1
“คุณคิดว่าช่วงเวลาไหน ดีที่สุดในชีวิต”
“กลางคืนครับ” (โดยเฉพาะตอนที่ผมไล่ฆ่าพวกผู้หญิงไง)
ทีมงานรายการเกมโชว์นัดเดต (The Dating Game) ประชุมเคร่งเครียด งานของพวกเขาคือ ทำให้รายการสุดฮิตนี้ดำเนินลุล่วงไปได้ด้วยดี ดังนั้นจึงต้องพิถีพิถันในการเลือกผู้เข้าแข่งขันอย่างมาก
ในปี 1978 เกมโชว์นัดเดตโด่งดังไปทั้งสหรัฐอเมริกา มีผู้ชมเป็นล้านๆ คน รูปแบบของรายการง่ายมาก คือจะมีชายหญิงเปิดตัวในรายการเพื่อหาคู่ โดยมีพิธีกรถามไถ่ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องพิจารณานัดบอดจาก 3 คนในอีกห้องที่มีไม้กั้น ไม่เห็นหน้า และได้ยินแต่เสียง
ผู้เข้าแข่งขันจะถาม 3 คนอีกฟาก แล้วตอนท้ายต้องพิจารณาว่าจะเลือกใครเป็นคู่เดต เมื่อเลือกแล้วก็จะได้พบหน้าอีกฝ่าย
หากวันไหนผู้เข้าแข่งขันเป็นชายหนุ่ม บุคคลอีกห้องจะเป็นหญิงสาว 3 คน แต่ถ้าวันใดคนแข่งขันเป็นผู้หญิง อีกฟากของห้องก็จะเป็นผู้ชาย โดยคุณสมบัติข้อเดียวสำหรับคนที่จะมาออกรายการนี้ก็คือ
ทุกคนต้องเป็น ‘โสด’
“สมัยก่อนไม่มีรายการหาคู่แนวนี้ พอเริ่มทำในช่วงปี 1960 เลยดังระเบิดระเบ้อ พอมายุค 70s เราปรับรายการให้ทันสมัยขึ้น คำถามก็ดูยั่วล้อชวนสงสัย มีการโต้กันไปมาอย่างคึกคัก”
ทีมงานเกมโชว์นี้ได้ผู้เข้าแข่งขันแล้ว เธอเป็นครูสาว หน้าตาน่ารัก ชื่อว่า เชอรีล แบรดชอว์ (Cheryl Bradshaw) ดังนั้นที่อีกฟากจะต้องเป็นผู้ชาย 3 คน
เจ้าหน้าที่หญิงหยิบภาพชายคนหนึ่งขึ้นมาแล้วบอกว่า คนนี้สูง หล่อ มีเสน่ห์ ลองคุยดูแล้วก็เท่น่าสนใจ อย่างไรก็ดีโปรดิวเซอร์หนุ่มส่ายหน้า เขาพบว่าชายคนนี้มีอะไรแปลกๆ มีความน่ากลัวขนลุกโชยออกมา
แต่เมื่อพิจารณาแล้ว ทุกคนตัดสินใจเลือก รอดนีย์ เจมส์ อัลคาลา (Rodney James Alcala) ให้เป็นชายโสดหมายเลข 1 ก่อนจะโทร.แจ้งให้มาออกรายการนี้
อดีตโปรดิวเซอร์รายการเล่าว่า ในยุคนั้นเกมโชว์นัดเดตดังมาก มีคนโสดเข้าร่วมแข่งขันในรายการแล้วได้เป็นดาราจริงๆ เช่น อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ (Arnold Schwarzenegger) หรือฟาร์ราห์ ฟอว์เซตต์ (Farrah Fawcett) ดังนั้นการพิจารณาจึงต้องคำนึงว่า พวกเขาเหล่านี้อยากมาหาคู่จริงๆ ไม่ใช่แค่อยากดังหรืออยากออกโทรทัศน์
รายชื่อชายหญิงโสดที่อาสาออกรายการมีเยอะมาก ในยุคนั้นไม่มีระบบการตรวจสอบดีพอ เพราะการตรวจภูมิหลังเป็นเรื่องยาก ไม่มีกูเกิล ไม่มีอินเทอร์เน็ต มีแต่ข้อมูลคร่าวๆ จึงไม่มีใครทราบว่า หนุ่มสาวโสดทั้งหลายมีประวัติอาชญากรรมใดหรือไม่
