จอร์แดนหนึ่งในประเทศที่มีมาตรการตอบโต้ไวรัสโคโรนาที่เข้มงวดที่สุดในโลก ได้ผ่อนปรนระดับมาตรการลง ภายหลังประชาชนตึงเครียดและมีความวุ่นวายเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงมาตรการเคอร์ฟิวห้ามประชาชนออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 18.00 – 10.00 น. ของอีกวัน
เมื่อวันอังคารที่ 24 มีนาคม รัฐบาลจอร์แดนยอมผ่อนปรนมาตรการปิดเมืองหลังจากประกาศใช้เป็นระยะเวลา 4 วัน โดยประชาชนสามารถออกจากบ้านด้วยการเดินเท้าเพื่อทำสิ่งที่จำเป็น เช่น ซื้อของจากร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก หรือไปรับยา
ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา จอร์แดนได้เพิ่มระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ หลังจากมีการยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรกในประเทศ ตั้งแต่การปิดพรมแดน ปิดสนามบิน มหาวิทยาลัย และ ศาสนสถานทุกแห่ง ผู้โดยสารจากเที่ยวบินขาเข้าถูกส่งไปกักตัวทันที ซึ่งบางครั้งถูกกักตัวในโรงแรมห้าดาวที่เป็นของรัฐ และถูกนำตัวเข้าเมืองโดยมีกองกำลังทหารนำขบวน
ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 7.00 น. ของวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม รัฐบาลจอร์แดนได้เริ่มมาตรการห้ามประชาชนออกจากบ้านไม่ว่าในกรณีใดๆ ห้ามเดินเท้าไปซื้อของในร้านชำ หรือซื้อยาจากร้านขายยา โดยรัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบแบ่งปันขนมปังและน้ำสำหรับแต่ละครัวเรือน รวมถึงยังมีการใช้ประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 18.00 – 10.00 น. ของอีกวันหนึ่ง ซึ่งนับว่าเป็นมาตรการที่เข้มงวดกว่าในหลายประเทศของยุโรป ทั้งที่จอร์แดนมีตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพียง 153 คน
สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นรายงานว่าการประกาศเคอร์ฟิวเต็มรูปแบบทำให้รถติดอย่างหนักในวันศุกร์ที่ผ่านมา เพราะผู้คนมุ่งไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อหาอาหารและสิ่งของจำเป็น รวมถึงยังมีวีดิโอที่ฉายภาพผู้คนหลายร้อยคนตะลุมบอมกันเพื่อซื้อขนมปังในร้านเบเกอรี่
ต่อมาในวันอาทิตย์ รัฐบาลประกาศว่าการเคอร์ฟิวจะขยายออกไปอย่างไม่มีกำหนด ทำให้ความแตกตื่นครอบคลุมไปทั่วประเทศ หน่วยงานความมั่นคงของจอร์แดนรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ผ่านมามีประชาชน 1,657 คน ถูกจับเพราะละเมิดเคอร์ฟิว ซึ่งผู้ฝ่าฝืนอาจถูกจำคุกถึงหนึ่งปี
การประกาศเคอร์ฟิวและห้ามเดินทาง ทำให้บางครอบครัวไม่สามารถออกไปซื้อของใช้จำเป็นโดยเฉพาะยาได้ และโทรศัพท์สายด่วนของรัฐบาลใช้การไม่ได้เพราะระบบล่มเนื่องจากมีคนโทรเข้ามาหลายหมื่นสายต่อวัน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าประชาชนจำนวนหนึ่งไม่ได้รับส่วนแบ่งอาหารจากรัฐบาล
อดัม คูเกิ้ล รองผู้อำนวยการขององค์กร Human Right Watch ประจำภูมิภาคตะวันออกกลาง และ แอฟริกาเหนือ กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า “คนส่วนใหญ่รู้สึกสบายใจขึ้นมาก เมื่อนายกรัฐมนตรีประกาศเมื่อคืนก่อนว่าร้านชำขนาดเล็กสามารถเปิดขาย และคุณ (ประชาชน) สามารถเดินไปซื้อของได้”
“เราขอโทษสำหรับการตัดสินใจเช่นนั้น แต่มันเป็นไปเพื่อคุ้มครองความปลอดภัย และปกป้องสุขภาพของท่าน” อัมจาด อาเดเลห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการสื่อของจอร์แดนกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี มาตรการปิดเมืองอย่างเข้มงวดของรัฐบาลจอร์แดนก็ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนส่วนหนึ่ง โดยให้เหตุผลว่าเป็นหน้าที่ที่ประชาชนพึงกระทำในห้วงเวลาฉุกเฉิน
“ลองมองดูสิ่งที่เกิดในอิตาลี และ ฝรั่งเศส พวกเขาดำเนินมาตรการช้าเกินไป ซึ่งจอร์แดนได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว” ฮัสซัน คาริม ลูกจ้างในร้านขายเสื้อผ้ากล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น
“ไม่มีหนทางแก้ปัญหาที่สมบูรณ์แบบในห้วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เป็นเรื่องธรรมชาติที่จะมีข้อผิดพลาดและการล่วงละเมิด และเราจะแก้ไขมัน” รัฐมนตรีอาเดเลห์กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร
ที่มา:
https://edition.cnn.com/2020/03/25/middleeast/jordan-lockdown-coronavirus-intl/index.html
https://www.bbc.com/news/world-middle-east-52020261
https://nationalpost.com/pmn/health-pmn/jordan-eases-nationwide-curfew-and-allows-shops-to-open
ภาพ: REUTERS/Muhammad Hamed
Tags: จอร์แดน, โคโรนาไวรัส, โควิด19, เคอร์ฟิว