“อยากจะบอกว่าพร้อม แต่ก็ยังไม่พร้อม อยากทำงาน ตอนนี้เรามีงานต้องรับผิดชอบอยู่เลยไม่อยากไปแต่งงาน จริงๆ แต่งแล้วก็ทำงานได้ ชอบทำงานมาก แต่กลัวว่าพอแต่งปั๊บจะไม่มีงานทำ”

โบว์-เมลดา สุศรี นักแสดงสาววัย 28 ปีกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ในงานบวงสรวงละคร คุณพี่เจ้าขา ดิฉันเป็นห่านมิใช่หงส์ หลังแฟนหนุ่ม อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ แสดงความคิดเห็นไปก่อนหน้าว่า พร้อมแต่งงาน แต่เหลือเพียงรอเวลาที่เหมาะสม

ความจริงที่น่าเศร้าคือข้อกังวลของเมลดาเกี่ยวกับการแต่งงานไม่ใช่ความรู้สึกส่วนตัวที่เกิดขึ้นกับเพียงปัจเจกบุคคล แต่เป็นปรากฏการณ์ที่ผู้หญิงในวงการบันเทิงทั่วโลกต่างพบเจอ เนื่องจากพวกเธอส่วนใหญ่มักมีเส้นทางอาชีพสั้นกว่าเพื่อนร่วมวงการที่เป็นชายอย่างมีนัยสำคัญ

ข้อมูลทางสถิติของ Time Labs ระบุว่า ช่วงพีกของอาชีพนักแสดงหญิงจะมาถึงค่อนข้างเร็ว คือตั้งแต่ช่วง 20-30 ปี และโดยเฉลี่ยจะพีกสุดที่อายุ 30 ปี หลังจากนั้นความนิยมของเธอก็จะค่อยๆ ตกลงตามลำดับ ต่างจากจุดพีกของนักแสดงชายที่แม้จะมาช้ากว่าเล็กน้อย แต่จะเริ่มพีกที่วัย 46 ปีโดยประมาณ ข้อดีคือพวกเขาจะอยู่ค้างบนจุดสูงสุดของอาชีพได้นานกว่า ไม่ได้ตกฮวบลงเร็วเท่าผู้หญิง

แต่นอกจากเรื่องอายุแล้ว สถานภาพสมรส ตลอดจนสถานภาพความเป็นแม่ก็มีความสำคัญและส่งผลต่ออาชีพนักแสดงมากไม่แพ้กัน หากพูดถึงฮอลลีวูด ปัญหาในปัจจุบันอาจไม่เด่นชัดเท่าอดีต แต่สำหรับวงการเพื่อนบ้านอย่างบอลลีวูด เรื่องนี้เป็นปัญหาที่นักแสดงหญิงรุ่นปัจจุบันยังต้องรับแรงกระแทกโดยตรง

ริธีมา ทิวารี (Ridhiema Tiwari) ให้สัมภาษณ์กับ Times of India ถึงประเด็นดังกล่าวว่า “นี่เป็นปัญหาที่ซับซ้อนและเกิดได้จากปัจจัยหลายอย่าง หนึ่งในปัจจัยเหล่านั้นคือธรรมชาติของวงการซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้ชายครอง ผู้หญิงจึงมักได้รับโอกาสน้อยกว่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และทันทีที่แต่งงาน เธอก็จะถูกมองว่าเสน่ห์ลดลงไปโดยปริยาย”

แน่นอนว่ามีนักแสดงหญิงจำนวนหนึ่งในวงการบอลลีวูดที่พอจะท้าทายขนบเดิมๆ ได้บ้างจากชื่อเสียงและบารมีที่สะสมมา อย่าง ปริยังกา โฉประ โจนัส (Priyanka Chopra Jonas), ทีปิกา ปาทุโกณ (Deepika Padukone) หรืออาลิยา ภัฏ (Alia Bhatt) แต่พวกเธอเป็นเพียงส่วนน้อยจากนักแสดงหญิงรุ่นเดียวกันอีกมากมาย

อีกหนึ่งตัวอย่างที่สำคัญของพลวัตแบบเดียวกันพบได้ในวงการบันเทิงเกาหลีใต้คือ พัค จียอน (Park Ji-yeon) สมาชิกเกิร์ลกรุ๊ป T-ARA ผู้หันมาเอาดีด้านงานแสดง เคยออกมาเปิดใจถึงชีวิตหลังแต่งงานที่ไม่มีงานเข้ามาเลย

“พอฉันแต่งงานแล้วก็ไม่มีใครในวงการมองหาฉันอีกต่อไป มันแทบจะรู้สึกราวกับว่าอาชีพทั้งหมดที่สร้างมาจนถึงตอนนี้พังลงไปโดยเปล่าประโยชน์หลังจากฉันแต่งงาน”

นักแสดงหญิงส่วนน้อยที่ยังคงมีบทบาทในการขับเคลื่อนวงการหลังจากแต่งงานอาจพอมีอยู่บ้างก็จริง เพราะความนิยมส่วนหนึ่งย่อมขึ้นอยู่กับต้นทุนและความสามารถเฉพาะตัว แต่โดยสถิติ แม้จะเคยดังเปรี้ยงขนาดไหนมาก่อน เมื่อผ่านพ้นวัยสามสิบและการแต่งงานมาแล้ว พวกเธอก็จะเริ่มเผชิญกับภาวะที่ภาพลักษณ์ถูกนำไปเชื่อมโยงกับความ ‘ไม่สดซิง’ หรือ ‘หย่อนคล้อย’ จนต้องถอยห่างจากวงการมาไม่มากก็น้อย ในขณะที่นักแสดงชายยังสามารถไปต่อได้อีกไกลด้วยภาพลักษณ์แบบ ‘หนุ่มใหญ่’ หรือไม่ก็ ‘Family Man’

ภาวะความไม่เท่าเทียมของชายหญิงในวงการบันเทิงจึงยังเป็นปัญหาที่ยังคงดำเนินต่อไปไม่ใช่แค่ในรูปแบบของช่องว่างระหว่างรายได้อย่างที่เราคุ้นเคยเท่านั้น แต่ยังมีมาในรูปแบบของเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพของคนเพศหนึ่งที่จำกัดกว่าอีกเพศ

อ้างอิง

https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000003426

https://www.the101.world/aging-in-hollywood/ 

https://mirrorthailand.com/movinon/socialissues/101127 

https://labs.time.com/story/these-charts-show-hollywoods-glaring-gender-gap/ 

https://timesofindia.indiatimes.com/tv/news/hindi/exclusive-do-projects-dry-up-for-actresses-after-marriage-ridhiema-tiwari-reacts-there-are-successful-actresses-who-have-challenged-these-horrid-trends-and-ideologies/articleshow/99987864.cms

https://timesofindia.indiatimes.com/blogs/raveenatandonblog/why-are-married-actresses-treated-differently/ 

Tags: , ,