“ถ้าฉันไม่สดใหม่แล้ว จะยังรักฉันอยู่ไหม?” ฟังเสียงเหล่าศิลปินหญิงแถวหน้า ที่แตกสลายเพราะความคาดหวังของสังคม

ณ วินาทีนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักเพลง APT. ของโรเซ่ (Rosé) และบรูโน มาร์ส (Bruno Mars) ด้วยท่อนฮุกที่ติดหู เพลงจังหวะสนุก ร้องตามเต้นตามง่าย ทำให้เกิดปรากฏการณ์ ‘อาพาทือ อาพาทือ’ กันทั้งบ้านทั้งเมือง ต้องชมจริงๆ ว่า โรเซ่เลือกลีดซิงเกิลมาได้ถูกต้อง กระตุ้นให้เราอยากฟังอัลบั้มเต็มของเธอ ซึ่งจะปล่อยในวันที่ 6 ธันวาคมที่จะถึงนี้ยิ่งขึ้นไปอีก

แต่ก่อนจะไปถึงวันปล่อยอัลบั้ม ล่าสุดโรเซ่ก็ออกซิงเกิลที่ 2 number one girl มาเพื่อต่อยอดกระแส โดยเพลงใหม่นี้เรียกได้ว่าเป็นคนละขั้วกับ APT. เลยทีเดียว เพราะเป็นแนวบัลลาด เน้นโชว์เสียงร้อง กระแทกกระทั้นอารมณ์ กล่าวถึงผู้หญิงที่อยากจะเป็นที่หนึ่งของใครสักคน

บางคนอาจตีความเพลงนี้เป็นเพลงอกหัก ใคร่ครวญถึงแฟนเก่าที่ไม่เคยเห็นค่าเรา แต่จริงๆ โรเซ่ให้สัมภาษณ์กับดีเจเซน โลว์ (Zane Lowe) ไว้ว่า เธอเขียนเพลงนี้หลังกลับจากงานอีเวนต์หรู แล้วนอนอ่านคอมเมนต์ด่าทอในอินเทอร์เน็ตจนดึกดื่น

“ฉันเขียนเพลงนี้หนึ่งวันหลังจากไปอีเวนต์หนึ่งมา ฉันเคยไปอีเวนต์หรูๆ มามาก และก็ขอบคุณที่ได้ไป แต่ฉันไม่รู้สึกถูกเติมเต็มเลย ฉันรู้สึกเหมือนกำลังวิ่งตามไขว่คว้าอะไรสักอย่าง และรู้สึกว่างเปล่ามาก คืนนั้น สุดท้ายฉันก็ไปไล่อ่านคอมเมนต์ต่างๆ ที่ฉันรู้อยู่แล้วว่าจะทำให้ฉันแตกสลาย”

ในสัมภาษณ์กับนิตยสาร i-D โรเซ่เล่าเพิ่มอีกว่า “ฉันเล่นอินเทอร์เน็ตจนถึงประมาณตี 5 นอนไม่หลับเพราะมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่คนเหล่านี้พูดเกี่ยวกับฉัน และสิ่งที่ฉันอยากให้พวกเขาพูด […] ฉันรังเกียจตัวเองมากที่เป็นแบบนี้”

ด้วยเหตุนี้เอง เนื้อเพลง number one girl จึงออกมาในรูปแบบตัดพ้อปนขอร้อง ที่ไล่เลียงสิ่งที่เธออยากได้ยินคนอื่นพูดเกี่ยวกับเธอทีละอย่าง

Tell me that I’m special, tell me I look pretty

(บอกทีว่าฉันพิเศษ บอกทีว่าฉันดูสวย)

…

Tell me I’m that new thing, tell me that I’m relevant

(บอกทีว่าฉันเป็นของใหม่ บอกทีว่าฉันโด่งดัง)

…

Tell me I’m going real big places

(บอกทีว่าฉันจะประสบความสำเร็จ)

โรเซ่ (ที่มา: Atlantic Records / The Black Label)

