เผลอมีเซ็กซ์กับ ‘อาจารย์’ ผู้ชาย แต่ผมชอบผู้หญิง

คนจะถูกดึงดูดโดยความสามารถ ความเหนือกว่า
และความอาทรที่ปนกันอยู่ในความสัมพันธ์ระหว่างคนต่างสถานะเชิงอำนาจ

Q: ผมเผลอมีเพศสัมพันธ์กับอาจารย์ (ผู้ชาย) ด้วยความยินยอมนะครับ หลังจากนั้นผมก็รู้สึกไม่ดีเพราะเขาเป็นผู้ชาย แต่ผมชอบผู้หญิง ผมเลยเลิกคุย เลิกติดต่อ แต่เขารู้สึกเสียใจมาก ผมก็ไม่ได้บอกความจริงว่าเลิกติดต่อเพราะอะไร ผมเองก็ไม่ทราบว่าเขาจะเสียใจเยอะแยะทำไม ผมควรทำอย่างไรดีครับ

A: คำถามสั้นๆ นี้เป็นอีกหนึ่งการตอกย้ำว่าเซ็กซ์กับความรักหรือแม้แต่ความรู้สึกไม่ได้มาด้วยกันหรือไปด้วยกัน เหมือนที่หลายๆ คนวาดฝัน

คนร่วมเพศด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ กันไป และไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึกรักชอบเข้ามาเกี่ยวข้อง และอาจจะสนุกสนานเมามันกับการร่วมเพศนั้นมากหรือน้อยไปกว่าการร่วมเพศที่เป็นการแสดงออกของความรักหรือไม่ก็ได้

ปัญหาคือเราเอาความต้องการและอารมณ์คนละประเภทไปปนกัน และเอาการปะปนนี้เป็นมาตรฐานในความถูกต้องหรืองดงามของเรื่องเพศอีกต่างหาก กลายเป็นว่าการร่วมเพศโดยไม่มีอารมณ์ความรู้สึกผูกพันเข้าไปเกี่ยวข้องถูกจัดเป็นความพลาดพลั้งหรือทำให้รู้สึกไม่ดีได้ ทั้งที่คนทุกเพศสภาพทุกช่วงอายุสามารถจะร่วมเพศโดยปราศจากความรักได้ด้วยกันทั้งสิ้น ณ เวลาใดเวลาหนึ่งที่โอกาสหรือองค์ประกอบเอื้อให้ทำได้

พวกที่บอกว่าไม่เคยทำอะไรแบบนี้ อาจเป็นเพราะไม่มีโอกาสหรือองค์ประกอบให้ทำเช่นนั้นก็เป็นได้ ถ้ามีโอกาสก็ไม่แน่ว่าจะทำอย่างไรให้ข่มใจสู้เซ็กซ์ได้หรือไม่ก็ไม่รู้

ที่ยุ่งยากมากๆ ถึงมากที่สุดก็คือ คนที่บังเอิญมาร่วมเพศกันนั้น มาพร้อมกับอารมณ์/ความรู้สึก/ความคาดหวังที่ไม่เหมือนกัน เป็นไปได้ว่าฝ่ายหนึ่งอาจจะมีเซ็กซ์เพราะความต้องการทางกาย แต่ฝ่ายอื่นๆ (อย่าลืมว่าเซ็กซ์ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับคนเพียงแค่ 2 คน แต่อาจจะมีผู้เกี่ยวข้องโดยตรงหลายฝักฝ่ายแบบพหุภาคี) อาจจะอยากพัฒนาจากเซ็กซ์ไปสู่ความสัมพันธ์ก็เป็นได้

การจัดการกับคนที่เราไม่ชอบหรือไม่คิดจะพัฒนาความสัมพันธ์ด้วยก็คือ
เพิ่มระยะห่างอย่างที่คุณทำ ไม่ว่าเขาจะฟูมฟายเสียใจอย่างไร ก็รักษาระยะห่างนี้ไว้

คุณคนถามบอกว่าชอบผู้หญิง แต่ ‘เผลอ’ ไปร่วมเพศ (ที่เขาทำไปเป็นการร่วมเพศ เพราะเซ็กซ์ครั้งนั้นอยู่นอกความสัมพันธ์ และเมื่อทำไปแล้วก็ไม่ได้จับเซ็กซ์เข้าไปในความสัมพันธ์ด้วย) ตามการผลักของความอยากทางกายและโอกาสที่ทำให้การร่วมเพศเกิดขึ้นได้

