นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี ที่ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบไวรัสเอชไอวีสายพันธุ์ใหม่ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ไม่มีอะไรน่าตื่นตระหนก การรักษาเอชไอวีปัจจุบันยังได้ผลกับไวรัสชนิดใหม่นี้
ตามรายงานที่เผยแพร่ใน Journal of Acquired Immune Deficiency Syndromes ระบุว่า นักวิจัยจาก Abbott Laboratories และมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิสซูรี เมืองแคนซัสซิตี้ ค้นพบไวรัสเอชไอวีชนิดย่อยใหม่ ซึ่งสัมพันธ์กับ Group M ของสายพันธุ์ HIV-1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด จากเอชไอวีสายพันธุ์หลัก 2 ชนิด คือ HIV-1 และ HIV-2
ในการจำแนกให้เป็นชนิดย่อยใหม่ของไวรัสเอชไอวีได้นั้น นักวิทยาศาสตร์จะต้องพบไวรัสชนิดใหม่ใน 3 เคส ซึ่งนักวิจัยกล่าวกับ CNN ว่าได้ค้นพบทั้งหมดแล้ว โดยสองตัวอย่างแรกค้นพบในคองโก เมื่อปี 1983 และ 1990 ขณะที่ตัวอย่างที่สามพบในแอฟริกาในปี 2001 แต่ในช่วงเวลานั้นยังไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถระบุได้ว่าเป็นไวรัสเอชไอวีสายพันธุ์ใหม่
แมรี่ รอดเจอร์ ผู้ร่วมเขียนรายงานการศึกษานี้ กล่าวว่า เป็นเรื่องท้าทายมากในการวินิจฉัยไวรัสที่ค้นพบนี้ให้เป็นไวรัสเอชไอวีชนิดใหม่ เนื่องจากเชื้อตัวอย่างมีขนาดเล็ก และดูคล้ายกับสองเชื้อตัวอย่างก่อนหน้านี้ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต้องตรวจสอบไปถึงในระดับยีนเพื่อความถูกต้อง การค้นพบล่าสุดนี้จึงเรียกได้ว่า เป็นกระบวนการที่กินระยะเวลายาวนานถึงเกือบ 20 ปี ที่จะระบุว่าไวรัสเอชไอวีชนิดใหม่เกิดขึ้นในโลกแล้ว เหมือนกับเป็นการงมเข็มในมหาสมุทร และการค้นพบครั้งใหม่นี้จะช่วยหยุดยั้งการระบาดได้
เอชไอวีสายพันธุ์ใหม่นี้ถูกเรียกว่า ชนิดย่อย L เป็นสายพันธุ์ที่ 10 ใน Group M โดยที่ชนิดย่อยที่แตกต่างกันสามารถรวมกันเป็นเชื้อลูกผสม “circulating recombinant form” (เชื้อใหม่พันธุ์ลูกผสมที่แพร่ระบาด) หรือที่เรียกว่า CRF ตามที่ Avert องค์กรด้านเอชไอวีและเอดส์ที่ไม่แสวงหาผลกำไร ระบุว่า ปัจจุบันมี CRF ที่รู้จักอยู่ 89 สายพันธุ์ แต่อาจมีมากกว่านี้ในอนาคต เนื่องจากไวรัสสามารถวิวัฒนาการได้ตลอดเวลา
ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเชื้อเอชไอวีและเอดส์เตือนว่า ไม่ควรตื่นตกใจกับการเกิดขึ้นของไวรัสชนิดย่อย L ด้วยยังมีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ในจำนวนที่น้อยมาก และจากข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน แม้จะยังไม่มีความรู้มากนักถึงการติดต่อของไวรัสชนิดนี้ว่ามีความแตกต่างจากสายพันธุ์อื่นอย่างไร แต่ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ก็ยังวางใจได้ว่าการรักษาด้วยยาในปัจจุบันยังใช้ได้ผลกับไวรัสชนิดใหม่นี้
ปัจจุบันคาดการณ์ว่า มีคนใช้ชีวิตอยู่กับเชื้อเอชไอวี 37.9 ล้านคนทั่วโลก ขณะที่ 1.7 ล้านคน ตรวจพบว่าติดเชื้อมื่อปีที่แล้ว เอชไอวีสามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการรับยาต้านไวรัสทุกวัน ซึ่งช่วยให้เชื้อไวรัสในกระแสเลือดลดลง นอกจากนี้ การได้รับยาต้านไวรัสก่อนได้รับเชื้อเอชไอวี (PrEP) ก็ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีถึง 90 เปอร์เซ็นต์
ที่มา:
ภาพ : Athit Perawongmetha/Reuters
Tags: เอดส์, เอชไอวี, ยาต้าน