สำหรับผู้เขียน ท่อนที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือท่อน “Tell me I’m that new thing” ปีนี้โรเซ่อายุ 27 ปี หากเรามองเธอในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่ง ถือว่ายังเด็กอยู่มาก อายุขัยโดยเฉลี่ยของมนุษย์คือ 72 ปี เท่ากับโรเซ่ยังเดินทางไม่ถึงครึ่งชีวิตด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม หากมองในบริบทของวงการบันเทิง เธออยู่ในวงการมานานพอสมควร นับตั้งแต่เดบิวต์ปี 2016 ก็ 8 ปีแล้ว

ความรู้สึกกลัว กังวล ไม่มั่นคง เพราะตัวเองไม่ใช่ ‘ของใหม่’ อีกต่อไปนั้น ไม่ได้เกิดกับโรเซ่เพียงคนเดียว อันที่จริงมันชวนให้ผู้เขียนนึกถึงคำกล่าวของนักร้อง-นักแต่งเพลงสาวระดับโลก เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ที่ว่า

“ผู้หญิงในวงการบันเทิงจะถูกนำไปทิ้งที่สุสานช้างเมื่ออายุ 35 ปี ทุกคนเป็นของเล่นชิ้นใหม่ระยิบระยับได้แค่ประมาณ 2 ปีเท่านั้น”

เทย์เลอร์ สวิฟต์ (ที่มา: Republic Records)

หากจะมีใครในวงการบันเทิงที่รู้ดีที่สุดเกี่ยวกับการเป็น ‘ของใหม่’ คนคนนั้นคือเทย์เลอร์ ถึงแม้เธอจะอยู่ในสปอตไลต์มาเกือบ 20 ปี แต่ก็ยังดังค้างฟ้า ส่วนหนึ่งเพราะเธอสร้างตัวตนขึ้นมาใหม่ (Reinvent) ตลอดเวลา

เป็นเจ้าหญิงคันทรีใสๆ ใน Fearless

เป็นสาวนิวยอร์กปากแดงจัดจ้านใน 1989

เป็นผู้หญิงซึมเศร้าและโดดเดี่ยวใน folklore

ทุกครั้งที่ออกอัลบั้ม เทย์เลอร์จะสร้างยุคสมัย (Era) ใหม่ให้ตัวเอง จนเป็นที่มาของชื่อทัวร์คอนเสิร์ต The Eras Tour ซึ่งรวมทุกยุคอันเป็นตำนานของเธอไว้ในโชว์เดียวกัน อย่างไรก็ตาม การต้องหากิมมิกใหม่ๆ มาดึงดูดความสนใจคนอยู่เสมอนั้น ถึงจุดหนึ่งย่อมกลายเป็นแรงกดดันหนักอึ้ง ดังที่เทย์เลอร์เขียนไว้ในเพลง Nothing New จากอัลบั้ม Red

Are we only biding time ’til I lose your attention?

(เราแค่กำลังถ่วงเวลากันอยู่หรือเปล่า จนกว่าฉันจะสูญเสียความสนใจของคุณไป)

And someone else lights up the room

(และมีใครอีกคนมาทำให้ห้องนี้สว่างไสว)

People love an ingénue

(ผู้คนรักเด็กสาวไร้เดียงสานี่นา)

…

Will you still want me when I’m nothing new?

(คุณจะยังต้องการฉันอยู่ไหม เมื่อฉันไม่ใช่ของใหม่อีกแล้ว?)

นอกจากเทย์เลอร์และโรเซ่ ศิลปินสาวดาวรุ่ง โอลิเวีย โรดริโก (Olivia Rodrigo) ก็เป็นอีกคนที่ถ่ายทอดประเด็นคล้ายๆ กันผ่านบทเพลง ในเพลง teenage dream จากอัลบั้ม GUTS โอลิเวียร้องว่า

Got your whole life ahead of you, you’re only nineteen

(ยังเหลืออีกทั้งชีวิตรออยู่ข้างหน้า เพิ่งอายุ 19 เอง)

But I fear that they already got all the best parts of me

(แต่ฉันกลัวว่าพวกเขาจะได้ส่วนที่ดีที่สุดของฉันไปหมดแล้ว)

