หากพูดถึง เจตมนต์ มละโยธา หรือ เจ Penguin Villa หลายคนคงนึกภาพมือกีต้าร์ อดีตสมาชิกวงดนตรีอัลเทอร์เนทีฟจากคณะเพื่อนพี่น้องจากสถาปัตย์ ลาดกระบัง ที่มีชื่อเสียงโดงดังในช่วงปี 2538 อย่างวง พราว ซึ่งได้ฝากผลงานอย่าง ‘เธอคือความฝัน’ ไว้ให้ได้ฟัง นับเป็นก้าวแรกของเขาในฐานะนักแต่งเพลง ก่อนที่สายลม แสงดาว และกาลเวลาจะนำทางเขาสู่การเป็นนักแต่งเพลงโฆษณา ผู้นำค่ายเพลงอย่าง ‘สมอลล์รูม’ รวมไปถึงศิลปินที่ทำทุกอย่างในนามของวง Penguin Villa

The Momentum มีโอกาสพูดคุยเรื่องราวเส้นทางชีวิต ความจริง และความฝัน ของผู้ชายมากฝีมือคนนี้ ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง ณ บ้านของเขาย่านปิ่นเกล้า ยามบ่ายแก่ๆ ที่ท้องฟ้าส่อเค้าว่าฝนอาจกำลังจะตก

ลาดกระบัง – ภูเก็ต – เอกมัย และหมู่บ้านเพนกวิน

แม้ว่าการเป็นมือกีต้าร์วงพราว จะเป็นจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการให้กับเจ-เจตมนต์ในวงการดนตรี แต่ถ้าจะให้เล่าจริงๆ เขาบอกกับเราว่าจุดเริ่มต้นมันเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ รุ่งโรจน์ อุปถัมภ์โพธิวัฒน์ หรือ รุ่ง สมอลล์รูม เดินเข้ามาชวนเขาไปเป็นมือเบสให้กับวงอัลเทอร์เนทีฟที่เจยกย่องว่ามือฝีมือระดับเทพอย่าง วงครับ ตอนที่เขาเข้ามาเป็นเฟรชชีที่คณะสถาปัตย์ ลาดกระบัง

“มันเหมือนเป็นฉากเปิดของชีวิตผมเลยว่าคนๆ นี้จะเอาดีทางไหน ผมเห็นพี่เขาหัวฟูๆ จากทางหน้าต่างที่เดินเข้ามาที่คณะชั้นล่างตอนนั้นก็คิดว่า ใครวะเนี่ยโคตรเปรี้ยวเลย เดินมาชวนเราไปเล่นเบสให้วงเขา แต่ด้วยความอีโก้ของเรา ผมก็เลยไม่เล่น ไม่ไป สุดท้ายพี่แกก็เล่นเบสเอง และวงครับ ก็กลายเป็นวงที่เป็นแบบพระเจ้าเลยนะในตอนนั้น”

นั่นเป็นจุดที่ทำให้เขาไม่ยอมปล่อยให้โอกาสในการเป็นนักดนตรีหลุดมือไปเป็นครั้งที่สอง และตอบรับคำชวนของรุ่นพี่ร่วมคณะอย่าง พิซซ่า-ชัยบรรฑิต พืชผลทรัพย์ หรือที่รู้จักกันในนาม พิซซ่า วงพราว แม้ว่าจะชวนเจไปเป็นมือกลองก็ตาม

“ผมกับพี่พิซซ่าก็นั่งรอต่อทีมอยู่ คือเขาก็รู้แหล่ะว่าผมเล่นดนตรี เป็นมือกีต้าร์ เขาก็ถามผมว่ามีเพื่อนที่เป็นมือกลองเจ๋งๆ ไหม ผมก็เลยตอบไปว่า ผมนี่แหละพี่ (หัวเราะ) คล้ายๆ จะเป็นแผนลวง แต่ผมไม่อยากจะพลาดโอกาส ก็เลยเอาไว้ก่อนแล้วกัน เพราะสุดท้ายผมก็ได้ไปเล่นกีต้าร์ เพราะพอไปที่บ้านแกก็ไปคิดแต่ไลน์กีต้าร์ เขาก็เลยให้ผมเล่นกีต้าร์แล้วกัน (หัวเราะ)”

