“ผมขอโทษนะครับ พวกคุณเป็นคนดี ส่วนผมเป็นคนเลว เสียใจที่ต้องทำแบบนี้กับพวกคุณนะ”

1

ลีห์ มัวร์ (Leigh Moore) ไม่เคยคิดว่า ในวันที่อายุครบ 40 ปี เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2005 เธอจะต้องเจอสถานการณ์ที่ไม่เคยมีใครในโลกพบเจอแบบนี้แน่

เวลาที่ผ่านมาก่อนจะถึงวันนี้ของหญิงสาว ไม่ได้มีความสุขเลย กลับมากล้นด้วยความทุกข์ นับตั้งแต่ความรักกับสามีที่อยู่กินกันมา 20 ปี จบสิ้นลงด้วยการหย่า ชีวิตต้องลำบากเลือดตาแทบกระเด็นในการเลี้ยงลูกสาว 2 กับลูกชายอีกหนึ่ง

ทุกอย่างเต็มไปด้วยขวากหนาม ต้องตัดสินใจอะไรมากมาย ที่สุดท้ายเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

รวมถึงวันนี้

มัวร์อยู่ที่บ้านพักของตัวเอง เธออยู่ในสภาพกึ่งถูกบังคับให้โทรศัพท์หาแฟนใหม่ ซึ่งเป็นชายแสนวิเศษ โดยบอกว่าอยากเจอเขาในวันที่ก้าวเท้าเข้าสู่หลัก 4 เต็มตัว

“สักทุ่มก็ได้ มารับฉันไปดินเนอร์นะ”

คนรักของหญิงสาว แวะซื้อช่อดอกไม้ แล้วขับรถมาจอดหน้าบ้าน เขาตรงลิ่วไปที่ประตูบ้าน โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามันคือการเดินเข้าสู่กับดัก รอบๆ ตัว เต็มไปด้วยตำรวจและ FBI ซุ่มรอคอยอยู่นานแล้ว

มัวร์ซ่อนตัวอยู่ในบ้าน รำลึกไปถึงครั้งแรกที่เจอกัน มันเกิดขึ้นในโบสถ์ ชายหนุ่มคนนี้หล่อเหลาเอามากๆ แต่งตัวดี มีเสน่ห์ ใช้เวลาไม่นานในการคุยกับใคร ก็ทำให้ทุกคนหลงรัก รวมถึงเธอด้วย

“เขาตลก สุภาพ และเต็มไปด้วยพลัง คุยด้วยไม่รู้เบื่อ”

ลูกทั้ง 3 คนของมัวร์ชอบชายคนนี้มาก เขามักจะซื้อของขวัญ ของเล่นมาให้อยู่เสมอ

เมื่อคนในโบสถ์ชอบ แม้กระทั่งบาทหลวงยังต้องมนต์ หญิงสาวจึงคิดว่าแฟนใหม่คนนี้น่ารัก และตัดสินใจคบหาลองเดตกันดู ทุกอย่างงามงด ชะล้างความเจ็บปวดจากการหย่าร้างได้เป็นอย่างดี

ทว่าย้อนไปในเช้าวันที่ 5 มกราคม 2005 เจ้าหน้าที่ของสำนักงานสอบสวนกลางหรือ FBI เดินทางมาหามัวร์ที่บ้าน พร้อมยื่นรูปชายหนุ่ม ซึ่งเป็นแฟนของเธอ พร้อมเล่าเรื่องราวทั้งหมด

เมื่อรู้ทุกอย่าง มัวร์ใจสลาย ร้องไห้อย่างเจ็บปวด แต่ FBI ไม่ได้มาเพื่อแจ้งข่าวร้ายเท่านั้น พวกเขาต้องการตัวชายคนนี้ด้วย

“คุณต้องช่วยเราจับเขา”

แม้จะรักแฟนมาก แต่เธอเองก็มีชีวิตที่สุดลำบาก แถมยังมีลูกๆ อีก 3 คนที่ต้องเลี้ยง มันไม่เหลือทางเลือกให้นัก กับการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางที่ทรงอำนาจ ไร้ซึ่งการปฏิเสธ นั่นทำให้หญิงสาวหลั่งน้ำตาอีกครั้ง มันร้าวรานอย่างมาก