กระนั้นทีมงานต่างมั่นใจว่า คงไม่มีคนเลวที่ไหน อยากมาออกเกมโชว์สุดดังนี้หรอก
วายร้ายที่ไหนจะอยากออกโทรทัศน์กัน
สุดท้ายทุกคนจึงเข้าใจว่า พวกเขาคิดผิดไปไกลมาก
ทุกอย่างเริ่มที่รอดนีย์ เจมส์ อัลคาลา
และเขาไม่ใช่คนร้ายธรรมดา
แต่เป็น ‘ฆาตกรต่อเนื่อง’
2
ก่อนจะเริ่มรายการ รอดนีย์เดินทางมาที่ห้องพัก นั่งรอกับชายโสดผู้เข้าแข่งขันอีก 2 คนที่เหลือ ระหว่างนั้นฆาตกรต่อเนื่องรูปงามพูดโพล่งขึ้นมาว่า “ตลอดชีวิต ผมได้ฟันเด็กสาวมาตลอด”
คำพูดนี้ทำให้ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นถึงกับหวาดผวา และรู้สึกแปลกกับรอดนีย์อย่างมาก แต่ไม่มีใครคิดอะไร จนกระทั่งทีมงานตามทั้งหมดไปเข้ารายการ
เมื่อเริ่มโชว์ เชอรีลก็เริ่มแสดงให้เห็นเสน่ห์ความน่ารัก เธอเริ่มถามชายโสด 3 คนในอีกฟาก โดยมีพิธีกรช่วยพูด และชายโสดหมายเลข 1 ช่างมีคำพูดคมคาย น่าดึงดูดใจอย่างยิ่ง
พิธีกรอุ่นเครื่องโดยบอกว่า ชายโสดหมายเลข 1 มีอาชีพเป็นช่างภาพ “เขาหลงใหลมันตั้งแต่อายุได้ 13 ปี เมื่อพ่อพาเขาเข้าห้องมืดเป็นครั้งแรก”
หลังจากนั้นทางเชอรีลจึงได้ฤกษ์ถามชายโสดทั้งสาม ด้วยคำถามว่า “คุณคิดว่าช่วงเวลาไหน ดีที่สุดในชีวิต”
รอดนีย์ตอบไปว่า “กลางคืนครับ”
“แล้วตอนเช้ากับตอนบ่ายไม่ดีตรงไหน” เชอรีลถามเย้า
“มันก็โอเคแหละ แต่ตอนกลางคืนนะดีมาก เพราะเป็นช่วงที่ตื่นตัวที่สุด”
คำถามต่อมา เชอรีลถามว่ารูปลักษณ์คุณเหมือนอะไร
ชายโสดหมายเลข 1 บอกว่า “เหมือนกล้วย และผมดูดีมาก”
“ช่วยระบุให้ชัดอีกนิดได้ไหม”
“ลองมาปอกผมสิ”
ผู้ชมในห้องส่งหัวเราะตบมือ ชายโสดหมายเลข 1 น่ายั่วเย้า อย่างไรก็ดีพอเวลาผ่านไปหลายปี เมื่อทีมงานนั่งดูเทปนี้อีกครั้ง พวกเขาต่างขนลุก ขยะแขยง และสยองกับชายคนนี้
โปรดิวเซอร์รายการผู้ตั้งข้อสังเกตว่า รอดนีย์มีลักษณะน่ากลัว เผยว่า “ตอนที่เขาบอกว่า ชอบช่วงกลางคืนมากสุด เพราะเป็นเวลาที่ตื่นตัวพร้อมมากนั้น ผมขนลุกเลย เขาไม่ได้บอกเชอรีล แต่กำลังพูดทางอ้อมออกโทรทัศน์ว่า
“มันเป็นช่วงที่ผมไล่ฆ่าพวกผู้หญิงไงล่ะ”
แต่ ณ เวลาที่โชว์ออกอากาศ ไม่มีใครรู้ แน่นอนว่าลีลาการตอบของรอดนีย์ชนะใจเชอรีล เธอเลือกเขา ทั้งสองได้เผชิญหน้ากัน ชายโสดหญิงโสดพบเจอแล้ว จากนี้ก็สานต่อนัดเดตกันได้ ผ่านทางทีมงานของรายการ
อย่างไรก็ดีหลังจากที่คุยกันไม่กี่ประโยค สัญชาตญาณบางอย่างของหญิงสาวก็สั่นระฆังเตือนอย่างรุนแรง เมื่อรอดนีย์บอกว่า พรุ่งนี้เราควรนัดเดตกันเลย ทางเชอรีลจึงปฏิเสธเลี่ยงๆ ไปว่า “ฉันต้องไปเรียนเทนนิสนะ”