หลังจากวงพราวรุ่งเรืองอยู่ 2 ปี ประเทศไทยก็ต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจฟองสบู่แตก เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เพลงโมเดิร์นร็อกอัลเทอร์เนทีฟหมดความนิยม ทำให้วงพราวตัดสินใจยุติการทำวงและแยกย้ายไปตามทางตัวเอง ซึ่งสำหรับเจคือการตั้งใจเรียนให้จบเพื่อเป็นสถาปนิก และไม่คิดว่าจะกลับมาทำเพลงอีก แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เขาก็ยังพบหนทางที่ทำให้กลับมาอยู่กับดนตรีและการแต่งเพลงได้อีกครั้งจากรุ่นพี่คณะคนเดิม ‘พี่พิซซ่า’

“ตอนนั้นเจอไอเอมเอฟ เกิดวิกฤตฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ ทำให้งานสถาปัตย์ช่วงนั้นซบเซาไปด้วย สมัครงานที่ไหนก็ไม่ได้ ผมก็ได้พี่พิซซ่านี่แหละ ที่บ้านแกทำรับเหมา ทำให้ผมได้ไปคุมงานอยู่ที่ภูเก็ต ก็ทำอยู่ปีหนึ่งจนส่งมอบงานเรียบร้อย ก็เป็นพี่พิซซ่าเหมือนกันที่เริ่มชวนมาทำเพลง แบบรับจ้างทำเพลงโฆษณาไหม นั่นคือจุดเริ่มต้นของค่ายสมอลล์รูมที่ย่านเอกมัย” เจกล่าว

ขณะที่จุดเริ่มต้นของวง Penguin Villa เกิดขึ้นเมื่อปี 2547 โดยเขาปล่อยอัลบั้มเต็มออกมาในชื่อว่า ออกไปข้างนอก ซึ่งที่มาของชื่อหมู่บ้านเพนกวินนั้นมาจากเกมที่เขาเล่นตอนเด็กๆ

“มันมีเกมตอนเด็กๆ ที่แม่ให้เราพูดชื่อนก 12 ชนิด นกเอี้ยง นกขุนทอง นกพิราบ ตัวท้ายๆ เริ่มนึกไม่ออก แล้วตัวสุดท้ายก็พูดชื่อนกเพนกวิน แม่ก็บอกว่านั่นแหละคือตัวเรา เพราะตัวแรกๆ เราจะพูดไปเรื่อย แต่พอตัวท้ายๆ มันจะเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเรา เป็นสิ่งที่เรานึกไม่ถึงว่ามันคือตัวเรา ก็เลยเชื่อมโยงกับเพนกวินมาตั้งแต่ตอนนั้น”

เรื่องราวของความฝันและจดหมาย 500 ฉบับ

การมาพบเจที่บ้านแล้วไม่ได้พูดถึงเพลงสร้างชื่อของเขาอย่าง เธอคือความฝัน คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เจเล่าให้เราฟังว่าตอนแต่งเพลงนี้ไม่ได้เกิดจากอารมณ์สุนทรีย์แต่อย่างใด แต่มันมาจากบรรยากาศของพี่ๆ ในวงพราวที่แต่งเพลงกัน ทำให้เขาอยากแต่งบ้าง จึงหยิบเรื่องราวของตัวเอง ตอนเป็นเด็กสถาปัตย์ปี 2 ไว้ผมยาว แล้วบังเอิญเก็บภาพรุ่นน้องผู้หญิงคนหนึ่งไปฝันนำมาเรียบเรียงเป็นเพลง

“เล่าความจริงก่อนนะครับ เวลาน้องปีหนึ่งมาเนี่ยเราก็จะไปดูว่าคนไหนเป็นน้องรหัส แล้วก็เจอภาพน้องคนนี้ เราก็เอาเก็บไปฝัน ซึ่งในฝันมันค่อนข้างจะหลงตัวเองนิดหนึ่งครับ มันจะมีทางเดินยาวจากคณะไปโรงอาหาร มีรุ่นน้องเรียงแถวแล้วก็ทักทาย ‘พี่เจคะ พี่เจๆ’ อารมณ์แบบหลงตัวเอง​ ป๊อปปูลาร์มาก (หัวเราะ) แต่น้องคนสุดท้ายในแถวที่ผมเห็นคือน้องคนที่ผมว่าน่ารักนี่ล่ะ คนนี้เขาไม่ทักเรา คือเดินไปเลย คือเธอเหมือนนางในฝันอะไรซักอย่าง แล้วก็พอรู้สึกว่าจะต้องแต่งเพลงก็คิดถึงประโยคนี้ เธอคือความฝัน และคนนั้นๆ ก็คือภรรยาของผมในปัจจุบัน”