คำตอบที่ FBI ต้องการคือ ตกลง พวกเขาไม่ได้อยากได้ยินสิ่งอื่นจากหญิงหม้ายคนนี้ 

นั่นจึงนำไปสู่ภารกิจที่เธอต้องทำ ในวันเกิดอายุครบ 40 ปี

แค่โทรศัพท์ไปหาเรียกเขาให้มาพบที่บ้านซะ

พวกเราจะซุ่มคอยจับเขา

เสียงเคาะประตูดังขึ้น แฟนคนนี้มาก่อนเวลา เป็นสุภาพบุรุษ แต่มัวร์ไม่เปิดประตูออกไปดู เธอรู้ว่าวินาทีต่อจากนั้นจะเต็มไปด้วยความอลหม่านเกิดขึ้นนอกบ้าน ไม่ต้องบอกก็รู้คืออะไร

ชายที่เธอรักถูก FBI รวบ เสียงโหวกเหวก เสียงไซเรนรถตำรวจดังว่อน ทุกอย่างเกิดขึ้นแบบฉับไว ถ้าอยากเห็นเพียงแค่เปิดประตูออกไปเท่านั้น

แต่หญิงสาวไม่กล้า ไม่อยากเห็นภาพตรงนี้

ชายที่ถูกจับกุมตัวนี้ ไม่ใช่ จอห์น ซอร์น (John Zorn) เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางผู้มีเสน่ห์อันลึกลับซึ่งเป็นแฟนของมัวร์ 

แต่เขาคือ เจฟฟรีย์ แมนเชสเตอร์ (Jeffrey Manchester) เจ้าของฉายาจอมโจรขยุ้มหลังคา นักโทษแหกคุก และอาชญากรที่มีประวัติการปล้นยาวเป็นหางว่าว

“คุณมัวร์ครับ ผู้ชายที่คบอยู่ อาจไม่ใช่คนแบบที่คุณคิด เขาหลบหนีการจับกุมในคดีอาชญากรรม และเป็นบุคคลที่อันตรายเอามากๆ”

2

หากอยู่ในเครื่องแบบ เจฟฟรีย์ แมนเชสเตอร์คือยอดนักรบ แต่เมื่อถอดมันทิ้ง เขาประสบปัญหาในการปรับตัวจากทหารสู่พลเรือนเป็นอย่างยิ่ง 

ขณะรับใช้ชาติ เจ้าตัวสังกัดกองพลส่งกำลังทางอากาศที่ 82 ซึ่งมีประวัติสุดลือลั่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 และทุกความขัดแย้งของสหรัฐอเมริกา เป็นหน่วยรบที่ได้รับการเชิดชู ทหารที่ติดอาร์มนี้จะได้รับการสดุดี

แต่ทุกอย่างผ่านพ้นไปแล้วสำหรับเขา เมื่อปลดประจำการออกมา ไม่มีใครเห็นหรือจำได้ ชายหนุ่มต้องกลับคืนเป็นประชาชน เลี้ยงดูลูก 3 คน กับภรรยาที่มีปัญหาทะเลาะวิวาทอยู่เป็นประจำ ถึงขั้นแจ้งตำรวจ นำไปสู่การฟ้องหย่าและร้องขอต่อศาลให้มอบสิทธิเลี้ยงดูบุตรแก่อดีตเมียเพียงผู้เดียว

ผู้พิพากษาตัดสินให้สิทธินี้แก่ฝ่ายหญิง

อดีตนักรบทำอะไรไม่ถูก ลูกก็ไม่ได้พบ แถมต้องหาเงินมาจ่ายค่าเลี้ยงดู ในช่วงที่งานหายาก ชีวิตก็ไม่รู้จะดำเนินไปยังไง ในโลกที่ไม่มีคำสั่ง เขาไม่เหลืออะไรให้ปฏิบัติภารกิจใด

ยกเว้นเพียงสิ่งเดียว

ทักษะที่กองทัพสอนเขา นอกจากให้ฆ่าแล้ว ก็ยังมีอาวุธ และการใช้เชือกโรยตัวจากหลังคาบุกเข้าจู่โจมสถานที่ต่างๆ

เจฟฟรีย์ แมนเชสเตอร์ตั้งสติ สิ่งที่กองพลส่งกำลังทางอากาศที่ 82 มอบให้ ไม่หายไปไหน และเขาก็เริ่มใช้งานอย่างชำนาญ

พฤศจิกายน 1998 อดีตนักรบบุกขึ้นหลังคาร้านแมคโดนัลด์ แล้วเจาะช่อง โรยตัวลงมาด้วยเชือกแบบคล่องแคล่ว ก่อนจะหลบอยู่ในนั้นเพื่อก่อเหตุชิงเงิน 

