1.

“ฉันไม่อาจตายอย่างสงบได้ จนกว่าจะเห็นคนฆ่าลูกถูกจับ และโดนลงโทษ”

วันที่ 1 กันยายน ปี 1990 ลีอา ซูซ่า (Leah Sousa) อายุ 13 ปี รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก เพราะอีกไม่กี่อาทิตย์ เธอจะได้เข้าเรียนชั้นม.ปลาย แถมวันนี้เป็นวันแรงงาน คือวันหยุดสุดสัปดาห์ ครอบครัวเพื่อนสนิทตกลงกันว่าจะพาเธอไปดูนิทรรศการ โดยการขับรถลงใต้ไปประมาณ 135 กิโลเมตร ซึ่งงานถูกจัดที่เมืองโตรอนโต (Toronto) ประเทศแคนาดา

ลีอาเตรียมตัวเดินทาง แม้จะปล่อยให้แม่ของเธออยู่กับน้องชายวัยแค่ 9 เดือน 2 คนเท่านั้น แต่เพราะเด็กหญิงคิดว่าไปแค่ไม่กี่วัน แถมเธอจะได้พบอะไรเจ๋งๆ มากมาย จากงานดังกล่าวด้วย

แต่แล้วแม่ของเพื่อนสนิทดันลืมไปว่า ลูกชายคนเล็กชวนเพื่อนมาบ้านด้วยทำให้ไม่มีที่นอน ดังนั้นลีอาจึงอดมานอนค้าง แต่พรุ่งนี้ครอบครัวของเพื่อนจะไปรับเธอที่บ้านแทน แล้วเดินทางไปกัน

จากวันนั้น จนถึงวันนี้ ลีอาไม่มีโอกาสได้ไปดูนิทรรศการตามที่หวังอีกเลย เพื่อนสนิทของเธอจากโลกไปแล้วด้วยมะเร็งร้าย น้องสาวเล่าว่า การคลาดกันในวันนั้นส่งผลสะเทือนอย่างมาก

เพราะมันนำความตายมาสู่ลีอา

มันเป็นการเสียชีวิต ที่ปัจจุบันก็ยังยากจะรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันคือปริศนาที่ดำมืด ไร้ซึ่งแสงสว่างใดๆ ทั้งสิ้น มีแต่คำถาม ที่ไร้ซึ่งคำตอบ

นี่คือโศกนาฏกรรมสุดเศร้า 34 ปี แห่งความเจ็บปวด ไม่มีอะไรสามารถชะล้างเหตุสลดนี้ได้เลย เด็กหญิงลีอาควรจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีชีวิตที่ดีในวันนี้ แต่ความโหดเหี้ยมของใครบางคนในวันดังกล่าว ได้ปิดฉากเส้นทางเธอไปอย่างเลวร้าย เป็นไปดังคำที่แม่ของเด็กหญิง ลอร่า ซูซ่า (Lora Sousa) กล่าวไว้กับนักข่าวว่า

“เธอถูกปล้นชะตาชีวิต และความฝัน”

2.

ลอร่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวอยู่บ้านกันลำพังกับลูกสาวและลูกชายวัยแค่ 9 เดือน บ้านของพวกเธออยู่ในละแวกชุมชนที่เงียบสงบ ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุเลวร้ายอะไร

เด็กหญิงลีอาเป็นคนที่มีรอยยิ้มงดงาม สวยสด ยามเธอหัวเราะ ใครก็อยากขำตาม “เธอเป็นคนจิตใจดีมาก แม้แต่ยุงก็ไม่คิดจะตบด้วยซ้ำ”

แล้วทำไมโลกใบนี้ถึงใจร้ายกับเธอนัก

ช่วงดึกของวันที่ 1 กันยายน ปี 1990 คนร้ายมาทุบกระจกที่หลังบ้านของครอบครัวซูซ่า ซึ่งลอร่านอนอยู่กับทารกน้อยที่หลับในเปล ส่วนลีอานอนตรงโซฟาห้องรับแขก

ผู้ก่อเหตุตรงเข้าไปใช้ของแข็งกระหน่ำทุบตีลอร่าอย่างรุนแรง เสี้ยววินาทีที่ถูกทำร้าย เธอตื่นตกใจ และพยายามปกป้องตัวเอง นั่นทำให้แม่เลี้ยงเดี่ยวเห็นใบหน้าคนร้ายอย่างชัดเจน แต่ลอร่าก็สู้แรงอีกฝ่ายไม่ไหว เธอถูกทำร้ายจนอาการสาหัสและหมดสติไป

