วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ณ ศูนย์ประสานงานอนาคตใหม่ ฝั่งธนบุรี ได้มีการนัดหมายเพื่อเปิดปราศรัยอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนอกสภาผู้แทนราษฎร ในหัวข้อ”ฉาวระดับอินเตอร์เนชั่ลแนล” โดยพรรณิการ์ วานิช อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ในนามของคณะอนาคตใหม่

พรรณิการ์ กล่าวถึง โครงการความมั่งคั่งแห่งมาเลเซีย หรือ 1MDB ที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินระดับนานาชาติ โดยระบุว่า มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่าภายหลังการรัฐประหารปี 2557 รัฐบาล พล.เอก.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องการหามิตรนอกประเทศ เช่นเดียวกับรัฐบาลนาจิบที่ต้องการสร้างพันธมิตร หลังจากเริ่มมีการขุดคุ้ยการทุจริตในประเด็น 1MDB เธอกล่าวว่า เมื่อคนสองคนโหยหามิตร จึงนำไปสู่สิ่งที่เรียกว่า ‘พันธมิตรมืด’ ระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ 

เธอชี้ว่า รัฐบาลประยุทธ์อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำความผิด 4 ข้อ ได้แก่ ปกปิดอาชญกรรมทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก, บิดผันกระบวนการยุติธรรม, ปล่อยให้อาชญากรข้ามชาติลอยนวล และบ่อนทำลายความสัมพันธ์กับชาติพันธมิตรของประเทศไทย นำไปสู่คำถามว่า รัฐบาล พล.เอก ประยุทธ์ นำจุดยืนทางการเมืองและผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไปแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัวหรือเปล่า 

ทั้งนี้ กองทุน 1MDB ตั้งขึ้นในปี 2552 สมัยรัฐบาลนาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย ผ่านไป 6 ปี กองทุนขาดทุน 370,000 ล้านบาท โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตรวจสอบพบว่าเงินจำนวน 140,000 ล้านบาทหายไปจากกองทุนดังกล่าว และเงิน 2 หมื่นล้านบาท ถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของ นาจิบ 

หนึ่งในตัวละครที่สำคัญในคดีดังกล่าวคือ ชาเบียร์ ฆุสโต อดีตผู้บริหารบริษัทเปโตร ซาอุดี ซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับกองทุน 1MDB โดยเขาได้ลาออกจากเปโตร ซาอุดีพร้อมส่งข้อมูลกว่า 230,000 ฉบับให้นักข่าวจากสองสำนักคือ แคลร์ บราวน์ จากซาราวัก รีพอร์ต และแบรดลี โฮป กับทอม ไรท์ จากวอลล์ สตรีท เจอร์นัล เพื่อให้ทำการเปิดโปงการทุจริตในคดีดังกล่าว 

ต่อมา ซาเบียร์ถูกทางการไทยจับกุมใน วันที่ 23 มิถุนายน 2558 ด้วยข้อหา พยายามกรรโชกทรัพย์ เนื่องจากนายชาเบียร์เคยฆู่ผู้จัดการของเปโตร ซาอุดีว่า ถ้าไม่อยากถูกเปิดโปงข้อมูล ให้โอนเงินมาให้ 83 ล้านบาท

หลักจากนั้น มีความผิดปกติเกิดขึ้นหลายประการระหว่างการดำเนินคดีกับซาเบียร์ ทั้งมีการแถลงจากตำรวจกองปราบฯ ว่าจะมีตำรวจอังกฤษเข้ามาร่วมสอบสวนในคดีนี้ แต่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวกลับเป็นเจ้าหน้าที่ที่ เปโตร ซาอุดีจ้างมาเพื่อกดดันให้ซาเบียร์สารภาพว่าเขากุเรื่องทั้งหมดขึ้น นอกจากนี้ FBI ยังถูกทางการไทยปฏิเสธไม่ให้เข้าสอบสวนซาเบียร์ถึง 3 ครั้ง จนต้องขอให้ภรรยาของซาเบียร์ ลารา ฆุสโต เข้าพบซาเบียร์แทนและให้เธอช่วยเป็นผู้รวบรวมข้อมูลให้ผ่านการเขียนจดหมายโต้ตอบกัน

นอกจากนี้ยังมี กรณีของ โลว เตียก โจว หรือโจโล ผู้เกี่ยวข้องกับคดีการฟอกเงินในหลายประเทศ ซึ่งรัฐบาลสิงคโปร์ได้เรียกร้องให้ตำรวจสากลออกหมายแดงติดตามตัว อย่างไรก็ตาม จากบันทึกการเดินทางเข้าออกของทางการไทย โจโลเดินทางเข้าออกไทยถึง 5 ครั้ง แต่ไม่ปรากฎว่ารัฐบาลไทยได้แจ้งต่อประเทศใด

และกรณีของ ตังเคงฉี, จัสมินลู คนสนิทของโจโล ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจาก นายพ. นักธุรกิจไทย ในการจองที่พัก และอำนวจความสะดวกเวลาที่มาอาศัยอยู่ในประเทศไทย ทั้งนี้ ทางการไทยก็ไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด พรรณิการ์เปิดเผยต่อว่า นาย พ. เป็นนักธุรกิจที่มีความใกล้ชิดกับตำรวจ และมีธุรกิจที่รับสัมปทานโครงการของตำรวจมากกว่า 1 โครงการ 

เธอกล่าวสรุปว่า ทั้งหมดนี้เป็นเหตุอันควรให้ชื่อได้ว่า รัฐบาลประยุทธ์ ขัดขวางกระบวการยุติธรรม และบ่อนทำลายความสัมพันธ์กับหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ สิงคโปร์ และสวิตเซอร์แลนด์  ก่อนทิ้งท้ายว่า คดีดังกล่าวทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในมาเลเซียมาแล้ว และเธอหวังว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดเช่นเดียวกับประเทศไทย โดยวันนี้ประชาชนต้องออกมาเรียกร้องหาความจริง รัฐบาลประยุทธ์ต้องตอบข้อเท็จจริงกับสังคม และแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องดังกล่าว 

หลังการอภิปราย พรรณิการ์ ได้กล่าวถึงแนวทางการเมืองของคณะอนาคตใหม่ว่าจะยังทำงานนอกสภาผู้แทนราษฎรต่อไปตามแนวทางเดิม พร้อมกับยืนยันว่าการลงถนนหรือการชุมนุมเป็นสิทธิโดยชอบที่ประชาชนสามารถทำได้และที่ผ่านมาการจัดกิจกรรมก็ไม่ได้นำไปสู่ความรุนแรงแต่อย่างใด ในส่วนของ ส.ส.อนาคตใหม่ ตนยังเชื่อมั่นว่ายังมีอุดมการณ์และยึดมั่นการทำงานเช่นเดิม

ทั้งนี้ในกิจกรรมวันนี้มีประชาชนที่สนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก จนล้นออกมาถึงด้านหน้าตึก โดยมีตำรวจทั้งในและนอกเครืองแบบหลายสิบนายดูแลสังเกตุการณ์อย่างใกล้ชิด

 

อ้างอิง:

https://www.thairath.co.th/news/politic/1778288

https://www.thaipost.net/main/detail/57942

 

ภาพ ฐิตินันท์ เสมพิพัฒน์

Tags: , , , , ,