ครั้งแรกประสบความสำเร็จ จึงนำไปสู่ครั้งที่ 2 และหลายครั้งที่ตามกันมาอย่างต่อเนื่องนับสิบ

บางทีหากไม่ก่อเหตุตอนเย็น เจฟฟรีย์จะเลือกช่วงเช้าตรู่ โดยจะไปซ่อน ณ ห้องน้ำ รอจนพนักงานมาเปลี่ยนกะ จึงพุ่งออกไป พร้อมอาวุธเพื่อก่อเหตุปล้น

ทว่าสิ่งที่ทำแตกต่างจากอาชญากรรายอื่นๆ เขาไม่ได้ข่มขู่เหยื่อตะคอกหรือใช้กำลังรุนแรงอะไร แต่กลับร้องขออย่างสุภาพ ให้ทุกคนไปรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน อย่าขยับไปไหน ขณะหยิบธนบัตรจากเครื่องเก็บเงิน

“เขาเป็นสุภาพบุรุษมากๆ พูดเพราะน่ารัก ขณะก่อเหตุ” พยานบอกกับเจ้าหน้าที่ ขนาดเอาปืนจี้ยังพูดย้ำๆ ว่า

“ผมขอโทษนะครับ ขอโทษนะฮะ พวกคุณเป็นคนดี ส่วนผมเป็นคนเลว เสียใจที่ต้องทำแบบนี้กับพวกคุณนะ”

2 ปีที่ลงมือ สื่อมวลชนเรียกเขาว่า จอมโจรขยุ้มหลังคา จากพฤติกรรมก่อเหตุ มีร้านค้าโดนปล้นไป 40 แห่ง แต่ไม่มีเหยื่อบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ตำรวจเฝ้ามองเชือกที่ชายคนนี้โรยตัวจากหลังคา พิจารณาเงื่อนและความชำนาญ เชื่อว่าอาชญากรแสบคนนี้เคยเป็นทหารแน่นอน

ปี 2000 จอมโจรขยุ้มหลังคาก่อเหตุปล้นร้านแมคโดนัลด์ 2 แห่ง แต่การโรยตัวครั้งนี้ เขาพลาดท่าลื่นล้มกระแทกพื้น นั่นทำให้พนักงานแอบกดสัญญาณแจ้งเตือนไปยังตำรวจ จนโดนจับกุมได้ในที่สุด และเมื่ออยู่ในเงื้อมมือของทางการ อาชญากรแสนสุภาพก็สารภาพในฉับพลัน

“ผมทำมันเพื่อจ่ายสารพัดสิ่ง และซื้อของให้กับลูกๆ ครับ และผมจะไม่ทำอีกแล้วครับ”

แม้จะน่าประทับใจ แต่กฎหมายไม่ได้มีพื้นที่เอื้อให้ทุเลาโทษ การลงมือปล้นด้วยอาวุธหลายกระทง ทำให้เขาถูกตัดสินจำคุกถึง 45 ปี

แต่อดีตทหารอยู่ในนั้นเพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น

เดือนมิถุนายน 2004 เจฟฟรีย์ก็ใช้ทักษะนักรบแหกคุกมาได้อีกครั้ง โดยการซ่อนตัวในรถส่งของ จนได้รับอิสรภาพอีกครา แล้วมุ่งหน้าไปยังรัฐนอร์ทแคโรไลนา เพื่อลงมือปล้นครั้งใหม่ที่แนบเนียนกว่าเดิม

เขาเลือกร้านขายของเล่น เป็นเป้าหมาย โดยยังใช้เป็นจุดซ่อนตัว โดยเอาโซนก่อสร้างของแผนกขายของเด็กที่ปิดปรับปรุง มาดัดแปลงเป็นรังนอน 

กลางวันซุ่มโป่ง กลางคืนก็จะออกมาหาอาหารกินในนั้นอย่างง่ายๆ มีการวางกล้องวงจรปิดรอบๆ เพื่อสอดส่องลาดเลา และเมื่อพนักงานของร้านไปหมดแล้ว จึงออกมายืดเส้นยืดสาย กลายเป็นว่าที่นี่เป็นบ้านหลังใหญ่ของเขา บางวันก็ไปเช่าดีวีดีมานั่งดูอย่างเพลิดเพลิน