“สมัยอยู่มหาลัยผมกับน้องเขาอยู่กันคนละโลกเลย น้องเขาค่อนข้างดูเรียบร้อย ส่วนผมก็จะมีวีรกรรมที่ไม่ค่อยดีเท่าไร ก็จะรู้ว่าอย่าไปยุ่งกับน้องเขาเลย จนผมเรียนจบ ก็รู้สึกว่าถ้าจะจีบแล้วแห้วมันจะได้ไม่ต้องมีเหตุการณ์มองหน้ากันไม่ติด พอเรียนจบก็เลยไปจีบน้องเขาดู”

“ช่วงปี 2540 คนยังเขียนจดหมายหากันอยู่ ผมก็เขียนจดหมายไปสารภาพรัก เพราะไม่กล้าเดินไปบอก ก็ได้แค่เขียนจดหมายไปอาทิตย์ละฉบับ แต่เขาไม่ตอบ จนผมไปทำงานที่ภูเก็ตก็ยังเขียนอยู่ จนน่าจะครบหนึ่งร้อยฉบับ ผมถึงได้จดหมายตอบกลับมาเป็น สคส. ปีใหม่ (เคาะกีต้าร์)  ผมก็รู้สึกว่ามีความหมาย แล้วก็ยังเขียนต่อ น่าจะเกิน 500 ฉบับ ผมชอบเขียนด้วย ก็รู็สึกว่า เขาอ่าน เราเลยเขียนต่อไป” (หัวเราะ)

ทั้งนี้เขายังบอกกับเราว่าเพลงเธอคือความฝันยังเป็นเพลงที่ไม่มีเพลงไหนที่เขาเคยแต่งมาเทียบได้ และยังอยากแต่งแบบนั้นได้อยู่ เพราะมันมีทั้งความใสซื่อ แต่มีพลัง ใช้ถ้อยคำที่มีความหมายในการเล่าเรื่องที่เขายอมรับว่ามันเป็นเพลงที่เกิดขึ้นจากอารมณ์ที่บริสุทธิ์ล้วนๆ

ชาวสุขนิยม

วันเวลาผ่านไปเจผ่านเรื่องราวมามากมายทั้งเรื่องราวส่วนตัว จนไปถึงชีวิตศิลปินของเขาเอง เขาบอกกับเราว่า ถ้าให้พูดถึงโมเมนต์ในชีวิตที่ชัดเจนที่สุดคือช่วงเวลาที่ไปสุดทุกทางกับชาวสุขนิยม

“ถ้าช่วงที่รู้สึกว่าชีวิตมันมีเรื่องราวมากมายเหลือเกิน มันน่าจะเป็นสมอลล์รูมช่วงตอนอยู่ที่เอกมัยซอย 10 มันคือตอนปี 2545 ช่วงนั้นรู้สึกว่าทำไมเวลามันนานเหลือเกิน ทั้งความเหน็ดเหนื่อยเรื่องงานโฆษณาก็เยอะ และบรรยากาศของ Fat Festival ที่เฟื่องฟู”

“ตอนนั้นผมมีร้านอาหาร Opening Soon เป็นคอมมูนิตี้ที่รวมแต่คนแปลก ที่มีความสุขนิยม เหมือนมีความเป็นเด็กอยู่ ช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ทำงานหนักหน่วง แล้วมาเจอคนติงต๊องพวกนี้ ก็แบบจะเป็นโลกอีกแบบหนึ่งที่มันค่อนข้างสุดทุกอย่าง เฮฮา เรียกได้ว่าช่วงนี้คือจุด Climax ของชีวิตได้เลย” เจกล่าว

ให้เมโลดี้นำทาง

ปัจจุบันเจเป็นทั้งนักแต่งเพลงโฆษณา และศิลปินให้กับวงตัวเอง ซึ่งงาน 2 รูปแบบนี้มีทั้งความเหมือนและความต่าง โดยที่ความต่างของมันคือ เพลงโฆษณานั้นเปิดโอกาสให้เขานำคำสนุกๆ มายัดได้ ใช้คำขายของแล้วคนให้ความสนใจ และติดหูในที่สุด ส่วนเพลงตัวเอง เขากล่าวว่าจะเน้นการใช้คำที่สวยงามในการเล่าเรื่องมากกว่า