เมื่อความอยากวูบนั้นผ่านไป ‘เหตุผล’ กลับคืนมา บางคนประเมินเซ็กซ์ที่ได้ทำไปแล้วอาจจะไม่ชอบด้วยปัจจัยต่างๆ กัน

คุณเจ้าของคำถามบอกว่ารู้สึกไม่ดีหลังจากมีเซ็กซ์กับผู้ชาย เพราะตัวเองชอบผู้หญิง ความรู้สึกไม่ดีอาจเป็นเพราะอะไรที่ได้ทำไปไม่ตรงรสนิยม ไม่ใช่เรื่องที่ชอบ หรืออาจจะเป็นเพราะเซ็กซ์ครั้งนี้ไม่สอดคล้องกับกรอบกติกาที่บอกว่าเซ็กซ์ที่ถูกต้องต้องเป็นเรื่องระหว่างชายหญิง หรือเป็นเพราะไม่ได้ชอบคนคนนี้ ก็เลยไม่อยากจะสานต่อไปสู่ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขึ้น

เหตุผลที่เป็นไปได้ของความรู้สึกไม่ดีเป็นไปได้หลายอย่าง และดูเหมือนจะมีความไม่พอดีระหว่างคุณคนถามกับคนที่ไปมีเซ็กซ์ด้วย ความเสียใจของอีกฝ่ายเมื่อเซ็กซ์ไม่ได้พัฒนาไปเป็นความสัมพันธ์ อาจเป็นเพราะเขารู้สึกชอบคุณเจ้าของคำถาม หรือรู้สึกว่าเมื่อมีอะไรกันแล้วก็น่าจะมีอะไรต่อเนื่องไปอีก ไม่ใช่จบห้วนๆ แบบ one-night stand เช่นนี้

เอาเป็นว่าอีกฝ่ายเขาก็มีความรู้สึกและความคาดหวังของเขา เมื่อไม่เป็นอย่างที่หวังก็เสียใจมากมายเป็นธรรมดา คุณคนถามไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร แต่ดูเหมือนความไม่เข้าใจจะปนความรำคาญอยู่ด้วยไม่มากก็น้อย เพราะเราอยากจบ แต่อีกฝ่ายไม่ยอมจบ กลายเป็นความไม่พอดี/ไม่ลงตัวให้น่ารำคาญ

ไม่รู้ว่าแท้ที่จริงคุณเจ้าของคำถามชอบผู้หญิง/ไม่ชอบผู้ชายหรือว่าอย่างไร แต่ที่พอจะบอกได้คือคุณไม่ได้ชอบผู้ชายคนนี้ที่คุณไปมีอะไรกับเขา การจัดการกับคนที่เราไม่ชอบหรือไม่คิดจะพัฒนาความสัมพันธ์ด้วยก็คือ เพิ่มระยะห่างอย่างที่คุณทำ ไม่ว่าเขาจะฟูมฟายเสียใจอย่างไร ก็รักษาระยะห่างนี้ไว้

การพยายามอธิบายหรือเปิดการเจรจาจะทำให้การพัวพันยืดเยื้อไม่ยอมจบได้  อีกฝ่ายต้องไปจัดการกับใจกับความรู้สึกของตัวเองเมื่อผิดหวังไม่ได้อย่างใจ เมื่อเวลาผ่านไปและใจเขาลงตัวแล้ว อาจจะพูดคุยถึงสาเหตุได้ แต่โดยทั่วไปเมื่อคนจัดการใจของตัวเองจากความผิดหวังในความรักได้ เขาหรือเธอมักจะไม่ต้องการคำตอบหรือคำอธิบายอีกแล้ว เพราะความรักที่เคยท่วมท้นได้ผ่านไปไม่มีอะไรติดอยู่ในใจ

