***บทความนี้พูดถึงการข่มขืนและความรุนแรงทางเพศ
หากใครเป็นแฟนนิยาย การ์ตูน ภาพยนตร์ หรือซีรีส์แนวแฟนตาซี คงจะต้องเคยได้ยินชื่อนีล เกแมน (Neil Gaiman) มาบ้างแน่นอน ชายอังกฤษวัย 64 ปีคนนี้เป็นเจ้าของผลงานดังอย่าง The Sandman, Good Omens, Coraline, The Graveyard Book, American Gods และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในนักเขียนแฟนตาซีที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งยุคสมัย
นอกจากความสามารถด้านการเขียน เกแมนถูกชื่นชมเรื่องทัศนคติอยู่บ่อยๆ เขาเคยประกาศตัวเป็นเฟมินิสต์ โพสต์สนับสนุนเหยื่อความรุนแรงทางเพศ รวมถึงสอดแทรกประเด็นสิทธิสตรีและ LGBTQIA+ เข้ามาในหนังสือหลายเล่ม แฟนคลับจำนวนมากมองเกแมนเป็น ‘สุภาพบุรุษที่ไว้ใจได้’
จนกระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2024 พอดแคสต์จาก Tortoise Media เปิดเผยเรื่องราวของผู้หญิง 2 คนที่อ้างว่า เคยถูกเกแมนล่วงละเมิดทางเพศ หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงอีก 3 คนออกมาเล่าประสบการณ์คล้ายๆ กัน กลายเป็นเรื่องช็อกวงการอยู่ระยะหนึ่ง
ตัวแทนของเกแมนปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอธิบายว่าเกแมนมีรสนิยม BDSM แต่มันไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย ตราบใดที่ทั้ง 2 ฝ่ายบรรลุนิติภาวะและยินยอม
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2025 New York Magazine เผยแพร่บทความสัมภาษณ์ผู้หญิง 8 คนที่เล่าว่า ตนเป็นเหยื่อของเกแมน หากอิงตามเนื้อหาบทความแล้ว กิจกรรมทางเพศที่เกแมนกระทำกับพวกเธอเหล่านี้ห่างไกลจากคำว่า ‘ยินยอม’ มาก
สการ์เล็ตต์ พาฟโลวิช (Scarlett Pavlovich) หนึ่งในเหยื่อที่ลงทุนเปิดชื่อเปิดหน้า อายุเพียง 22 ปีตอนที่พบกับ อแมนดา พาล์มเมอร์ (Amanda Palmer) อดีตภรรยาของเกแมน ครั้งแรก พาฟโลวิชชื่นชมพาล์มเมอร์อยู่ก่อนแล้วในฐานะนักร้อง-นักเขียนชื่อดัง ไม่นานพวกเธอจึงกลายเป็นเพื่อนกัน พาฟโลวิชคอยช่วยพาล์มเมอร์ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ด้วยความเสน่หาส่วนตัว เช่น ช่วยไปซื้อของ และช่วยจัดไฟล์
วันหนึ่งพาล์มเมอร์ไหว้วานให้พาฟโลวิชช่วยดูแลลูกชายในช่วงวันหยุด แต่ต้องไปที่บ้านพ่อเด็กก็คือเกแมน เมื่อพาฟโลวิชไปถึงเธอพบว่าพาล์มเมอร์พาลูกออกไปเล่นข้างนอกแล้ว ทั้งบ้านจึงเหลือเพียงเธอกับนักเขียนชายที่อายุมากกว่าเกือบ 40 ปี ทีแรกทั้งคู่คุยกันตามปกติ จนกระทั่งประมาณ 2 ทุ่ม เกแมนเริ่มเทไวน์ให้พาฟโลวิชดื่ม และคะยั้นคะยอให้เธอลองใช้อ่างอาบน้ำในสวนบ้านเขา
หลังจากพาฟโลวิชลงไปแช่อ่างได้ไม่กี่นาที เกแมนก็เดินเข้ามาในสวนด้วยสภาพเปลือยเปล่า แล้วลงแช่อ่างเดียวกับเธอ เขาพยายามบอกให้เธออ้าขาออกบ้าง ให้นั่งบนตักเขาบ้าง เธอปฏิเสธด้วยเหตุผลว่าเธอเป็นเลสเบี้ยน ไม่เคยมีเซ็กซ์มาก่อน แถมยังมีประสบการณ์โดนคุกคามทางเพศ แต่เกแมนไม่สนใจ เขาพยายามมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักกับเธอ เรียกเธอว่า ‘เด็กดี’ และสั่งให้เธอเรียกเขาว่า ‘นายท่าน’
หลังจากเหตุการณ์นี้ พาฟโลวิชสับสนอยู่พักหนึ่ง เธอนับถือพาล์มเมอร์มากราวกับพระเจ้า ยิ่งไปกว่านั้นอะพาร์ตเมนต์ที่เธอเช่าอยู่ก็กำลังจะหมดสัญญา พาฟโลวิชไม่มีรายได้ ไม่มีครอบครัวให้พึ่งพาเพราะตัดขาดกันนานแล้ว พอพาล์มเมอร์ยื่นข้อเสนอให้มาเป็นพี่เลี้ยงเด็กถาวรพร้อมกับที่อยู่ฟรี เธอจึงจำยอม