ทั้งนี้เจยังบอกกับเราว่าการแต่งเพลงนั้นมีหลายแพทเทิร์น ตั้งแต่คิดเมโลดี้ก่อน คิดคำก่อน หรือคิดเรื่องราวก่อน ขึ้นอยู่กับว่าอะไรจะสร้างแรงบันดาลใจให้เขาก่อนกันแล้วให้สิ่งนั้นนำทาง

“ส่วนใหญ่เพลงจะเกิดจากคำๆ หนึ่ง แต่ล่าสุดอย่างเพลงเว… และความลับในฝูงปลา เป็นเพลงที่ใช้วิธีแต่งใกล้เคียงกับเพลง เธอคือความฝัน เป็นวิธีที่คิดเมโลดี้มาก่อน ไม่ได้วางพลอตใดๆ ไม่คิดว่าจะต้องแต่งเพลงเกี่ยวกับอะไร พอได้เมโลดี้มาปุ๊ป ให้เมโลดี้มันพาเราไป ผมก็ร้องเมโลดี้นี้ให้มันติดแล้วก็เดินไปในหมู่บ้าน มันเกิดประโยคไหนก่อนก็ให้ประโยคนั้นนำพา แล้วค่อยหาเรื่องมาปะติดปะต่อ นี่ก็คือเหมือนว่าเป็นแพทเทิร์นที่ทำให้กลับไปสู่สามัญ และได้ผลลัพธ์ที่ดี เพลงมันก็อาจจะมีความซับซ้อนนิดหนึ่งในเรื่องราว ผมอาจจะไปได้ประโยคที่ 8 ก่อน แต่ผมเน้นที่คำว่าร้องง่าย คำอาจจะไม่ต้องยากมากให้คนร้องเพลิดเพลิน หรือว่าคำอาจจะยากก็ได้ แต่ร้องแล้วมันเพลิน ภาษาไทยมันมีคำที่เพลิดเพลินอยู่เยอะ”

ชีวิตที่มีความหมายกับเพลง และ 14 ปีที่หายไปของ Penguin Villa

ศิลปินนักแต่งเพลงส่วนใหญ่มักจะนำเอาเรื่องราวส่วนตัวเรียบเรียงออกมาเป็นเพลง ทำให้เราอยากรู้เหลือเกินว่าในหลายผลงานที่เจได้สร้างสรรค์ขึ้นมานั้น มีเพลงไหนบ้าง

“คือผมไม่รู้ว่าผมมีความหมายต่อเพลงหรือมีเพลงมีความหมายกับผม แต่ถ้าเกิดเพลงที่มีความหมายต่อชีวิตจริงๆ ก็คือ เธอคือความฝัน มันคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดเพราะว่ามันทำให้ผมรู้สึกว่าเราเอาดีทางนี้ได้”

“Acrophobia คือเพลงที่เราแต่งตามสูตรที่เราคิด สูตรคือขึ้นมาร้องง่ายแล้วก็โซโล่มีลีลาที่เด็กม.ปลาย อยากจะเอาไปเล่นประกวด ตอนนี้เด็กยังเอาไปประกวด อันนั้นคือวางแผนไว้แล้ว (หัวเราะ) ตามสูตรมาก ก็รู้สึกว่าเราก็ทำแบบนี้ได้สำเร็จ”

“แล้วก็มีเพลงในอัลบั้มแรก กลับไปที่โลก ที่ไม่อยากให้คนรู้สึกว่ามีแต่เพลงกิมมิคแบบขอบันไดหน่อย แล้วก็มีเพลงเศร้าจริงจังแบบกลับไปที่โลก เพลงนั้นก็มีความหมายมากตรงที่ผมไม่คิดว่าคนจะอินมาก คิดว่าคนจะชอบเพนกวินวิลล่า จาก Acrophobia จนวันที่ได้ไปเล่นที่งานของแฟตงานหนึ่ง ผมก็เล่นเพลงนี้ไปตามลิสต์ กลับไปที่โลกพอผมขึ้น “ก็ดีที่มีแต่…” คนก็ร้องตามทั้งฮอลล์ ถึงแม้จะเป็นฮอลล์เล็กๆ ผมก็เหวอ เพราะเป็นเพลงที่ไม่ได้ตั้งใจจะให้คนมาร้องด้วยกัน ทำให้รู้สึกว่าคนชอบเพลงที่มันสวยงามและมีความหมาย ก็เลยแต่งเพลงที่จะลบภาพเพลงอย่างขอบันไดหน่อย”

