ยอดนักฟิสิกส์ชื่อก้อง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยกล่าวไว้ว่า ‘Logic will get you from A to B, Imagination will take you everywhere’ หากใครเป็นคนช่างฝันสักนิด ข้อความข้างต้นคงเป็นเรื่องจริงเสียยิ่งกว่าจริง

สำหรับคนช่างฝัน หากหน้าร้อนนี้ คุณนึกครึ้มอยากหลบร้อนเข้าไปในเทพนิยายสักเรื่องที่ไม่ร้อนระอุเดือดพล่านเหมือนแดดในเมืองไทย โลกใบนั้นคงต้องมีองค์ประกอบสองสามข้อ ร่มไม้ใหญ่ สายน้ำเอื่อย และกาแฟดีๆ สักถ้วย

และถ้าเผอิญคุณและคนรักมีเวลาไม่มากนักสำหรับการเดินทาง Hotel Labaris Khaoyai ดูจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว ด้วยสถาปัตยกรรมกึ่งแฟนตาซีแปลกตาที่ซ่อนตัวอยู่ในบรรยากาศร่มรื่นของธรรมชาติบริเวณเขาใหญ่ สัตว์มายาเหนือจินตนาการหลากชนิดที่หลบซ่อนรอการค้นพบ โรยมวลอากาศด้วยกลิ่นกาแฟคั่วหอมบางๆ และที่สำคัญ ความสะดวกสบาย หรูหรา ครบครัน ไม่แพ้โรงแรมหรูระดับโลก

แต่เราคงต้องขอเตือนคุณประการหนึ่ง ถ้าหากคิดจะไปโรงแรมลาบาริสเขาใหญ่

‘ระวังจะหลงทางในความฝัน จนไม่อาจกลับสู่ความจริง’

รถตู้ลัดเลาะผ่านถนนลาดยางนอกตัวเมืองนครราชสีมาได้ไม่นาน เหลือบไปทางซ้ายก็จะเห็นป้ายชัดเจนริมทางเขียนว่า ‘Hotel Labaris Khaoyai’ ต้องขอออกตัวเลย ตอนแรกเราก็สงสัยกับชื่อของโรงแรมเหมือนกันว่าอ่านว่าอย่างไรกันแน่ เพราะค่อนข้างมั่นใจว่าคงไม่ใช่ภาษาอังกฤษอย่างแน่นอน แต่ด้วยอาการสะลึมสะลือจากภาวะหลับตลอดทาง เราจึงดับสวิตช์ขี้สงสัยลงไว้ก่อน

เมื่อลงจากรถ เจ้าบ้านที่รอคอยต้อนรับเราอยู่ไม่ใช่พนักงานโรงแรม หรือแม่บ้าน อีกทั้งไม่ใช่มนุษย์เสียด้วย แต่กลับเป็นกวางรูปร่างฉม้อย สมส่วน ซึ่งเขาสองข้างถูกพันเอาไว้ด้วยกิ่งก้านของดอกกุหลาบสีแดงสด ก่อนที่เราจะมารู้ทีหลังว่า มันมีชื่อว่า ‘Cattle Queen’  

เราแอบย่องไปถามพี่ผู้หญิงใจดีคนหนึ่ง จนได้รู้ว่า Labaris มาจากคำว่า Labyrinth ที่แปลว่า เขาวงกต สอดคล้องกับความพิศวงของโรงแรมแห่งนี้ ที่พาเราหลุดจากโลกความเป็นจริงเข้าสู่โลกเสมือนเทพนิยาย ซึ่งถูกปกครองโดยกษัตริย์มิโนทอร์ผู้เกรียงไกร

แม้กษัตริย์มิโนทอร์จะเป็นกษัตริย์ของอาณาจักรลาบาริสโดยชอบธรรม เขากลับรักในสายลมและการเดินทางมากกว่าอำนาจและการปกครองอาณาจักร ทั้งนี้ เขาอาจจะอาศัยระบบวิดีโอคอลน์ โฟนอิน หรือประชาธิปไตยแบบตัวแทน เราก็ไม่รู้ได้ แต่เท่าที่รู้ก่อนที่เขาจะออกเดินทาง เขาได้ออกแบบที่นี้ให้มีคอนเซปต์อิงกับเทพนิยาย โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นทั้งหมด 5 ส่วน คล้ายกับการเปิดอ่านนิยายไปทีละบท

ส่วนแรก ห้องอาหาร Labaris Restaurant ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยผนังกระจกเพื่อให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของสวนข้างนอกได้ บรรยากาศที่เพลิดเพลินย่อมขับกล่อมรสชาติของอาหารให้โอชายิ่งขึ้น โดยภายในครัวของลาบาริสจะมีเชฟใหญ่ 2 คน แตะมือผลัดคุมครัวในช่วงเช้า – ค่ำ