แต่การคุกคามไม่ได้หยุดเท่านั้น ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นตอนที่พาฟโลวิชอยู่ในห้องครัว เกแมนเดินเข้ามาหาเธอ ดึงเธอไปที่โซฟา ตีเธอด้วยเข็มขัด แล้วพยายามมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักกับเธอโดยไม่ใช้เจลหล่อลื่น พาฟโลวิชตะโกนขอร้องให้เขาหยุด แต่สิ่งที่เขาทำคือเดินไปหยิบเนยจากห้องครัวมาใช้แทนเจลหล่อลื่น จากนั้นก็ทำต่อ เขาเรียกเธอว่า ‘ทาส’ รวมถึงสั่งให้เธอทำความสะอาดอวัยวะเพศของเขาหลังเสร็จกิจ ซึ่งมีเศษอุจจาระติดอยู่ด้วย
ครั้งต่อๆ มา เกแมนสั่งให้พาฟโลวิชอมอวัยวะเพศของเขาทั้งที่ยังมีปัสสาวะติดอยู่ บางครั้งทำรุนแรงกับเธอมากจนเธออ้วก แล้วสั่งให้เธอเลียอ้วกตัวเอง บางครั้งข่มขืนเธอโดยที่ลูกชายเขานั่งเล่นไอแพดอยู่ใกล้ๆ ถึงจุดหนึ่งเด็กชายผู้ไร้เดียงสาก็เริ่มเรียกพาฟโลวิชว่า ‘ทาส’ ตามพ่อ
ประมาณ 1 เดือนหลังจากเริ่มงานพี่เลี้ยง พาฟโลวิชทนไม่ไหว จึงตัดสินใจสารภาพทุกอย่างกับพาล์มเมอร์ พาล์มเมอร์ฟังแล้วไม่มีอาการตกใจ เพียงเล่าว่า “มีผู้หญิงมาบอกฉันเรื่องเดียวกัน 14 คนแล้ว” เธอสัญญาว่าจะช่วยดูแลพาฟโลวิช โดยให้พาฟโลวิชพักอยู่ที่อีกบ้านของเธอชั่วคราว
นอกจากพาฟโลวิช ตัวบทความก็ยังเล่าถึงเหยื่อคนอื่นๆ เช่น แคตเทอรีน เคนดัล (Katherine Kendall) อายุ 22 ปีเช่นกันตอนที่เจอเกแมน เธอทำงานอาสาสมัครให้อีเวนต์ของเขา จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มส่งข้อความและวิดีโอคอลจีบกัน เคนดัลไม่มีปัญหากับความสัมพันธ์แบบหมาหยอกไก่ แต่เธอบอกเกแมนชัดเจนว่า เธอไม่ต้องการไปไกลถึงขั้นมีเซ็กซ์ ซึ่งเขาตกลง
10 เดือนต่อมา เกแมนบอกให้เคนดัลขึ้นไปนั่งรอบนรถบัสของเขา เพื่อที่จะได้ไปเที่ยวด้วยกันหลังเขาแจกลายเซ็นเสร็จ เคนดัลเชื่อใจเกแมน มองเขาเป็นผู้ชายไร้พิษภัย แต่พอเอาเข้าจริง เขากลับจับเธอกดด้านหลังรถบัส แถมยังบอกเธอว่า “ผมเป็นผู้ชายรวย ผมชินกับการได้ทุกอย่างที่ต้องการ”
เคนดรา สเตาต์ (Kendra Stout) พบกับเกแมนครั้งแรกในวัย 18 ปี เธอเป็นแฟนคลับตัวยงที่ยอมขับรถ 4 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อไปงานแจกลายเซ็นของเขา หลังจากนั้นเกแมนก็ส่งอีเมลหาสเตาต์และซื้อกล้องเว็บแคมให้เธอเพื่อที่จะได้วิดีโอคอลกัน
เวลาผ่านไป 3 ปี สเตาต์บรรลุนิติภาวะ ทั้งคู่จึงเริ่มมีความสัมพันธ์ทางเพศ สเตาต์เล่าว่าตัวเธอเองไม่ได้มีรสนิยม BDSM แต่เกแมนไม่เคยถามความชอบของเธอ เขามีเซ็กซ์กับเธอโดยไม่มีการเล้าโลมหรือใช้เจลหล่อลื่น ตีเธอด้วยเข็มขัด และสั่งให้เธอเรียกเขาว่า ‘นายท่าน’
ครั้งหนึ่งสเตาต์ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้ลุกนั่งลำบากและเจ็บมาก เธอห้ามเกแมนมีเซ็กซ์โดยการสอดใส่ แต่สุดท้ายเขาก็ขืนใจเธอ สเตาต์ปฏิเสธอยู่หลายครั้งจนต้องยอมแพ้
จากเหยื่อทั้งหมดที่ถูกกล่าวถึงในบทความ สังเกตได้ว่าส่วนใหญ่เป็นลูกน้องหรือแฟนคลับของเกแมน พวกเธอมักจะอายุ 20 กว่าๆ ตอนเจอเกแมนครั้งแรก โดยมีสเตาต์ที่อายุน้อยที่สุดคือ 18 ปี ส่วนตัวเกแมนเองเจอพวกเธอตอนเขาอายุ 40 ปีขึ้นไป ทำให้มีความสัมพันธ์เชิงอำนาจ (Power Dynamics) ที่ไม่เท่าเทียม