“คุณก็ยกเลิกคลาสนี้สิ”
หญิงสาวเก็บไปครุ่นคิด แล้วขับรถกลับบ้าน หากตกลงก็แค่แจ้งไปยังทีมงานเพื่อนัดหมายรอดนีย์ กระนั้นควรไปเดตกับชายคนนี้จริงๆ หรือ
เช้าวันต่อมาเธอไปพบครูสอนเทนนิส แล้วเล่าว่าได้ไปออกรายการ เจอชายโสดที่น่าสนใจ แต่อะไรบางอย่างในตัวหญิงสาวย้ำเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า เขามีอะไรแปลกๆ
“ฉันควรจะไปเดตกับเขาดีไหม”
ครูสอนเทนนิสฟังเรื่องราว แล้วพูดออกมาว่า “อย่าไปเด็ดขาด”
ต่อมาทีมงานเกมโชว์นัดเดตได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นเชอรีลที่โทร.มาสอบถามอะไรบางอย่าง
“ฉันไม่อยากไปเดตกับชายคนนี้นะ คือเขาดูมีอะไรแปลกๆ มากด้วย จนฉันไม่สบายใจเลย ถ้าเป็นแบบนี้ ทางรายการจะมีปัญหาอะไรไหม”
เจ้าหน้าที่เกมโชว์ตอบไปว่า ไม่มีหรอก เพราะแม้จะเป็นรายการนัดเดต แต่หนุ่มสาวโสดที่มาออกโทรทัศน์เป็นจำนวนมากลงเอยที่ไม่เคยไปเดตกันจริงๆ พบเจอแค่ในเกมโชว์ แล้วแยกย้ายกันไป
ส่วนชายหญิงโสดที่ออกโทรทัศน์ แล้วไปเดตกันจริงๆ รายการจะมีเจ้าหน้าที่คอยไปดูแล พร้อมกับช่วยสอดส่องห่วงใย เพื่อไม่ให้เจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ดังนั้นพอเชอรีลโทร.ไปแจ้งว่า ไม่พร้อมจะเจอหน้ารอดนีย์ มันก็แค่เรื่องปกติที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เลยไม่มีการนัดหมายไปยังฝั่งชาย เมื่อเรื่องซาไปทีมงานกลับไปพิจารณารายชื่อชายหญิงโสด เพื่อมาออกโชว์ตอนหน้า โดยหารู้ไม่ว่า นั่นคือโชคดีมหาศาลของเชอรีล ที่ทำให้เธอรอดชีวิตมาได้
ทุกวันนี้เจ้าตัวไม่เคยรู้เลยว่า เพราะอะไรถึงเลือกปฏิเสธ ไม่ขอพบหน้าชายโสดหมายเลข 1 อีก แต่สัญชาตญาณที่สั่นไหวในร่างถูกต้องเป็นอย่างมาก
เพราะ 1 ปีต่อมา รอดนีย์ก็ถูกจับกุมในฐานะ ‘ฆาตกรต่อเนื่อง’
3
ก่อนมาออกเกมโชว์นี้ ชายโสดหมายเลข 1 เป็นคนหล่อ มีเสน่ห์ สาวๆ แทบหลงใหล เขาผมยาว หน้าตาคมคาย แต่เบื้องหลังนั้นเป็นอีกอย่าง
เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เขาเคยก่อเหตุลักพาตัวเด็กหญิง แล้วพยายามรัดคออีกฝ่าย โชคดีที่เหยื่อไม่ตาย และมีคนแจ้งตำรวจจับกุมได้ทัน กระนั้นรอดนีย์ก็ได้ประกันตัวและหลบหนี ใช้ชื่อปลอมเรียนถ่ายรูปในมหาวิทยาลัย ที่ซึ่งมีคนบอกว่า ชายคนนี้ดูอบอุ่นใจดี เป็นประเภทที่ว่า
‘ยุงก็ไม่กล้าตบ’
เมื่อมาออกรายการ เขาก่อเหตุฆ่าหญิงสาวมาแล้วกว่า 5 รายด้วยกัน เข้าข่ายฆาตกรต่อเนื่องในทันที เพียงแต่ตอนนั้นยังไม่มีใครรู้
