ใครที่มีโอกาสได้ดูคอนเสิร์ต Foo Fighters ตอนปี 1996 ที่พวกเขามาทัวร์ประเทศไทยกับวง Sonic Youth และ Beastie Boys ความรู้สึกคงต่างไปจากค่ำคืนวันที่ 24 สิงหาคม 2017 อย่างสิ้นเชิง เพราะวันนี้วงไต่ระดับมาถึงจุดพีก เป็นวงในตำนานที่ประสบการณ์การชมคอนเสิร์ตคือสิ่งที่แฟนๆ รอคอย
Foo Fighters เดินทางทัวร์ไปทุกที่ทั่วโลก แต่ถ้าสังเกตดีๆ ประเทศในเอเชียที่พวกเขาเลือกก็มีแต่ญี่ปุ่น และขึ้นเล่นเป็น Headliner ให้กับเทศกาลดนตรีใหญ่ๆ เท่านั้น และความหวังของชาวไทยก็แฟบหายทุกครั้งที่ชะเง้อดูตารางทัวร์ เพราะแลนดิ้งที่เฉียดใกล้ที่สุดก็คือญี่ปุ่น ความหวังที่พวกเขาจะมาไทยดูเป็นไปได้ยากเหลือเกิน
หลังจากข่าวลือเริ่มหนาหูเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า Foo Fighters กำลังจะมาเมืองไทย ในใจคิดแล้วว่าไม่มีทางเพราะวงระดับนี้ใครจะกล้าลงทุน ความหวังคงต้องพับไปอีกหนแน่ๆ
แล้วสาวก Foo Fighters ในประเทศไทยก็พบกับเซอร์ไพรส์ เมื่อผู้จัดหน้าใหม่อย่าง Jamdee และ Miracle Management ประกาศทางออฟฟิเชียลเพจใน Facebook ว่า 24 สิงหาคมนี้ เราจะได้เดือดกับวงที่เล่นสดได้ดีที่สุดวงหนึ่งของโลก และเป็นวงร็อกนิสัยดีที่สุดในโลก – Foo Fighters
การฝ่าพายุฝนในค่ำนี้ช่างคุ้มค่า เมื่อเรามาถึงชาแลนเจอร์ ฮอลล์ 2 เพื่อรอชมการแสดงสดในรอบ 21 ปีของ Foo Fighters Live in Bangkok 2017 บรรยากาศที่เต็มไปด้วยหนุ่มสาวชาวร็อกมันช่างกระตุ้นความเดือดที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้จริงๆ แค่หันไปรอบๆ แล้วทุกคนใส่เสื้อสกรีนชื่อวง Foo Fighters ความสุขก็ล้นมาจุกที่คอแล้ว พอเข้าไปในฮอลล์ เราอาศัยความตัวเล็กเบียดฝูงชนให้เข้าไปใกล้หน้าเวทีมากที่สุด เพราะอยากเห็นหน้าเดฟ โกรห์ลชัดๆ ให้สมกับที่รอคอย
21.37 น. ไฟดับลง วง Foo Fighters เดินขึ้นมา แสงไฟสว่างขึ้นอีกครั้งพร้อมเสียงกีตาร์ประจำตัวของเดฟ โกรห์ล สาวกชาว Foo ร้องตะโกนเรียกชื่อทุกคนในวง กรี๊ดกันไม่ห่วงกล่องเสียง นี่การันตีได้เลยว่าคอนเสิร์ตค่ำนี้ต้องเดือดทะลุปรอทแน่ๆ
