เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา เจฟฟรีย์ เอปสไตน์ เศรษฐีชาวอเมริกัน ผู้ซึ่งเป็นทั้งนักการเงินและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในชนชั้นนำของสหรัฐฯ ปลิดชีพตนเองภายในห้องขังที่นครนิวยอร์ก เขาตัดสินใจผูกคอตนเองระหว่างการพิจารณาคดีในความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงและการค้าประเวณีเด็ก หากแต่ว่าการสืบสวนเพื่อสืบหาผู้ที่เกี่ยวข้องยังคงดำเนินต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนในสหรัฐฯ รวมทั้งพยานต่างๆ เผยให้เห็นว่า เรื่องราวการล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงของเอปสไตน์ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในสหรัฐฯ
ความผูกพันกับประเทศฝรั่งเศสของเศรษฐีอเมริกันผู้นี้ส่งผลให้สองรัฐมนตรีฝรั่งเศส ซึ่งดูแลเรื่องความเท่าเทียมระหว่างเพศและการปกป้องคุ้มครองผู้เยาว์ ออกมาขอร้องให้มีการสืบสวนในฝรั่งเศส โดยทั้งสองชี้แจงว่า มีชาวฝรั่งเศสเกี่ยวโยงกับคดีดังกล่าวและมีเหยื่อที่เป็นชาวฝรั่งเศสรวมอยู่ด้วย
ทั้งนี้ สมาคมปกป้องเด็กและสตรีจากความรุนแรง Innocence en Danger ได้โพสต์รูปจดหมายเปิดผนึกต่ออัยการฝรั่งเศสบนทวิตเตอร์ในวันที่ 12 กรกฎาคม เรียกร้องให้หน่วยงานฝรั่งเศสเข้ามามีส่วนร่วมในการสืบสวนกรณีการล่วงละเมิดของเอปสไตน์ นอกจากนี้ ยังแจ้งอีกว่า ทางสมาคมได้รับคำยืนยันจากเหยื่อของเอปสไตน์ว่ามีคนสัญชาติฝรั่งเศสพัวพันกับคดีนี้
โดยตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ที่ผ่านมา เศรษฐีอเมริกันผู้นี้ใช้ชีวิตส่วนหนึ่งในปารีส และก่อนที่เขาจะถูกควบคุมตัว เขาพักอยู่ที่ปารีสเป็นระยะเวลากว่าหลายสัปดาห์
ตั้งแต่ต้นปี 2018 ที่ผ่านมา เอปสไตน์เดินทางไปปารีสกว่า 11 ครั้ง ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว (N120JE และ N212JE) และเขายังเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์หรูมูลค่ากว่า 8.5 ล้านดอล์ลาร์สหรัฐ บนพื้นที่ประมาณ 2,300 ตารางเมตร ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 22 ถนนฟอช อาเวนู (Avenue Foch) ในเขต 16 ของกรุงปารีส ห่างจากช็องเซลีเซและประตูชัยเพียงไม่กี่ก้าว
อดีตคนงานคนหนึ่งซึ่งเคยเข้ามาปรับปรุงซ่อมแซมในอพาร์ตเมนต์เมื่อช่วงปี 2000 บรรยายสภาพภายในอพาร์ตเมนต์ว่า “ในโถงทางเดินมีรูปเด็กผู้หญิงเปลือยมากมาย” และในอีกด้านหนึ่ง อดีตเลขาผู้ช่วยที่เคยติดตามเอปสไตน์ไปยังที่ต่างๆ จำได้ว่ามีเด็กผู้หญิงหลายคนมาที่อพาร์ตเมนต์ในถนนฟอช อาเวนู “แต่มันไม่เหมือนที่ปาล์ม บีช (ฟลอริดา) ซึ่งเด็กสาวสามารถมาพร้อมกันได้ 8 หรือ 10 ในเวลาเดียวกัน” เธอกล่าว