วิธีการของรอดนีย์มีทั้งล่อลวงเด็กไปทำร้าย หลอกหญิงสาวด้วยการขอถ่ายรูป ชวนคุย กินดื่ม แล้วพาไปฆ่าทิ้งอย่างโหดเหี้ยม
เมื่อออกรายการจบ เขายังไปก่อเหตุฆาตกรรมหญิงสาวอีก 2 ราย เมื่อตำรวจรับแจ้งจากพยานว่า หญิงสาวที่กลายเป็นศพ ก่อนหน้านี้นัดพบช่างภาพคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนรอดนีย์ เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนก่อนรวบตัว พอค้นห้องพักพวกเขาก็พบภาพถ่ายศพผู้หญิง เด็กสาว และเด็กชาย อีกเป็นจำนวนมาก
ไม่เพียงภาพสุดสะพรึงที่มีนับร้อย ชุดจับกุมยังพบทรัพย์สินที่ระบุที่มาไม่ได้อีกเป็นจำนวนมาก เมื่อเช็กอย่างละเอียดจึงพบว่า มันเป็นของเหยื่อที่ถูกชายคนนี้ฆ่านั่นเอง
นี่จึงนำไปสู่การต่อจิกซอว์ครั้งสำคัญ พวกเขาพบว่า ชายคนนี้เป็นฆาตกรต่อเนื่องสุดหฤโหด ที่ก่อเหตุมานานกว่า 10 ปีแล้วด้วย
และเมื่อสื่อรู้ข่าว การสืบค้นประวัติก็เกิดขึ้นจนพบว่า รอดนีย์เคยเป็นทหารถูกปลดออกจากกองทัพ ด้วยเหตุผลไม่แน่ชัด แต่พอค้นดีๆ มีบันทึกว่า อาจต้องคดีล่วงละเมิดทางเพศ
เด็กและผู้หญิงที่เสียชีวิตถูกโยงเข้ากับชายคนนี้ พอนักข่าวรู้ว่ารอดนีย์เคยออกรายการนัดเดตสุดโด่งดัง เขาจึงได้รับสมญานามจากสื่อให้เป็น
“นักฆ่าแห่งรายการนัดเดต”
4
เจ้าหน้าที่เชื่อว่า 7 เหยื่อที่ถูกรอดนีย์สังหารเป็นเพียงตัวเลขเล็กน้อย เพราะความจริงแล้ว ชายคนนี้น่าจะฆ่าคนมากกว่านี้ บางทีอาจทะลุถึง 130 ศพทีเดียว
แม้เจ้าตัวจะยืนกรานความบริสุทธิ์ แต่ศาลก็ตัดสินให้ประหารชีวิต และระหว่างที่เจ้าตัวรอคอยวันปลิดชีพนั้น อัยการและตำรวจก็หาหลักฐานเพิ่มเติม
ในปี 2003 พวกเขาพบว่า เครื่องประดับที่รอดนีย์เก็บไว้ในล็อกเกอร์ เมื่อตรวจดีเอ็นเออีกครั้ง ปรากฏว่า มันโยงไปถึงผู้หญิงอีก 4 รายที่หายสาบสูญไปในช่วงปลายยุค 70s และหมายความว่า พวกเธออาจตกเป็นเหยื่อที่ถูกนักฆ่ารายนี้สังหารก็เป็นได้
อัยการย้ำว่า รอดนีย์คือฆาตกรสุดโหด เขาทำกับเหยื่อราวเป็นของเล่น หลายคราเอาคนมาทุบตีรัดคอให้สลบ แล้วรอให้อีกฝ่ายฟื้นมา ก่อนจะทำซ้ำเดิมจนเหยื่อขาดใจตาย แน่นอนว่าหลังลงมือเสร็จ เจ้าตัวก็จะหยิบข้าวของทรัพย์สินผู้เสียชีวิตติดตัวไปด้วย เหมือนรางวัลจากการฆ่า
ในปี 2016 เจ้าหน้าที่โยงหลักฐานว่า เขาเคยสังหารหญิงสาวได้อีกราย กระนั้นรอดนีย์ไม่สามารถมาขึ้นศาลได้ เพราะป่วยหนักแล้ว
ความน่าสยองคือ เหยื่อที่เขาฆ่ารายนี้น่าจะเคยรู้จักมักคุ้นกับเขาในปี 1977 และตอนที่เธอตาย ยังกำลังครรภ์ได้ 6 เดือนด้วย