อาหารในช่วงเช้าถูกปรุง และคัดสรรค์ด้วยฝีมือของเชฟอาหารไทย ดังนั้นเรื่องรสชาติจึงไว้วางใจได้ว่าจัดจ้าน เปรี้ยว หวาน เผ็ด ครบรสไม่มีขาดเกิน เมนูขึ้นชื่อก็หลากหลายไม่ว่าจะเป็น แกงรัญจวนรสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นกะปิ คอหมูย่างติดมัน หั่นพอดีคำเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสนัว และขาแกะเนื้อหวานนุ่มที่เชฟนำมาเคี่ยวร่วมค่อนวันให้น้ำแกงมัสมั่นซึมเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับรสชาติของเนื้อ ส่วนตัวแนะนำว่า ถ้าใครชอบรับประทานเนื้อแกะเป็นพิเศษ แกงมัสมั่นขาแกะ เป็นหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด

ในช่วงค่ำ พนักงานนำเชิงเทียนมาวางตามโต๊ะ แสงไฟริบหรี่จากเทียนขับบรรยากาศในร้านให้ดูอบอุ่น เบาสบาย เป็นกันเองยิ่งขึ้น เชื้อเชิญให้เราเดินไปหาบาร์เทนเดอร์เพื่อร้องขอวิสกี้ มาปลุกร่างกายให้พร้อมสำหรับอาหารเย็น

ห้องครัวในช่วงค่ำขึ้นชื่อลือชาในฝีมือการย่างเนื้อชนิดต่างๆ ให้ขับรสชาติที่ดีที่สุดออกมา หัวหน้าเชฟอาหารฝรั่งจะเข้าประจำการตั้งแต่เวลา 6 โมง เพื่อตระเตรียมความพร้อม คัดสรรวัตถุดิบ ก่อนนำมาปรุงอย่างพิถีพิถันตามหัวใจและรสปากของแขก เมนูเด็ดในช่วงค่ำไม่ว่าจะเป็น สลัดแซลมอนรมควัน ฟัวกราราดซอสมิกซ์เบอร์รี่ สปาเก็ตตีครีมซอสกับเห็ดทรัฟเฟิล เนื้อริบอายย่างแบบมีเดียมแรร์ และขาแกะรนไฟอ่อนๆ หอมกลิ่นเครื่องเทศ และอย่าได้ใจร้ายกับตัวเองนัก ถ้าหากอิ่มอร่อยแล้วจะไม่ล้างปากด้วยไวน์ดีๆ สักแก้ว หรือค็อกเทลก็มีให้เลือกสรรค์หลากหลายที่หน้าบาร์เช่นกัน  

หากใครมากับคู่รักและอยากพากันออกมาเดินย่อยมื้ออาหาร แค่เพียงออกจากห้องอาหารไม่กี่ก้าวก็จะพบ The Meander Wonderer สวนอันร่มรื่นที่ใกล้ชิดติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาใหญ่ โดยมีเพียงลำธารธรรมชาติคั่นกลางเพียงสายเดียว ใจกลางของสวนถูกพาดผ่านด้วยสระว่ายน้ำที่ออกแบบให้คดเคี้ยวราวกับว่าไม่มีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด  

และถ้าหากเผอิญพบปูนปั้นรูปร่างคล้ายสิงโตหมอบซุ่มอยู่ในพุ่มไม้ก็ไม่ต้องตกใจ นั้นคือ ‘King Malkin’ เทพพิทักษ์ที่ได้รับมอบหมายจากกษัตริย์มิโนทอร์ ให้คอยปกป้องคุ้มครองทุกคนที่เข้ามาในสวน Meander Wonderer ไม่ว่าจะนั่งชิลอยู่ริมสระ หรือจะปลดเปลื้องอาภรณ์ลงไปว่ายน้ำเล่นในสระน้ำ คิงมาร์คินส์ก็จะคอยเฝ้ามองเราอยู่ห่างๆ เสมอ ซึ่งก็ทำให้อบอุ่นระคนวูบหวามไม่น้อย

สระน้ำที่อยู่ภายในสวน Meander Wonderer แบ่งเป็นโซน Nomadic Creek สำหรับผู้ใหญ่ และ Cub’s Creek สำหรับเด็กที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นมากมาย รวมถึงพื้นที่สำหรับความสนุกสนานและการเรียนรู้อย่างครบถ้วน ทั้งนี้ คุณพ่อ – แม่ สามารถวางใจปล่อยให้ลูกๆ สนุกสนานในบริเวณนี้ได้ด้วยเหตุผล 2 ประการ ประการแรก พื้นบริเวณ Club’s Creek ออกแบบโดยใช้วัสดุพิเศษที่ปลอดภัย สามารถลดอาการบาดเจ็บจากการล้ม หรือกระแทก เพราะความซนของลูกๆ ประการที่สอง นอกเหนือจากคุณพ่อและคุณแม่แล้ว ต้องไม่ลืมว่า King Malkin ก็ยังคอยเฝ้ามอง และพร้อมจะปกป้องเด็กๆ อยู่เสมอ

