ชิมสตรีทฟู้ดรสจัดจ้าน เคล้าวิวกรุงเทพฯ มุมสูงยามค่ำคืนที่ Bangkok Heightz

ร้านอาหารน้องใหม่ในย่านอโศกที่รวมรสชาติจัดจ้านของอาหารไทยสูตรต้นตำรับมาใช้ปรุงวัตถุดิบชั้นดี ภายใต้บรรยากาศบนดาดฟ้าชั้น 39 ของโรงแรม The Continent

WHAT YOU SHOULD KNOW

เดิมทีบนชั้น 39 ของโรงแรม The Continent คือส่วนหนึ่งของค็อกเทลบาร์ Axis & Spin ที่ปัจจุบันนี้ลดลงเหลือบริเวณชั้น 38 เท่านั้น และยกพื้นที่เดิมชั้นบนให้กับร้านอาหารคอนเซปต์ใหม่ของโรงแรม ที่ทางร้านเล่าให้เราฟังว่าต้องการจำลองบรรยากาศของสตรีทฟู้ดในกรุงเทพฯ ทั้งบรรยากาศ สีสัน และรสชาติจัดจ้าน มาเป็นบรรยากาศหลัก แถมท้ายด้วยวัตถุดิบชั้นดี และวิวกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนจากดาดฟ้าชั้น 39 ที่จะทำให้มื้อสตรีทฟู้ดของคุณพิเศษขึ้นกว่าเดิม

ภายในร้านออกแบบเป็นกึ่งเอาต์ดอร์ คือเพิ่มลูกเล่นที่ผนังด้านที่มองเห็นวิวให้เปิดออกได้ เหมาะมากกับช่วงเวลารับลมหนาว แถมยังเล่นสนุกด้วยการหยิบเอากิมมิกต่างๆ ของกรุงเทพฯ มาตกแต่งพื้นที่ ทั้งสายไฟระโยงระยาง หรือมิเตอร์ไฟฟ้าที่เราเห็นได้ทั่วไปตามเสาไฟฟ้า มาช่วยเพิ่มบรรยากาศแบบสตรีทๆ แถมยังทำให้ร้านดูผ่อนคลาย ไม่เกร็งจนเกินไป ต่างจากร้านอาหารในโรงแรมร้านอื่น

EAT THIS

ในครัวการันตีว่าต่อให้เป็นอาหารไทยในโรงแรม เรื่องของรสชาติก็จัดจ้านเต็มที่แบบครัวไทยจริงๆ

– จานแรกคือสตรีทฟู้ดขวัญใจชาวต่างชาติอย่าง ผัดไทย (210-390 บาท) ที่สามารถเลือกได้ทั้งกุ้งใหญ่ ซีฟู้ด ไก่ หรือเต้าหู้สำหรับมังสวิรัติ เส้นเหนียวหนึบกำลังดี เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงผักแบบจัดเต็ม

– ปูนิ่มผัดพริกไทยดำไข่เค็ม (390 บาท) เป็นจานที่น่าสนใจ เพราะเลือกใช้ไข่เค็มเป็นส่วนผสมเพิ่มลงไปจานผัดพริกไทยดำ ช่วยเพิ่มความเค็ม มัน และเข้ากับปูนิ่มได้เป็นอย่างดี

– กุ้งมังกรราดพริก (1,400 บาท) เสิร์ฟกุ้งมังกรตัวโตกับซอสพริก รสชาติเปรี้ยวหวาน จานนี้คือปลาราดพริกที่เราคุ้นเคยกันดี แต่เปลี่ยนวัตถุดิบจัดเต็มเป็นกุ้งมังกรที่ลวกสุกก่อนผัด เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด

– มัสมั่นขาแกะ (690 บาท) จานนี้เป็นลูกผสมระหว่างอาหารฝรั่ง Lamb Shank ที่เปลี่ยนมาตุ๋นในซุปแกงมัสมั่นแทน เสิร์ฟมาในหม้อทองเหลืองจุดไฟ พร้อมสมุนไพรอัดแน่นหม้อ

DRINK THIS

เมื่อคอนเซปต์ความเป็นไทยมาขนาดนี้ เมนูเครื่องดื่มก็จัดเต็มไม่แพ้กัน โดยการนำสมุนไพรไทยๆ เครื่องเทศต่างๆ ที่อยู่คู่ครัวมาใช้เป็นส่วนผสมในการทำเครื่องดื่ม ซิกเนเจอร์ของที่นี่

– มวยไทย (320 บาท) แก้วนี้ใช้เหล้าจินหมักกับพริกขี้หนู ก่อนนำมาผสมกับน้ำมะนาวและเบียร์ขิง ตกแต่งด้วยขิง พริกขี้หนู ใบมินต์ เสิร์ฟมาแบบน่ารักๆ ในแก้วเงินแบบโบราณ พร้อมพวงกุญแจรูปนวม เป็นของที่ระลึกจากทางร้าน

– สุขุมวิท (320 บาท) แก้วนี้ใช้เหล้าวอดก้าเป็นหลัก ผสมกับน้ำเชื่อมใบเตย น้ำมะนาว และเหล้าสมุนไพร Aperol เสิร์ฟในแก้วไม้ ซึ่งใบเตยทำหน้าที่ได้ดีในการเพิ่มกลิ่นหอมนวล

– Bangkok Heightz (320 บาท) ซิกเนเจอร์ของทางร้านที่รวมผลไม้ชนิดต่างๆ ไว้ทั้งเสาวรส กีวี และแอปเปิ้ล มาผสมกับสมุนไพรหลักคือขิง เสริมรสเปรี้ยวด้วยน้ำมะนาว เหล้าส้ม เหล้าวอดก้า และเพิ่มกลิ่นสมุนไพรด้วยแอปแซงต์เล็กน้อย