เจฟฟรีย์ใช้ชีวิตในนี้อย่างสบายใจ และขณะที่เตรียมการ ยามเบื่อๆ จอมโจรขยุ้มหลังคาจึงออกไปเดินเล่นในชุมชนแห่งนี้ ใครถามก็จะแนะนำชื่อว่าจอห์น ซอร์น โดยได้ไปนั่งในโบสถ์ฟังบาทหลวงเทศน์ แล้วได้พบกับลีห์ มัวร์ หญิงสาวที่ผ่านการหย่าร้าง พลันที่พบหน้า เธอถึงกับพูดออกมาว่า

“ฉันชอบเขาตั้งแต่แรกเห็นเลย”

3

จอห์น ซอร์นบอกกับคนในชุมชนว่า ตัวเองทำงานให้กับรัฐบาล เป็นงานลับ ที่พักไม่อาจพาใครไปได้ ทว่าสิ่งที่เขามอบให้บ้านของพระเจ้าคือ ของเล่นเสื้อผ้ามาบริจาคอยู่เสมอ วันหนึ่งเขาซื้อรถให้มัวร์เป็นเงินสด ดูเป็นคนใจดีน่ารัก ถูกใจชุมชน

แต่ทุกอย่างเกิดจากแผนการที่ชายคนนี้วางแผนไว้แล้ว การอ้างว่าทำงานให้กับรัฐบาลกลาง ทำให้ไม่มีใครกล้าสงสัย ยิ่งนิสัยทุนเดิมสุภาพน่าคบหาชวนหลงใหล ยิ่งทำให้มีคนชอบเขามากๆ เช่นเดียวกับมัวร์ที่ยิ่งคุยกับจอห์น ซอร์น ก็ยิ่งหลงรักสุดๆ

ไม่รู้เพราะเขาเริ่มมีความรัก จึงทำให้เจ้าตัวทำงานพลาด การซ่อนตัวในร้านขายของเล่น นำไปสู่วันปฏิบัติการก่อเหตุปล้น แต่พนักงาน 2 รายหนีไปได้ และแจ้งตำรวจ ก่อนพบว่าผู้ต้องหามีชื่อว่าจอห์น ซอร์น

ทางการค้นทุกอย่าง แต่ไม่พบอะไรเกี่ยวกับเขา แต่มีข้อมูลการยืมแผ่น DVD ภาพยนตร์จากร้านเช่า เจ้าหน้าที่เอาแผ่นมาไล่ดู จนเจอลายนิ้วมือของจอห์น ซอร์น ติดอยู่ด้วย เมื่อเช็กในระบบ จึงพบว่านี่คืออัตลักษณ์ของเจฟฟรีย์ แมนเชสเตอร์ต่างหาก หรือจอมโจรขยุ้มหลังคาที่แหกคุกนั่นเอง 

FBI เข้ามาเกี่ยวข้องทันที และพบว่ายอดอาชญากร มีแฟนสาวชื่อมัวร์ จึงนำกำลังไปหาถึงบ้าน แล้วร้องขอกึ่งบังคับให้ล่อคนรักมาพบหน่อย

เมื่อจอมโจรขยุ้มหลังคาปรากฏตัวโดยมีดอกไม้เป็นของขวัญในวันเกิด 40 ปีของยอดดวงใจ เจ้าหน้าที่ก็กรูเข้ามาตะโกนให้ยอมแพ้ สั่งหมอบและล็อกตัวไว้ได้

หลังไล่ล่ามานานเกือบปี

เจฟฟรีย์ แมนเชสเตอร์ก็สิ้นฤทธิ์เสียที

ลีห์ มัวร์เจ็บปวด ที่ต้องทำแบบนี้ แต่หัวใจยังโหยหา ตัดใจไม่ได้ เย็นวันนั้น เธอโทรศัพท์หาคนรัก “ฉันขอโทษ ที่ทำให้คุณโดนจับนะ”

“ไม่ครับ อย่าทำแบบนั้น ผมต่างหาก ที่ต้องขอโทษ ต่อการหลอกลวงคุณ”

4

ความผิดที่จอมโจรขยุ้มหลังคาก่อนี้ เป็นเรื่องใหญ่ เขาจึงต้องติดคุกยาวนานถึงปี 2036 ถึงจะมีโอกาสขอทัณฑ์บนเพื่อปล่อยตัว และหลายครั้งต้องถูกขังเดี่ยว เพราะกลัวว่าจะหลบหนี จึงต้องอยู่ในความสอดส่องของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา

มัวห์ยังคงคุยโทรศัพท์กับเจฟฟรีย์ทุก 2 สัปดาห์ และเข้าไปเยี่ยมในเรือนจำ แต่ความสัมพันธ์ไม่อาจสานต่อได้ เพราะอีกฝ่ายติดคุกความมั่นคงสูง ส่วนหญิงสาวก็ต้องเลี้ยงลูก และมีชีวิตของตัวเอง เมื่อผ่านไปสิบปี การรอคอยก็ถึงจุดสิ้นสุด

เธอเลือกเดินจาก เพื่อมีชีวิต โดยการแต่งงานกับชายที่ตัวเองรักใหม่ และเป็นความสัมพันธ์ที่ยืนยงจนถึงปัจจุบัน

“สามีเขารู้เรื่องที่ฉันยังไปคุยกับเจฟฟรีย์อยู่ เขาเข้าใจและอยู่เคียงข้างในเรื่องนี้เสมอ”

ถึงวันนี้มัวร์และเจฟฟรีย์ หญิงสาวกับอาชญากร ยังพบกันบ้าง แต่ด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

“ฉันไม่ได้รักเขาอีกแล้ว ตอนนี้เห็นเป็นเพียงเพื่อนเก่าที่เคยแคร์ในอดีตแค่นั้น”

เรื่องราวของจอมโจรขยุ้มหลังคา แม้จะดูเหมือนตลก แต่เต็มไปด้วยความเศร้า และไม่ได้อันตรายแบบที่ FBI บอกสังคม เพราะเมื่อสื่อนำเสนอ มันฉายภาพว่าชายคนนี้มีชีวิตที่ยากลำบาก จนต้องเลือกเดินทางสายอาชญากร แม้กระนั่นความดีเล็กๆ ในใจ ทำให้เขาสุภาพกับเหยื่อ มีคนชื่นชมยกย่อง ทว่าเมื่อนักข่าวไปค้นเพิ่มเติม จึงพบว่ามันไม่ได้เป็นไปอย่างงามงดทั้งหมด

ทันตแพทย์คนหนึ่งซึ่งเคยทำฟันให้เจฟฟรีย์จากอาการฟันผุ ถูกอาชญากรคนนี้เผาร้าน เพื่อไม่ต้องการให้ประวัติทำฟันเขาปรากฎอยู่ให้ตำรวจสืบหาได้ ซึ่งพฤติกรรมนี้ทำให้หมอฟันสูญเสียร้านของตัวเองอย่างเจ็บปวด

“ผมไม่ให้อภัยมันหรอก”

นี่คือความจริงอีกด้าน

แต่สำหรับลีห์นั้น ถึงวันนี้ก็ยังเชื่อว่า เจฟฟรีย์ แมนเชสเตอร์ ไม่ใช่อาชญากรโดยสันดาน ไม่ใช่โจรเลวสุดเหี้ยม ไม่ได้เป็นคนอันตรายตามที่ทางการวาดภาพไว้ เพราะเธอเชื่อว่าหลังติดคุกหลายสิบปี จอมโจรขยุ้มหลังคาจะต้องสำนึกผิดและเสียใจต่อสิ่งที่ทำลงไป หากย้อนเวลาไปได้ คงไม่ทำอะไรงี่เง่าแบบนี้อีก 

“หวังว่าสังคมจะให้อภัยเจฟฟรีย์” ลีห์บอกสื่อ พร้อมยืนยันความรู้สึกที่เชื่อมาตลอดและจะเชื่อแบบนี้ตลอดไปว่า

“เขาเป็นคนดีนะ แค่ตัดสินใจพลาดเท่านั้น” 

ข้อมูลอ้างอิง

https://www.theguardian.com/film/2025/oct/14/roofman-movie-jeffrey-manchester

https://time.com/7314555/roofman-true-story-channing-tatum-jeffrey-manchester/

https://www.esquire.com/uk/culture/film/a69015378/roofman-jeffrey-manchester-true-story/

https://people.com/roofman-true-story-11828198?utm_source=chatgpt.com

https://www.sfgate.com/bayarea/article/california-man-hid-months-secret-room-circuit-city-19422415.php

https://www.biography.com/movies-tv/a68152400/roofman-jeffrey-manchester-true-story-channing-tatum

https://www.today.com/popculture/movies/roofman-true-story-jeffrey-manchester-rcna236165

Tags: , , , , ,