And I’m sorry that I couldn’t always be your teenage dream

(และฉันขอโทษ ที่ฉันไม่สามารถเป็นความฝันวัยรุ่นของคุณไปได้ตลอด)

โอลิเวีย โรดริโก (ที่มา: Geffen Records)

อ้างอิงจากสัมภาษณ์กับเดอะการ์เดียน (The Guardian) โอลิเวียเคยได้รับคำชมมากมายเพราะเธอเข้าวงการตอนเด็ก และเป็นเด็กผู้หญิงที่โตเกินวัย แต่เธอไม่สามารถอายุน้อยไปได้ตลอด เพลง teenage dream จึงเกิดจากความกังวลว่าเมื่อโตขึ้น “ฉันจะสูญเสียอะไรไปบ้าง และฉันอาจจะน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับคนบางกลุ่ม”

ทีแรกผู้เขียนคิดว่ามันเศร้ามากแล้วที่โรเซ่รู้สึกกลัวจะไม่ได้เป็น ‘ของใหม่’ ในช่วงวัยแค่ 27 ปี แต่เทย์เลอร์ก็เขียนอัลบั้ม Red ตอนอายุ 21-23 ปี และโอลิเวียเขียนอัลบั้ม GUTS ตอนอายุ 19-20 ปีเท่านั้น กล่าวคือต่อให้อายุน้อยขนาดไหน ศิลปินหญิงก็ยังต้องแบกรับแรงกดดันในการสร้างตัวตนใหม่เหมือนกัน

หากเด็กอายุเพียง 19-20 ปี ยังมีความคิดว่า “They already got all the best parts of me” อาจถึงเวลาต้องมาทบทวนกันอย่างจริงจังแล้วหรือเปล่าว่า วงการบันเทิงและสารพัดความคาดหวังจากสังคม ทำอะไรกับศิลปินหญิงบ้าง?

จริงอยู่ที่ความฉาบฉวยเป็นของคู่กันกับวงการนี้ และศิลปินชายเองก็เผชิญช่วงขาขึ้นขาลงเช่นกัน แต่คำถามคือ สังคมคาดหวังให้พวกเขาสร้างตัวตนใหม่มากเท่าที่คาดหวังกับศิลปินหญิงไหม?

ศิลปินชายแถวหน้าหลายคนสามารถใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ หน้าสด แบกกีตาร์หนึ่งตัวขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีได้เลย หลายคนแต่งตัวลุคเดิมๆ ตลอดไม่ว่าจะออกกี่อัลบั้ม ในขณะที่ศิลปินหญิงต้องปรับลุคซ้ำแล้วซ้ำเล่า มิเช่นนั้นจะถูกครหาว่า ปล่อยตัว ซ้ำซาก น่าเบื่อ หรือต่อให้ดูแลตัวเองดี ศิลปินหญิงบางคน เช่น เมดิสัน เบียร์ (Madison Beer) ก็ยังถูกหาว่า ‘สวยเกินไป’ จนดูปลอม ทำให้ชอบไม่ลง

เหมือนอย่างที่เทย์เลอร์อธิบายในสารคดี Miss Americana ศิลปินหญิงต้องพยายามดิ้นรนทุกทาง เพื่อเอาตัวรอดในสังคมที่ตะโกนบอกพวกเธอว่า

“จงเป็นของใหม่เพื่อพวกเรา จงเยาว์วัยเพื่อพวกเรา สร้างตัวตนใหม่ที่พวกเราเห็นแล้วสบายใจ แต่ก็ต้องเป็นตัวตนที่ท้าทายสำหรับคุณ ใช้ชีวิตให้มีเรื่องราวน่าสนใจและทำให้พวกเราสนุก แต่ต้องอย่าบ้าคลั่งเกินไปจนพวกเรารู้สึกอึดอัด”

“ศิลปินหญิงที่ฉันรู้จักต้องสร้างตัวตนใหม่เยอะกว่าศิลปินชาย 20 เท่า” เทย์เลอร์สรุป “พวกเธอต้องทำ ไม่อย่างนั้นก็ตกงาน”