แม้ปีศาจร้ายจะถูกขังอยู่ในคุก แต่ทางอัยการและเจ้าหน้าที่ยังคงไล่ล่าหาหลักฐานมาเอาผิดรอดนีย์อย่างต่อเนื่อง และเพื่อไขปริศนาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แถมเป็นการปิดคดีที่ค้างคาอีกด้วย
เมื่อนักข่าวถามอัยการว่า อะไรเป็นสาเหตุที่รอดนีย์เลือกจะสังหารคน ก็ได้รับคำตอบว่า
“ชายคนนี้ออกล่าไปทั่ว หาคนไปฆ่า เพียงเพราะเขาสนุกกับมัน”
อย่างไรก็ดีขณะกำลังรอโทษประหารชีวิตที่ยาวนาน รอดนีย์ก็ป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆ และจากโลกไปในปี 2021 ด้วยวัย 77 ปีจากโรคชรา กระนั้นเจ้าหน้าที่และครอบครัวเหยื่อก็ยังเชื่อว่า ในอนาคตจะต้องมีการเปิดโปงว่าชายคนนี้ฆ่าใครไปอีกบ้าง
“เพราะรูปแบบการก่อเหตุของเขาชัดเจนมาก และในหลายคดีที่ปิดไม่ลง ก็ปรากฏร่องรอยคล้ายว่า เขาคือผู้ลงมือ”
5
ปัจจุบันนี้รายการนัดเดตไม่มีอีกแล้ว มันเป็นรายการที่ประสบความสำเร็จในยุคหนึ่งของวงการโทรทัศน์อเมริกาเลย กระนั้นความโชติช่วงของมัน ก็มีรอยด่างพร้อย เมื่อครั้งหนึ่งพวกเขายินยอมให้ปีศาจร้ายนั่งแสยะยิ้มในโชว์ได้
แต่แง่หนึ่ง มันก็ทำให้เห็นภาพของปีศาจที่ชัดแจ้ง เป็นบทเรียนของสังคม และบางทีอาจจะมีผู้เสียหายสักคนที่ย้อนดูการออกโทรทัศน์ครั้งนั้น แล้วแจ้งเบาะแสเพิ่มเข้ามา เจ้าหน้าที่ก็จะได้ตรวจสอบไขคดี เพื่อเปิดโปงรอดนีย์ต่อไป
ด้วยเหตุผลว่า แม้ความตายก็ไม่อาจลบความเลวร้ายของเขาได้
และคลิปการออกรายการครั้งนั้นจะได้รับการเล่าขานไปอีกยาวนาน ถึงความโหดเหี้ยมของฆาตกร ดังที่อัยการที่ทำคดีนี้บอกกับนักข่าวว่า
“แน่นอน คนพูดกันว่า มันเป็นตอนของรายการนัดเดตที่น่าขยะแขยงที่สุดในประวัติศาสตร์เกมโชว์ แต่อีกมุม มันก็ทำให้เห็นภาพน่าประจานของอสูรรายนี้เช่นกัน
“เพราะเมื่อย้อนไปดู เราก็จะเห็นแต่ภาพคนที่หลงตัวเอง เต็มไปด้วยอีโก้ และความจองหอง แบบพวกฆาตกรต่อเนื่อง”
และสุดท้ายพวกนี้ก็ไม่เคยรอดจากการถูกจับกุม
แม้แต่รายเดียว
ข้อมูลอ้างอิง
https://abcnews.go.com/US/close-call-serial-killer-rodney-alcala-appeared-dating/story?id=75039197
https://allthatsinteresting.com/cheryl-bradshaw-dating-game
https://www.cbsnews.com/news/serial-killer-rodney-alcala-the-killing-game/
https://apnews.com/article/california-d9320a59e7987f11889e92cd63015780
https://nypost.com/2023/09/09/how-serial-killer-rodney-alcala-ended-up-on-the-dating-game/
Tags: ฆาตกรต่อเนื่อง, Haunted History, เกมโชว์