นอกจากนี้ยังมีเพลง เธอคือความจริง และ ร้อยล้านวิว ที่มีความหมายกับเขาเช่นเดียวกัน เป็นเพลงที่เกิดขึ้นหลังจาก Penguin Villa พยายามออกอัลบั้มที่ 2 แต่หาเพลงมาทำให้ลิสต์ในอัลบั้มสมบูรณ์ไม่ได้ เป็นเวลาร่วม 14 ปี ที่ในการรวบรวมเพลงออกมาได้สำเร็จ ซึ่งในอัลบั้มนี้ เขาบอกกับเราว่าภาพรวมความเป็นเดโม่สะท้อนไปถึงภาพปก ที่เห็นเป็นห้องช่างทำกีต้าร์ ซึ่งความเป็นเดโม่มันจะมีอะไรบางอย่างที่เวลาอัดจริงแล้วทำไม่ได้ และคนก็จะสัมผัสอารมณ์ดิบๆ แบบนั้นในผลงานของเขาอยู่

การไม่ให้จะทำให้เราสูญเสีย

อย่างไรก็ตามเจ-เจตมนต์ในวัย 43 ปี ยังมีอีกหนึ่งบทบาท คือการเป็นพ่อของลูกที่น่ารัก 3 คนในบ้านหลังนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าเขาน่าจะได้กลายเป็นคุณพ่อมือโปรที่เต็มไปด้วยพลังงานบวก ความอบอุ่น และอารมณ์ขันไปแล้ว ซึ่งเราเองก็คงได้สัมผัสผ่านผลงานของเขามาบ้างเหมือนกัน บางเพลงก็เหมือนกับว่าอยู่ดีๆ ก็พาเรามาอยู่ที่ริมหาดใกล้ทะเล หรือไม่ก็ข้างบ่อปลาคาร์ฟในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงดาว โดยเขาบอกกับเราว่าต้นกำเนิดของพลังงานเหล่านี้ถูกส่งต่อและหล่อหลอมมาจากครอบครัวที่อบอุ่นของเขา

“ผมมาจากครอบครัวทั่วๆ ไป อบอุ่นปกติ คือผมไม่ค่อยเจอ…พูดแล้วจะต้องเคาะไม้ไหมนะ…ความเลวร้ายเท่าไรในชีวิต ผมเองก็เหมือนเคยรู้สึกกับคำว่าโชคดี ทำไมมันดีจังเลย ซึ่งมันทำให้ผมนึกถึงคำที่พ่อผมเคยพูดไว้ว่า ‘ถ้ามันดีมาก แล้วมันมีอะไรที่ให้ได้ ก็ให้เขาไปเถอะ’ น่าจะมาจากสิ่งนี้ เพราะผมได้รับสิ่งๆ มาก็อยากส่งต่อ ซึ่งผมก็สอนลูกของผมแบบนี้เช่นกัน ไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจหรือป่าวนะ” (หัวเราะ)

จากประสบการณ์ชีวิต เขาถ่ายทอดเรื่องราวที่ครั้งหนึ่งมันทำให้เขาฉุกคิดได้ว่าการไม่ให้นั้นมันอาจจะส่งผลลบมากกว่าที่คิด

“ในอดีตเคยมีเพื่อนร่วมมาขอพอร์ตของผมไปเป็นพอร์ตเขา ผมก็ไม่ให้ เพราะมันเป็นผลงานผมและมันจะไม่ดีกับเขาด้วย เกิดเป็นความบาดหมางขึ้น จนวันเวลาผ่านไปมันก็ทำให้ผมนึกถึงสิ่งพ่อพูดได้ว่า ‘ถ้าเขาอยากได้ก็ให้เขาไป’ เหมือนกล้าขอก็กล้าให้ เพราะเขาคงไม่ได้มาขอแขนลูก หรือขอลูกไปแบบพระเวสสันดร มันทำให้ผมรู้สึกว่าไม่ให้แล้วมันจะเกิดการสูญเสียมากกว่า” เขากล่าว

Fact Box

  • เจ-เจตมนต์ มละโยธา กำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบครั้งแรกในชื่อ Leo Presents PENGUIN VILLA WHY FLY? CONCERT ซึ่งจัดขึ้นที่ Moonstar Studio 8 ในวันที่ 29 มิถุนายน 2562 โดยเจ้าตัวเผยว่าจะเล่นทั้งหมด 25 เพลง พร้อมแขกรับเชิญอีก 3 คนที่ยังไม่เปิดเผย
Tags: , ,