เหยื่อรายแรกผ่านไป อาชญากรเหี้ยมเพิกเฉยทารกที่นอนหลับบนเตียง มันออกจากห้องแล้วตรงไปเข้าไปหาลีอา ก่อนจะลงมือข่มขืนตรงโซฟาแล้วลากเด็กหญิงวัยเพียงแค่ 13 ปี ไปที่สวนหลังบ้าน ควักเอาวัตถุที่เป็นโลหะ ประเภทท่อหรือเหล็ก กระหน่ำตีที่หัวของเด็กหญิงจนแน่นิ่ง จมกองเลือด

ก่อนหลบหนีไป

เช้าตรู่วันนั้น เพื่อนบ้านเห็นร่างโชกเลือดของลีอาจึงแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่รุดมาโดยเร็วพบว่า เธอเสียชีวิตไปแล้ว เมื่อเข้าไปในบ้านพวกเขาพบลอร่าในอาการสาหัสจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล ก่อนนำทารกส่งให้หน่วยงานดูแลแทน

สายตรวจปิดล้อมจุดเกิดเหตุ ขณะที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจบ้านหลังนี้อย่างละเอียด ตำรวจพบรอยเลือดเป็นจำนวนมาก แต่ไม่พบหลักฐานที่จะนำไปสู่การไขคดีได้

พวกเขาไม่พบดีเอ็นเอของคนร้ายเชื่อว่าเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี อีกอย่างที่สำคัญมากๆ คืออาวุธที่ใช้สังหารก็ไม่พบ

สิ่งเดียวที่ตำรวจพบ คือรอยเท้าของคนร้าย คาดว่าน่าสวมรองเท้าตีเทนนิส เป็นยี่ห้อไนกี้ไซส์ประมาณเบอร์ 9 หรือเบอร์ 10 (ประมาณเบอร์ 42-44)

เมื่อนักสืบดูทุกอย่างแบบละเอียดก็ฟันธงว่า

นี่ไม่ใช่การฆาตกรรมธรรมดา เพราะผู้ก่อเหตุวางแผนมาอย่างละเอียดรอบคอบ เขาแทบไม่ทิ้งหลักฐานใดๆ ในจุดลงมือฆ่า

ตำรวจเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นผู้ชาย และรู้ทุกความเคลื่อนไหวในครอบครัวของซูซ่าเป็นอย่างดี รู้ว่าลอร่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว บ้านหลังนี้มีแต่ผู้หญิง เด็กหญิง และทารก ยามค่ำคืนในชุมชนเงียบสงัด ทุกคนหลับใหลกันหมด คนร้ายจึงลงมือได้อย่างสบายๆ

การที่เจาะจงครอบครัวซูซ่าไม่ใช่เหตุบังเอิญ มันจะต้องสอดแนม ดูความเคลื่อนไหวของบ้านนี้มาสักระยะ แถมน่าจะเป็นคนที่อยู่ในชุมชนนี้ หรือไม่ก็มีคนในชุมชนคอยให้ข่าวความเคลื่อนไหวด้วย

ข้อมูลตรงนี้สร้างความแตกตื่นให้กับคนในชุมชนอย่างมาก ในยุคที่ไม่มีโลกออนไลน์ บ้านแต่ละหลังต่างหวาดกลัวฆาตกรอย่างมาก เด็กๆ ถูกสั่งให้อยู่บ้าน ห้ามออกไปไหนตอนกลางคืน มีการล็อกประตู ลงกลอนอย่างแน่นหนา

“ทุกคนต่างพูดปากต่อปาก และอยู่กันแบบหวาดผวา”

ฝ่ายตำรวจก็เร่งทำงาน พวกเขาตรวจสอบหลักฐานทุกอย่าง เอาภาพในที่เกิดเหตุมาวิเคราะห์ครั้งแล้วครั้งเล่า ดูซ้ำไปซ้ำมา เผื่อบางอย่างจะหลุดเล็ดรอดจากสายตาไป แต่เมื่อดู ออกตรวจ คุ้ยหาหลักฐานมาเพียงใด

พวกเขาไม่พบว่าจะนำไปสู่เบาะแสใดๆ ทั้งสิ้น

ท่ามกลางความสิ้นหวังของเหล่านักสืบ ลอร่านอนสาหัสกว่า 3 อาทิตย์ในห้องไอซียูของโรงพยาบาล ทีแรกแพทย์คิดว่าเธอน่าจะไม่รอด เพราะโดนทำร้ายแบบนั้น แต่เมื่อไม่ตาย สายตรวจจึงไปประจำการหน้าห้องและไม่แจ้งชื่อโรงพยาบาลที่หญิงสาวพักแก่สื่อ เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายกลับมาเก็บพยานรายนี้ได้