ในเหล่าบรรดาคนใกล้ชิดเอปสไตน์ ชาวฝรั่งเศส 2 คนตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าพัวพันกับคดีล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้น ซึ่งประกอบด้วย กีส์เลน แมกซ์เวล (Ghislaine Maxwell) อดีตเพื่อนสาวคนสนิทของ เอปสไตน์ และชอง-ลุก บรูเนล (Jean-Luc Brunel) ผู้จัดการเอเจนซี่จัดหานางแบบ โดยทั้งสองถูกคาดว่าเป็นผู้จัดหาเด็กสาวเพื่อสนองความต้องการของเอปสไตน์
ทั้งนี้ยังพบว่าในสำเนา ‘สมุดบันทึกสีดำเล่มเล็ก’ ของเอปสไตน์ปรากฏรายชื่อเบอร์โทรผู้ติดต่อมากมาย เช่น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อีกทั้งสมุดบันทึกดังกล่าวยังได้เขียนว่า ‘นวดปารีส’ อีกด้วย ซึ่งหลายฝ่ายเดาว่าสมุดเล่มนี้รวบรวมเบอร์ติดต่อของเหยื่อและผู้ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับคดีเอปสไตน์ เช่น ชอง-ลุก บรูเนล
เวอร์จิเนีย โรเบิร์ตส์ จิฟร์ (Virginia Roberts Giuffre) หญิงชาวอเมริกันวัย 35 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่กล่าวว่าถูกเอปสไตน์ล่วงละเมิดในขณะที่เธอเป็นผู้เยาว์ ออกมาเปิดเผยว่า กีส์เลน แมกซ์เวลชวนเธอไปหาเอปส์ไตน์ ซึ่งในคำให้การของเธอเมื่อปี 2016 เธอเล่าว่า “กิส์เลนขอให้ดิฉันไปเป็นหมอนวด ‘อีโรติก’ ของเขา (เอปสไตน์) […] คำว่า ‘นวด’ เป็นคำที่สองคนนี้ใช้กัน มันเป็นรหัสลับของพวกเขา” ซึ่งเด็กสาวที่เป็น ‘หมอนวด’ จะได้รับเงิน 200-300 ดอลลาร์ต่อครั้ง ทว่าหนึ่งในเพื่อนของเอปสไตน์ยืนยันว่ามันเป็นแค่การนวดธรรมดาเท่านั้น ซึ่งเด็กหญิงที่มานวดให้เอปสไตน์จะได้รับค่าตอบแทน “200 ถึง 300 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง และมันไม่มีอะไรมากกว่านั้น”
นอกจากนี้ ความเกี่ยวข้องระหว่างคดีเอปสไตน์กับฝรั่งเศสยังได้สะท้อนอยู่ในความสัมพันธ์ระหว่างเอปสไตน์และชอง-ลุก บรูเนล ซึ่งเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ชอง-ลุก บรูเนลเปิดบริษัทจัดหานางแบบ MC2 Model Management ในไมอามี่เมื่อปี 2004 โดยมีเอปสไตน์คอยให้การสนับสนุน ซึ่งชอง-ลุก บรูเนล ยังคงดูแลบริษัทจัดหานางแบบในปารีสของเขาไปพร้อมๆ กัน จากคำให้การของมารีต์ซ่า วาส์เก้ซ์ (Maritza Vasquez) อดีตนักบัญชีของนักธุรกิจฝรั่งเศสรายนี้เผยให้เห็นว่า เอปสไตน์ได้โอนเงินกว่า 1 ล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นทุนสำหรับ MC2 และเขายังจัดหาอาคารในนิวยอร์กสำหรับชอง-ลุก บรูเนล และเหล่านางแบบของ MC2 นอกจากนี้เธอยังเสริมอีกว่า “เจฟฟรีย์ เอปสไตน์ไม่เคยเก็บค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ของเขาจากชอง-ลุก บรูเนล”
อพาร์ตเมนต์ของเจฟฟรีย์ เอปสไตน์ (JACQUES DEMARTHON / AFP)
ผู้จัดการเอเจนซี่จัดหานางแบบชาวฝรั่งเศสผู้นี้ถูกกล่าวถึงบ่อยครั้งระหว่างการดำเนินคดีของเอปสไตน์ที่ผ่านมา และเขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยสำคัญในบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิง เขาถูกมองว่าเป็นตัวการใหญ่ที่ส่งตัวเด็กหญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะให้กับเอปสไตน์ ยิ่งไปกว่านั้นเขาดูเหมือนจะตกเป็นผู้ที่ล่วงละเมิดทางเพศเด็กเสียเอง โดยเหยื่อสองคนได้เล่าว่าชอง-ลุก บรูเนลใช้บริษัทจัดหานางแบบเพื่อฉกฉวยโอกาสกับเด็กหญิง และสนองความต้องการทางเพศของตัวเขาและเพื่อนๆ ของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอปสไตน์