อย่ารู้สึกผิดที่เราไม่รักใครบางคนอย่างที่เขารักเรา อย่าพยายามรักษาน้ำใจโดยการยอมให้เขายื้อ เพราะการยื้อยิ่งเป็นการทำร้ายเขาซ้ำๆ การไม่พยายามฝืนใจตัวเองและไม่เสแสร้งจะเป็นการผลักให้คนที่เราไม่รักต้องถอยห่างไปทำใจหรือจัดการใจตนเอง เวลาจะทำให้ความเจ็บของเขาน้อยลง

คุณคนถามได้มีเซ็กซ์ที่ตัวเองไม่ชอบกับคนที่ไม่สามารถจะรักได้ bad sex เป็นเรื่องธรรมดานะคะ ไม่มีใครมีแต่เซ็กซ์ดีๆ ได้ตลอดเวลาหรอก เซ็กซ์ที่ตัวเองไม่ชอบทำให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้นว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร ทนอะไรได้บ้าง

อย่ารู้สึกผิดที่เราไม่รักใครบางคนอย่างที่เขารักเรา
อย่าพยายามรักษาน้ำใจโดยการยอมให้เขายื้อ
เพราะการยื้อยิ่งเป็นการทำร้ายเขาซ้ำๆ

คนที่อ่านคำตอบนี้มาถึงบรรทัดนี้อาจจะติดใจกับประโยคแรกของคำถามที่บอกว่า คนถามมีเซ็กซ์กับอาจารย์ผู้ชาย ถ้าตัดสินโดยมาตรฐานความถูกต้องของคนหลายกลุ่มก็ดูจะเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แต่เซ็กซ์หรือความสัมพันธ์ระหว่างคนเรียน-คนสอนหนังสือเกิดขึ้นโดยเหตุต่างๆ มากมายหลายกรณี

อำนาจเป็นปัจจัยที่ดึงดูดคนต่างสถานะ แม้ว่ากติกาจะบอกว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม คนมากมายมักจะหลงรักครูของตัวเอง หรือหลงรักหมอ/พยาบาลที่ดูแลรักษาเมื่อยามป่วยไข้ อะไรประมาณนี้สะท้อนแนวโน้มที่คนจะถูกดึงดูดโดยความสามารถ ความเหนือกว่า และความอาทรที่ปนกันอยู่ในความสัมพันธ์ระหว่างคนต่างสถานะเชิงอำนาจ

คนมากมายสานสัมพันธ์ต่างสถานะเชิงอำนาจที่สังคมบอกว่าไม่ถูกต้องนี้ และคุณภาพความสัมพันธ์แบบนี้ก็ต่างกันไปในแต่ละกรณี ดูเหมือนกฎกติกาของรัฐและสังคมจะห้ามความสัมพันธ์รูปแบบนี้ไม่ได้นัก ไม่ว่าจะประณามหรือลงโทษอย่างไร เราก็ได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างคนเรียน-คนสอนหนังสืออยู่เป็นระยะ

คนที่อยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบนี้เผชิญกับแรงกดดันมากมายมหาศาล ทั้งความรู้สึกผิดในใจ และการประณามของสังคม ความสามารถในการจัดการใจและอารมณ์จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง

เป็นไปได้ว่าความรู้สึกว่าตัวเองได้ก้าวข้ามเส้นแบ่งถูกผิดของกติกาเรื่องเพศทั้งในเรื่องการร่วมเพศกับคนเพศสภาพเดียวกัน และการร่วมเพศกับ ‘อาจารย์’ เป็นแง่มุมสำคัญของคำถามนี้

การละเมิดกติกาเรื่องเพศต้องอาศัยความเข้มแข็งทางใจและจิตวิญญาณอยู่มาก และเรื่องเพศเป็นแง่มุมความเป็นมนุษย์ที่ข้อห้ามศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวงกั้นและกดไม่อยู่

เมื่อเจอกับสถานการณ์เรื่องเพศที่หลุดออกนอกกรอบเช่นนี้ การใคร่ครวญความปรารถนา และความแข็งแกร่งของใจและตัวตนน่าจะทำให้เราพอจะบอกตัวเองได้ว่าจะเดินหน้าในฐานะ ‘ขบถทางเพศ’ หรือจะสละความปรารถนาของตัวเองถอยไปเป็น ‘คนดี’ ที่สยบยอมต่อกติกา

ภาพประกอบ: eddy chang