‘Everlong’ หนึ่งในเพลงขึ้นแท่นคลาสสิกของ Foo Fighters ถูกนำมาเล่นเป็นเพลงเปิด ซึ่งเพลงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงที่ใช้ปิดท้าย คราวนี้ ‘ป๋าเดฟ’ แกเลือกเอาขึ้นก่อนเลย เรียกเสียงกรี๊ดได้สนั่นหวั่นไหวเพราะเป็นเพลงที่อยู่ในใจขาร็อกทุกคน ความเดือดต่อเนื่องไม่หยุดเมื่อกองทัพเพลงฮิตถูกขนมาเล่นให้ทุกคนมันอย่างต่อเนื่องทั้ง ‘Monkey Wrench’, ‘Learn To fly’ เพลงในใจที่ทุกคนร้องตาม กระโดดตามจนแทบจะบินขึ้นไปบนเวที ตามด้วย ‘Something From Nothing’ และ ‘The Pretender’ อีกหนึ่งเพลงที่ทุกคนรอฟังเสียงแหกปากของป๋าเดฟสดๆ แล้วเราก็ไม่ผิดหวัง แกก็แหกปากได้มันหยดจริงๆ
เมื่อเดฟ โกรห์ล กล่าวทักทายทุกคนว่า “มันดีจริงๆ ที่ได้กลับมา” แค่คำนี้สาวก Foo ก็แหกปากลั่นไม่หยุดแล้ว ก่อนแกจะร่ายยาวตามสไตล์ (เดฟชอบพูดเยอะๆ ยาวๆ บนเวที) แล้วเซอร์ไพรส์พวกเราด้วยเพลง ‘Big Me’ เพลงจากอัลบัมแรก ซึ่งเป็นอัลบัมที่พวกเขามาโชว์ในประเทศไทยครั้งแรก ตามมาด้วยซิงเกิ้ลจากอัลบัมใหม่ล่าสุดที่กำลังจะวางขายในวันที่ 15 กันยายนนี้กับเพลง ‘Run’ เพลงนี้ก็ทำเอาทั้งฮอลล์สะเทือนด้วยความเดือดของท่วงทำนองดนตรี จากนั้นตามมาด้วย ‘This is a Call’ ก่อนป๋าแกจะขอพักเหนื่อยด้วยการปล่อยหน้าที่ให้กับเทย์เลอร์ ฮวอกกินส์-มือกลอง ทำหน้าที่ร้องเพลง ‘Cold Day in The Sun’ ซึ่งเป็นเพลงที่เทย์เลอร์แต่งเองและเดฟก็ชอบมันมาก เพลงนี้เลยถูกบรรจุให้อยู่ในอีกหนึ่งเพลงที่ทุกคนอยากฟังมากที่สุด
แล้วเพลงในอัลบัม Sonic Highways คือ ‘Congregation’ ก็ตามติดมา วงไม่ปล่อยให้ผู้ชมหยุดพักต่อยาวด้วยเพลงฮิต ‘Walk’ ‘Rope’ เพลงนี้เราชอบเป็นส่วนตัวกระโดดแหกปากร้องจนตัวลอยลืมสังขารไปเลย และอีกหนึ่งเพลงที่ทุกคนรอคอยกับ ‘My Hero’
หลังจากดูเวลาแล้วและลิสต์เพลงที่เล่นแล้ว นึกในใจว่า ความสุขเราใกล้หมดแล้วสินะ ตามตารางโชว์ Foo Fighters จะเล่นแค่หนึ่งชั่วโมงครึ่ง หลังจากคำนวนแล้วเวลาเท่านี้เพลงจะอยู่ที่ประมาณ 15-16 เพลง นี่ปาเข้าไปเพลงที่ 12 ละ เหลืออีกแค่ไม่กี่นาที เอาให้เต็มที่ไปเลย
ป๋าเดฟเบรกให้พวกเราผ่อนหายใจด้วยเมโลดีพลิ้วๆ ในเพลง ‘These Days’ และ ‘Skin and Bones’ ที่เล่นได้ดีมากและเป็นอีกเพลงที่ไม่คิดว่าจะได้ฟัง สุดยอดเพลงฮิตถูกขนมาอีกระลอก ‘All my Life’ ‘Time Like These’ และที่สุดจะเซอร์ไพรส์คือเพลง ‘Generator’ ซึ่งเป็นเพลงที่ Foo Fighters ไม่ค่อยเลือกเล่นในโชว์ (ในฐานะแอดมิน Foo Fighters Thailand page เราต้องทำ set list เพลงในทุกโชว์สำหรับทำคอนเทนต์ จึงรู้ว่าเพลงนี้ไม่ค่อยได้ถูกเล่นซักเท่าไหร่) ตามมาด้วยเพลงที่หลายคนชอบมากอย่าง ‘Wheels’