ในเอกสารของศาลสหรัฐฯ กล่าวถึงข้อความที่นางแบบทิ้งไว้ ซึ่งสื่อว่าชอง-ลุก บรูเนล เป็นคนส่งเด็กสาวให้แก่เอปสไตน์ เช่น “ชอง-ลุก ได้ไปเจอครูคนหนึ่งที่สอนภาษารัสเซีย เธออายุ 28 ปี เธอไม่ได้มีผมบลอนด์ เธอสอนภาษาให้ฟรี และถ้าอยากเริ่มเรียนวันนี้เลยก็สามารถโทรไปบอกเธอได้”
ส่วนทางด้านเวอร์จิเนีย โรเบิร์ตส์ จิฟร์ ออกมาเอ่ยถึงชอง-ลุก บรูเนล ว่า “(ชอง-ลุก) เหมือนจะมีสัญญากับรัฐบาลอเมริกัน ซึ่งช่วยให้เขาสามารถหาหนังสือเดินทาง หรือเอกสารเดินทางอื่นๆ สำหรับเด็กสาว เขาจะพาเด็กหญิงเหล่านี้ไปยังสหรัฐฯ เพื่อวัตถุประสงค์ทางเพศ”
ทั้งนี้ดูเหมือนว่าชอง-ลุก บรูเนล จงใจเลือกเด็กหญิงที่เป็นผู้เยาว์โดยเฉพาะ เนื่องจากพวกเธอยังคงต้องพึ่งพาคนอื่น และเป็นการรับรองว่าพวกเธอจะมาเพียงลำพัง โดยมารีต์ซ่า วาส์เก้ซ์ ซึ่งเคยทำงานกับชอง-ลุก บรูเนล กล่าวว่า “ดิฉันได้ยินชอง-ลุกพูดบ่อยครั้งว่าเอปสไตน์ชอบเด็ก เมื่อมีปาร์ตี้ที่บ้าน (เอปสไตน์) ชอง-ลุก จะขับรถไปส่งเด็กสาวที่นั่น เขาพาไปเฉพาะเด็กหญิงที่มีอายุน้อยที่สุด เนื่องจากคนอื่นๆ มีรถเป็นของตัวเอง หรือไม่พวกเธอก็จะพาเพื่อนชายมาด้วย”
ณ ขณะนี้ ชอง-ลุก บรูเนล ยังคงไม่สามารถติดต่อได้ แม้ว่าทางหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสลีเบราซีอง (Libération) จะพยายามติดต่อไป ทั้งนี้เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา อัยการฝรั่งเศสได้ประกาศเปิดการสอบสวนคดีการละเมิดของเอปสไตน์ เพื่อค้นหาผู้ที่พัวพันกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิง หรือการกระทำที่ส่อไปถึงการค้าเด็กเพื่อวัตถุประสงค์ทางเพศ ในขณะที่ตำรวจฝรั่งเศสและอเมริกันได้บรรลุข้อตกลงที่จะร่วมมือค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับคดีดังกล่าว
อีกหนึ่งประเทศที่คดีเอปสไตน์กลายเป็นประเด็นร้อน คือ ประเทศอิสราเอล โดยความสัมพันธ์ระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรีอิสราเอลกับเอปสไตน์ส่งผลให้นายเอฮุด บารัก (Ehud Barack) ที่กำลังหาเสียงเพื่อชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในศึกเลือกตั้งเดือนกันยายน ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก อดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ไม่เพียงจะมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับเอปสไตน์ แต่ยังเคยพบปะกับเอปสไตน์หลายครั้ง ทั้งนี้นายบารักยังเคยไปเยือนเกาะส่วนตัวของเอปสไตน์ในบริเวณหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐฯ ซึ่งผู้คนบริเวณนั้นต่างตั้งชื่อเล่นให้เกาะดังกล่าวว่าเป็นเกาะ ‘Orgy Island’ (หรือ เกาะเซ็กซ์หมู่)