นอกจากนั้น เกแมนยังมีประวัติจ่ายเงินเพื่อปิดปากเหยื่อ เขาจ่ายเคนดัล 6 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอ้างว่าเป็น ‘ค่าชดเชยความเสียหาย’ จ่ายพาฟโลวิช 9,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ แลกกับให้เธอเซ็นสัญญารักษาความลับ (Non-Disclosure Agreement) แต่ภายหลังพาฟโลวิชตัดสินใจฉีกสัญญาดังกล่าว เพราะเธอไม่อยากให้ผู้ชายที่ทำผิดลอยนวลด้วยลูกไม้เดิมๆ อีก
พาฟโลวิชเข้าแจ้งความในเดือนมกราคม 2023 หลังจากเล่าเรื่องทั้งหมดให้ตำรวจฟัง ตำรวจแนะนำให้เธอเรียพาล์มเมอร์มาให้การด้วย เพราะจะช่วยคดีได้มาก พาฟโลวิชกล่าวกับตำรวจว่า “พาล์มเมอร์เป็นเฟมินิสต์อย่างเปิดเผย และเธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอต้องอยากปกป้องฉันแน่นอนค่ะ ฉันเชื่อว่าเธอจะยอมพูด”
อย่างไรก็ตาม พอตำรวจติดต่อหาพาล์มเมอร์จริงๆ เธอกลับปฏิเสธที่จะให้การ และพอไม่มีหลักฐาน คดีก็ถูกปิดไปทั้งอย่างนั้น
เดือนตุลาคม 2024 สเตาต์เข้าแจ้งความเกแมนข้อหาข่มขืนเช่นกัน ปัจจุบันคดียังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
ล่าสุด วันที่ 14 มกราคม 2025 เกแมนออกมาย้ำจุดยืนเดิมคือ ปฏิเสธข้อกล่าวหา เขาโพสต์ในเว็บไซต์ของตัวเองว่า “เมื่อผมไล่อ่านเรื่องเล่าทั้งหมด มีบางเหตุการณ์ที่ผมจำได้รางๆ และบางเหตุการณ์ที่ผมจำไม่ได้เลย มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงผสมกับเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นแน่นอน ผมไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ แต่ผมไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับใครโดยไม่ได้รับความยินยอม”
ความคิดเห็นในโซเชียลมีเดียแตกออกเป็นหลายประเด็น บ้างก็รู้สึกขยะแขยงเกแมนที่หากินกับภาพลักษณ์เฟมินิสต์มานาน แต่หลังฉากกลับกลายเป็นคนทำร้ายผู้หญิงเสียเอง
บ้างก็ตำหนิเกแมนที่ทำให้คอมมูนิตี้ BDSM เสื่อมเสีย ทั้งที่ความจริงแล้ว ผู้มีรสนิยมแนวนี้ต้องตกลงกับคู่นอนอย่างชัดเจน มีการกำหนดขีดจำกัดและหยุดทันทีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยากหยุด ไม่ใช่ฝืนใจคู่นอนอย่างที่เกแมนทำ
บ้างก็วิจารณ์การใช้อำนาจและชื่อเสียงโดยมิชอบ
บ้างก็มองว่า นอกจากข่มขืนแล้ว เกแมนยังจงใจเข้าหาเด็กเพื่อผลประโยชน์ทางเพศ (Child Grooming) ด้วย
ขณะเดียวกันหลายๆ สตูดิโอที่มีแผนสร้างภาพยนตร์หรือซีรีส์จากผลงานของเกแมนก็ทยอยหยุดงานหรือยกเลิกไปบ้างแล้ว Disney หยุดโปรเจกต์ภาพยนตร์ The Graveyard Book อย่างไม่มีกำหนด Prime Video เปลี่ยนแผนสร้างซีรีส์ Good Omens ซีซัน 3 เป็นภาพยนตร์ยาว 90 นาทีแทน โดยเกแมนถอนตัวจากโปรเจกต์นี้เรียบร้อย Netflix ยกเลิก Dead Boy Detectives ซีซัน 2 แต่ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเป็นเพราะข้อกล่าวหาหรือไม่
คงต้องติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิดว่า ประเด็นนี้จะจบอย่างไร
อ้างอิง
https://www.vulture.com/article/neil-gaiman-allegations-controversy-amanda-palmer-sandman-madoc.html
https://www.bbc.com/news/articles/cn01dynqx7ro
https://journal.neilgaiman.com/2025/01/breaking-silence.html
Tags: Gender, ข่มขืน, ความรุนแรงทางเพศ, Neil Gaiman, นีล เกแมน