เอ๊ะ…ป๋าเดฟคะ ลืมเวลาไปหรือเปล่านี่มันเพลงที่ 19 แล้วนะ เอาไงเอากันถ้า Foo Fighters ไม่หยุดเล่นเราก็ไม่หยุดกระโดดเหมือนกัน และอีกหนึ่งเพลงสุดคลาสสิกจากอัลบัมแรกก็เรียกเสียงกรี๊ดจากผู้ชมอีกครั้งกับ ‘l’ll Stick Around’ ต่อด้วยเพลงจากอัลบัมใหม่ ‘Sunday Rain’ ที่มีเทย์เลอร์ มือกลองเป็นคนร้อง ดนตรีดีมาก สุดๆ จริงๆ ยังกระโดดไม่พอป๋าเดฟจัด ‘Breakout’ และเพลงใหม่ที่เพิ่งปล่อย MV ออกมาสดๆ ร้อนๆ ‘The Sky is Neighborhood’ เราเพิ่งจะดูมิวสิกวิดีโอไปตอนบ่าย พอฟังดนตรีเพลงนี้เสียงสดๆ ทำเอาน้ำตาซึมไปเลย อัลบัมใหม่นี้เพลงดีทุกเพลงจริงๆ ก่อนทิ้งท้ายค่ำคืนนั้นด้วยเพลงในตำนานอย่าง ‘Best Of You’ ในเวลา 23.50 น. เป็นอันปิดฉากความประทับใจ ความมัน อย่างหนักหน่วง ความเดือด ความสนุก ความฟิน ความยอดเยี่ยม น้ำตาไหลออกมาเองด้วยความรัก Foo Fighters ทุกๆ ความรู้สึกมันไหลมารวมกันหมดจริงๆ
พลังของเดฟ โกรห์ลและทุกคนในวง Foo Fighters ส่งมาถึงคนดูแบบเกินร้อย นี่คือวงที่เล่นสดได้ยอดเยี่ยมที่สุดในระดับโลก จากที่ใครๆ เคยบอกไว้ วันนี้คือข้อพิสูจน์แล้วว่า Foo Fighters คือสุดยอดวงดนตรีของจริง ตอนเราไปดูที่ญี่ปุ่นสามวันก่อนหน้ายังไม่พีกมากขนาดนี้ นี่แหละคือความสมบูรณ์แบบของคอนเสิร์ตที่ทุกคนรอคอยมา 21 ปี
หลังคอนเสิร์ตเราได้คุยกับผู้จัดว่าทำไมปล่อยเวลาไหลยาวจนถึงสองชั่วโมงครึ่งเพราะตามตารางแค่ชั่วโมงครึ่งเอง ผู้จัดบอกว่า “เดฟไม่ให้จำกัดเวลาโชว์ ถ้าวงพร้อมจะหยุดแสดงเมื่อไหร่จะบอกเอง เพราะพวกเค้าชอบเมืองไทย”
โอ้โห…ประโยคนี้ ฟังแล้วน้ำตารื้นขึ้นมาอีกรอบ ความรักที่มีต่อเดฟ โกรห์ลและวง Foo Fighters ยิ่งเพิ่มมากขึ้น นี่แหละคือคนที่สื่อทั่วโลกต่างบอกว่า พวกเขาคือ ‘The Nicest Guy In Rock’
ขอบคุณ Foo Fighters กับโมเมนต์สุดพิเศษในชีวิตและการดูคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดของเรา
FACT BOX:
- Foo Fighters วงร็อกจากอเมริกาก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1994 ประกอบด้วยสมาชิก 4 คนในยุคแรกคือ เดฟ โกร์ล เนท เมนเดล แพท เสมียร์ และวิลเลียม โกลด์สมิธ
- เดฟ โกร์ล เคยเป็นมือกลองวง Nirvana วงกรันจ์ระดับตำนานที่สร้างปรากฏการณ์ทางดนตรีในยุค 90s
- ปัจจุบันมีสมาชิก 6 คน ได้แก่ เดฟ โกรห์ล (นักร้องนำ, กีตาร์) เทย์เลอร์ ฮวอกกินส์ (กลอง) เนท เมนเดล (เบส) แพท สเมียร์ (กีตาร์) คริส ชิฟเล็ตต์ (กีตาร์) รามี เจฟฟรีย์ (คีย์บอร์ด)