และเกือบจะทันทีที่เอปสไตน์ถูกควบคุมตัวสำหรับการไต่สวน อดีตนายกรัฐมนตรีบารักก็ออกมาปฏิเสธว่าตนเองไม่เคยรู้เห็นเรื่องการละเมิดผู้เยาว์ของเอปสไตน์เลยแม้แต่น้อย และย้ำว่าเขาไม่เคยพบหญิงสาวที่เกาะส่วนตัวของเอปสไตน์ การประกาศกร้าวของนายเอฮุด บารักเหมือนจะมีเป้าหมายเพื่อตอบโต้นายกรัฐมนตรีอิสราเอลคนปัจจุบัน คู่แข่งสำคัญในการเลือกตั้งที่ขอให้มีการวินิจฉัยความเกี่ยวข้องระหว่างนายบารักและเอปสไตน์
นอกจากนี้ คดีการละเมิดทางเพศในเด็กของเอปสไตน์ยังได้สร้างแรงกระเพื่อมในอังกฤษ หลังจากที่เอปสไตน์เสียชีวิต เจ้าชายแอนดรู ดยุกแห่งยอร์ก พระราชโอรสองค์ที่สองของสมเด็จพระบรมราชินีเอลิซาเบธที่สองแห่งอังกฤษ ทรงอยู่ในรายชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ถูกตรวจสอบอย่างละเอียด เนื่องจากเจ้าชายแอนดรูทรงเคยไปบ้านพักส่วนตัวของเอปสไตน์ ไม่ว่าจะเป็นที่นิวยอร์ก หรือเกาะส่วนตัวของเอปสไตน์ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีรายงานว่ามีคนเห็นเด็กสาวกำลัง ‘นวดเท้า’ ให้กับเจ้าชายที่อพาร์ตเมนต์ของเอปสไตน์ที่นิวยอร์ก โดยหนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เดียน (The Guardian) เคยรายงานว่า เวอร์จิเนีย โรเบิร์ตส์ จิฟร์ หนึ่งในผู้ยื่นฟ้องเอปสไตน์ เล่าว่า เธอถูกสั่งให้จัดหา “ทุกๆ อย่างตามพระประสงค์ของเจ้าชาย” อย่างไรก็ดีเจ้าชายแอนดรูทรงยืนยันว่าพระองค์ไม่ทราบเกี่ยวกับพฤติกรรมการล่วงละเมิดของเอปสไตน์ ส่วนสำนักพระราชวังบักกิงแฮมก็ออกมาแถลงว่าเจ้าชายแอนดรูไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศใดๆ กับเวอร์จิเนีย โรเบิร์ตส์ จิฟร์
ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ว่านายเจฟฟรีย์ เอปสไตน์ได้จากไปแล้ว การสืบสวนค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับเครือข่ายเอปสไตน์ยังคงดำเนินต่อไป ในขณะที่เหยื่อของการล่วงละเมิดยังคงยืนหยัดเรียกร้องความยุติธรรมจากผู้ที่เกี่ยวข้อง แน่นอนว่าพวกเธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลูกสาวของพวกเธอและเด็กหญิงคนอื่นๆ จะไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ใดก็ตามที่หวังจะใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ และตำแหน่งหน้าที่การงานเพื่อบำเรอกามส่วนตัว
บรรณานุกรม
https://gawker.com/here-is-pedophile-billionaire-jeffrey-epsteins-little-b-1681383992
ภาพต้นฉบับจาก STEPHANIE KEITH / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / AFP และ https://gawker.com/here-is-pedophile-billionaire-jeffrey-epsteins-little-b-1681383992
Tags: เจฟฟรีย์ เอปสไตน์, สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, อิสราเอล, สหราชอาณาจักร, ล่วงละเมิดทางเพศ