20 กว่าวันผันผ่าน จากเหตุฆาตกรรมในวันนั้น ลอร่าฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์ แม้จะพบกับความเจ็บปวดที่ลูกสาวสุดที่รักถูกฆ่า แต่ด้านหนึ่งก็ทำให้เจ้าหน้าที่มีกำลังใจ พวกเขาเชื่อว่าแม่ผู้ตายเห็นหน้าคนร้ายและน่าจะให้ข้อมูลเด็ดได้

แต่ลอร่าตื่นมาแล้วจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น

“มันเหมือนคุณปิดคอมพิวเตอร์ โดยไม่เซฟ ทุกอย่างเลยหายไปอย่างฉับพลัน”

3.

ลอร่าเสียใจกับความตายของลูกสาว และช้ำใจยิ่งไปอีก เมื่อหลักฐานที่ควรนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้คือ ความทรงจำของเธอ ตอนเผชิญหน้ากับคนร้าย แต่กลับจำไม่ได้ มันปวดใจอย่างยิ่งต่อคนเป็นแม่

น้องชายของลอร่าให้ข้อมูลกับหนังสือพิมพ์ว่า เมื่อดูจากที่เกิดเหตุคนร้ายต้องรู้จักครอบครัวซูซ่าอย่างแน่นอน มันต้องเป็นคนที่เข้านอกออกในบ้านได้

นั่นหมายความว่า ถ้าความจำลอร่านึกถึงช่วงนาทีนั้นได้จะนำไปสู่การจับกุมผู้ก่อเหตุได้อย่างแน่นอน

ทว่าความทรงจำของลอร่าในตอนนั้นไม่เคยรื้อฟื้นมาได้อีกเลย

หญิงสาวไม่ย่อท้อ เธอไปพบหมอทางสมอง ไปพบแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ ฉีดยาเซรุ่ม รักษาทุกรูปแบบ ทำเพียงใด พยายามแค่ไหน ความทรงจำในคืนวันที่ 1 กันยายน ปี 1990 ก็ไม่เคยกลับมา

เมื่อตำรวจไม่อาจพึ่งพาลอร่าได้ เขาก็ต้องระดมกำลังสืบแบบหว่านแห มีการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยและพยานมากถึง 1.5 พันราย นักสืบไล่ตามข้อมูลจำนวนมาก แต่ไม่อาจนำไปสู่การไขคดีได้

นักสืบที่ทำเรื่องนี้ย้ำกับนักข่าวว่า “มีคนในชุมชนที่มีเบาะแสซึ่งจะช่วยเราได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับไม่มีข้อมูลอะไรโผล่มาเลย”

คดีดังกล่าวยังคงเป็นเคสที่ไขไม่ได้ เจ้าหน้าที่ยังคงเก็บหลักฐานไว้เป็นอย่างดี หากมีเบาะแสเด็ดหรือเทคโนโลยีการสืบสวนใหม่ๆ ก็พร้อมจะลุยสืบต่อ โดยมีการตั้งรางวัลจำนวน 5 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ สำหรับใครที่ให้ข้อมูลนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ แม้เงินตัวนี้จะยังไม่เคยถูกจ่ายออกไปเลย

ปัจจุบันมีนักสืบรุ่นใหม่ๆ เข้ามาช่วยกันทำงาน แม้ถึงวันนี้จะยังจับฆาตกรไม่ได้แต่พวกเขามีผู้ต้องสงสัยในใจแล้ว

4.

เมื่อเจ้าหน้าที่ดูข้อมูลอาชญากร พวกเขาพบชายรายหนึ่ง ซึ่ง 4 เดือนหลังเกิดเหตุสังหารโหดลีอา ผู้ต้องสงสัยคนนี้ใช้มีดแทงหญิงสาวอายุ 17 ปี เสียชีวิตอย่างเหี้ยมโหด ภายหลังโดนจับกุมและถูกตัดสินจำคุก 6 ปี

ทางศาลย้ำว่า นักโทษคนนี้ เป็นบุคคลอันตรายต่อสังคม และสั่งให้ตำรวจคอยตรวจตราความประพฤติชายคนดังกล่าวเป็นเวลา 3 ปีหลังออกจากคุกด้วย นั่นทำให้นักสืบสงสัยว่า บุคคลปริศนานี้จะเป็นคนลงมือฆ่าข่มขืนลีอาหรือไม่