บริเวณห้องพักของโรงแรมถูกแยกออกเป็นทั้งหมด 2 ส่วน ในส่วนแรก คือบริเวณปราสาทดารา(Starry Castle) และเรือนรัตติกาล(Midnight Castle) ประกอบไปด้วยห้องทั้งหมด 60 ห้อง ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ Deluxe Room, Grand Deluxe Room และ Duplex Room โดยห้องแต่ละรูปแบบก็จะมีทัศนียภาพภายใน – นอกห้องที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ในเรื่องความสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็น บริการฟรีไวไฟไม่จำกัด ฟรีมินิบาร์ ตู้เย็น สมาร์ททีวีพร้อมช่องเคเบิ้ล ถูกจัดไว้รับรองอย่างพร้อมสรรพ

ห้องพักในส่วนที่สองถูกจัดวางให้ซ่อนอยู่ใน Infinite Garden สวนลวงตาที่มีกระจกเงาสะท้อนอยู่ทุกทิศทาง คล้ายจงใจทำให้เราสับสนว่ากำลังตื่นหรือฝันอยู่ ถ้าหากมองหาให้ดีเสียหน่อย(และที่สำคัญมีกุญจแห้อง) คงไม่ยากนักที่จะค้นพบประตูลับที่จะเปิดไปสู่หมู่บ้านลึกลับ Pool Villa จำนวน 10 ห้อง ที่รอคอยการมาเยือนของอาคันตุกะ

ภายในห้องครบครันไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกสบาย โซนนั่งเล่นสำหรับหย่อนใจ อ่างจากุซซีขนาดใหญ่ และสระว่ายน้ำส่วนตัว ซึ่งเหมาะอย่างมากสำหรับการจิบเบียร์บางๆ ริมสระ ปล่อยใจเถลไถลไปกับหนังสือสักเล่ม หรือใช้เวลาพูดคุยหยอกเอินกับคนรัก

เมื่อได้กินอาหารถูกปาก เคล้าบรรยากาศแฟนตาซี และนอนเต็มอิ่มหลับเต็มตื่นในเตียงขนนกนุ่มๆ แล้ว อีกสิ่งที่ลืมไม่ได้เลย คือ กาแฟดีๆ

ถ้าใครได้มีโอกาสแวะมาพัก หรือเพียงมีโอกาสผ่านมาเห็นคาเฟ่ขนาดกะทัดรัด ที่จำลองมาจากโพรงเล็กๆ ของสัตว์วิเศษรูปร่างคล้ายกระต่าย อันมีชื่อว่า Rabbit Cafe อย่าได้ลังเลที่จะเดินเข้าไปสัมผัสความผ่อนคลายภายในร้านที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจางๆ ของกาแฟ

บาริสต้าของทางร้านถูกฝึกมาอย่างดี ให้เลือกสรรและผสมผสานเมล็ดกาแฟไทยด้วยความใส่ใจในทุกแก้ว จนออกมาเป็น House Blend Coffee ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เพียงแต่กาแฟเท่านั้นที่เป็นดาวเด่นของทางร้าน เค้กมะพร้าว เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ได้ลองชิม อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากว่ามาถึงที่นี้ และถึงแม้ร้านจะอยู่ในมวลบรรยากาศชิลๆ แต่สำหรับเค้กมะพร้าว ถ้าไม่รีบหน่อยอาจจะไม่ทันได้รับประทาน เพราะขายหมดเร็วจริง

Fact Box

  • Hotel Labaris Khaoyai ตั้งอยู่ที่ริมถนนธนะรัชต์ กม.16 เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ
  • ช่วงเดือนตุลาคมของปีนี้ ทางโรงแรมจะเปิดพื้นที่ Rooftop Bar ให้ผู้มาพักอาศัยได้เลือกเครื่องดื่มที่ชอบ ดื่มคู่ไปกับบรรยากาศปลายฝนต้นหนาว และนั่งมองดูแสงดาว เคล้าดนตรีแจ๊ซ
  • ห้องพักของ Hotel Labaris Khaoyai แบ่งเป็นทั้งหมด 4 รูปแบบได้แก่ Deluxe Room คืนละ 3,000 บาท Grand Deluxe Room คืนละ 4,000 บาท Duplex Room คืนละ 5,500 บาท Pool Villa หนึ่งห้องนอนคืนละ 8,900 บาท และ Pool Villa สองห้องนอนคืนละ 18,000 บาท

 

 

 

Tags: , ,