมหายใจลงได้ ปมปริศนานี้จะค่อยๆ คลายออก และเกิดเป็นคดีฆาตกรรมที่สมบูรณ์แบบที่สุดคดีหนึ่ง
ไม่มีการฆาตกรรมใดไม่หลงเหลือหลักฐาน ทุกอย่างทิ้งร่องรอยไว้เสมอ ไม่เว้นแม้แต่กับความรัก เคโงะทำให้เราเชื่ออย่างสนิทใจในการอธิบายการสืบสวนอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ทุกอย่างสอดคล้องและเป็นเหตุเป็นผลเหมือนจับวาง แล้วเราจะต้องทึ่งให้กับความทุ่มเทของหญิงสาวคนหนึ่ง
Tags: นวนิยายแปล, Keigo Higashino, วรรณกรรมญี่ปุ่น, นวนิยาย