ทางเจ้าหน้าที่ยังพบข้อมูลว่าฆาตกรรายนี้อาศัยอยู่ในละแวกชุมชนเดียวกับครอบครัวซูซ่า โดยเขาเคยถูกตำรวจสอบปากคำหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีการตั้งข้อหาแม้แต่นิด ครั้งหนึ่งเขาโดนซักถามไปกว่า 10 ชั่วโมง ก่อนโดนปล่อยตัวออกมา เพราะเขาย้ำว่าวันเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในละแวกบ้านซูซ่าเลย

ทุกวันนี้ชายหนุ่มยังอาศัยอยู่ในบ้านห่างจากจุดเกิดเหตุ เดินทางโดยการขับรถไปประมาณ 20 นาทีเท่านั้น แต่ทางตัวเขาย้ำว่า วันที่ 1 กันยายน 1990 ไม่ได้อยู่ที่นั่น และมีพยานถึง 60 คนยืนยันได้

“ไม่รู้ว่าทำไมตำรวจต้องมาสงสัยด้วย เพราะผมยืนยันได้ว่าไม่เกี่ยวข้องในคดีนี้”

แม้ตำรวจจะเชื่อว่าไอ้นี่โกหกก็ตาม และมันอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุในคืนนั้น แต่เมื่อไม่มีหลักฐานเพียงพอจะไปจับกุม

เจ้าหน้าที่จึงไม่อาจแจ้งข้อหาชายคนนี้ได้

ทุกอย่างจึงเป็นปริศนาอยู่ต่อไป

5.

ปัจจุบัน ทางชุมชนสร้างอนุสรณ์ไว้รำลึกเด็กๆ ที่จากไปก่อนวัยอันควร โดยมีชื่อของลีอาอยู่ด้วย ขณะที่มิตรสหายเยาว์วัย ต่างเติบโต เป็นผู้ใหญ่ แต่บาดแผลและความทรงจำยังคงอยู่ ทุกคนยังนึกภาพลีอาก่อนเสียชีวิตได้เสมอ

เธอไม่มีวันได้โต ได้แก่อีกต่อไป ชีวิตจบสิ้นไปเพียงเท่านั้น

ด้านเหล่านักสืบยังไม่เคยพบอาวุธสังหารเลย และตัดความหวังว่าความทรงจำของลอร่าจะฟื้นมาได้ แต่พวกเขาเชื่อว่าจะต้องเจอเบาะแสที่นำไปสู่การปิดคดีในสักวัน

“ผมตามหาทุกหลักฐาน สืบสวนทุกอย่าง เราจะต้องเจอข้อมูลเด็ดที่นำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้”

ด้านลอร่า แม้เธอจะรอดตายมาได้ แต่สิ่งที่คนร้ายฝากไว้ในตัวเธอ นอกจากพรากชีวิตลูกสาวสุดที่รักไปแล้ว มันยังทิ้งบาดแผลในตัวด้วย

ทุกวันนี้หญิงสาวมีปัญหามองอะไรไม่ชัด สูญเสียการได้ยิน เวียนหัว สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ คือเรียกร้องกับนักข่าว ด้วยความเป็นแม่ ด้วยความเป็นมนุษย์ ด้วยความศรัทธาที่ยังมีอยู่ แม้จะเหลือน้อยเต็มที่ แต่เธอก็ย้ำด้วยความเชื่อที่ว่า

“วันหนึ่งเราจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และทราบสาเหตุว่าทำไมลูกถึงต้องโดนฆ่าด้วย”

 

อ้างอิง

https://www.canadaunsolved.com/cases/unsolved-murder-leah-sousa

https://barrie.ctvnews.ca/opp-continues-search-for-killer-25-years-after-leah-sousa-murdered-2543279

https://truecrimediva.com/leah-salina-sousa/

https://www.youtube.com/watch?v=dN-StLh1awA

https://www.orilliamatters.com/local-news/severn-township-monument-honours-children-who-died-too-soon-6291541

https://www.simcoe.com/news/who-killed-leah-sousa-murdered-cumberland-beach-teen-was-sweetest-person-family-friend/article_58a6c9a9-084d-53ec-b334-23e8862ce83html

https://www.ctvnews.ca/murder-most-forgotten-a-cold-case-the-victim-can-t-remember-479045

Tags: , , ,