คุณเดินเข้าไปในห้องแสดงงานศิลปะ คาดหวังว่าจะเจอภาพเขียนขนาดใหญ่บนฝาผนัง ภาพเขียนที่เขียนด้วยสีน้ำมันชั้นดี อาจเป็นภาพทิวทัศน์ที่คุณสัมผัสได้ถึงความเวิ้งว้างว่างเปล่า อาจเป็นภาพป่าเขียวชะอุ่มที่คุณรู้สึกได้ถึงสายฝนที่เพิ่งโปรยปราย อาจเป็นภาพบุคคลสำคัญที่คุณสามารถเชื่อมโยงตนเองเข้ากับบุคคลในภาพได้ หรืออาจเป็นภาพใครสักคนที่คุณไม่รู้จักแต่มีรอยยิ้มอันเป็นปริศนาให้คุณถอดรหัส แต่คุณไม่พบภาพเหล่านั้นในห้องแสดงงานแห่งนี้ สิ่งที่คุณพบมีเพียงตู้กระจกขนาดใหญ่ที่ภายในนั้นมีฝูงปลาที่กำลังแหวกว่ายอยู่ท่ามกลางเก้าอี้ตรวจภายในตัวหนึ่ง

คุณตกใจเป็นความตกใจระคนความประหลาดใจ คุณผลุนผลันออกจากห้องดังกล่าวผ่านประตูตรงไปยังห้องข้างๆ ภายในห้องนั้นมีตู้กระจกใสขนาดใหญ่อีกเช่นกัน ในครานี้ภายในนั้นไม่มีฝูงปลาแหวกว่าย มีแต่เพียงฉลามเสือขนาดใหญ่ตัวหนึ่งลอยสงบนิ่งอยู่แทน

บ่ายวันอาทิตย์ของคุณพังทลาย ความคาดหวังที่จะได้เดินชมงานศิลปะที่ทำให้รู้สึกได้ว่าเป็นผู้มีรสนิยมอันดีได้จบสิ้นลง คุณหวนนึกถึงนาทีที่ซื้อบัตรเข้าชมงานจากตัวแทนจำหน่ายที่โรงแรมผมอยากชมนิทรรศการศิลปะที่จัดแสดงในช่วงนี้ตัวแทนจำหน่ายยื่นบัตรพร้อมแผนที่เดินทางไปห้องแสดงศิลปะให้คุณ คุณหยิบบัตรในมือขึ้นดูอีกครั้ง ไม่มีความผิดพลาด คุณมาถูกที่ ถูกเวลา สิ่งที่ผิดพลาดมีประการเดียวคือสิ่งที่คุณเผชิญ

คุณไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอปลาในห้องแสดงศิลปะ คุณไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอปลาและฝูงปลาในฐานะของงานศิลปะ

เดเมียน เฮิร์สท์ (Damien Herst) ศิลปินชาวอังกฤษนำปลามาใช้ในงานศิลปะของเขาเป็นครั้งแรกในปี 1999 ผลงานที่มีชื่อว่า ‘Love Lost’ ของเขา ประกอบไปด้วยตู้กระจกแบบอควาเรียมขนาดกว้างยาวกว่าสองเมตร ภายในนั้นเป็นพันธุ์ปลาคาร์ปสีดำจากแอมะซอนที่ว่ายวนอยู่รอบสิ่งของต่างๆ อันประกอบด้วยเตียงตรวจภายในของสูตินารีแพทย์ ที่แขวนเสื้อกาวน์แบบตั้งพื้นและเครื่องประดับนานาของผู้หญิงคนหนึ่ง

สำหรับผู้ที่คุ้นชินกับงานศิลปะของ เดเมียน เฮิร์สท์ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาหยิบยกเอาเครื่องมือทางการแพทย์และอุปกรณ์ด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ในงานศิลปะของเขา ในปี 1996 งานที่มีชื่อว่า ‘Stripteaser’ ของเขาประกอบไปด้วยตู้กระจกขนาดใหญ่ที่จัดแสดงโครงกระดูกชายหญิงและอุปกรณ์การแพทย์ ไม่ต่างจากตู้กระจกในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ หรือผลงานชื่อ ‘Still’ ในปี 1994 เขาก็จัดแสดงอุปกรณ์ในห้องผ่าตัดอย่างครบถ้วนราวกับร้านค้าเครื่องมือด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ 

เดเมียน เฮิร์สท์กล่าวถึงเหตุผลของการเลือกสิ่งของเหล่านี้มาทำงานศิลปะว่าศาสตร์แห่งการแพทย์มีผลต่อระบบความเชื่อของผู้คนในปัจจุบัน การที่เรากินยาเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยโดยไม่สนใจผลข้างเคียงของมันก็ตาม การที่เราเลิกคิดว่าตนเองจะต้องตายในวันใดวันหนึ่งก็ตาม ล้วนเป็นผลมาจากความศรัทธาต่อการแพทย์ทั้งสิ้น การแพทย์แทบจะเป็นศาสนาใหม่ของเรา มันเป็นโลกคู่ขนานกับสิ่งที่ศิลปะเคยเป็นมาในฐานะศาสนาแบบหนึ่ง เพียงแต่ศาสนาใหม่แบบการแพทย์นั้นเย็นชาและดูเหน็บหนาว ในขณะที่ศิลปะอบอุ่นและให้ความเป็นมิตรกว่า

ความเย็นชาปรากฏให้เห็นในงานศิลปะของเดเมียน เฮิร์สท์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะผ่านการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์หรือการพูดถึงความตาย ทว่าในงาน ‘Love Lost’ สิ่งพิเศษที่ เดเมียนเพิ่มลงไปนั้น คือฝูงปลาคาร์ปสีดำจากลุ่มน้ำแอมะซอน

ปลาคาร์ปสีดำจากลุ่มน้ำแอมะซอนเป็นปลาน้ำจืดพันธุ์ดั้งเดิมในพื้นที่ที่สามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อนำมาแสดงรวมกับเก้าอี้ตรวจภายใน มันจึงแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวในช่วงเวลาของการก่อกำเนิด ท่วงท่าในการตรวจ ผลจากการตรวจ จนถึงกลิ่นในห้องตรวจซึ่งแฝงคำศัพท์ที่ใช้เสมอในการตรวจภายใน คือคำว่า ‘น้ำคาวปลา’ ทำให้งานศิลปะชิ้นนี้ของ เดเมียนส่งผลต่อผู้ชมทั้งชายและหญิง สำหรับผู้ชมที่เป็นเพศหญิง งานศิลปะชิ้นนี้สร้างความรู้สึกข่มขู่และชวนให้ผละห่าง ในขณะที่ผู้ชมซึ่งเป็นชาย งานชิ้นนี้สร้างความรู้สึกแปลกแยกและไม่คุ้นเคย

ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิธีการทำงานศิลปะของ เดเมียน เฮิร์สท์ ได้รับอิทธิพลมาจากกระบวนการเลือกใช้วัตถุหรือสิ่งของที่มีอยู่แต่เดิมแล้วนำมาจัดแสดงขึ้นเป็นงานศิลปะ กระบวนการนี้มีชื่อเรียกว่า ‘Ready Made Method’ ซึ่งนำเสนอในช่วงต้นของศตวรรษที่ยี่สิบผ่านศิลปินชาวฝรั่งเศสนาม มาร์เซล ดูชองป์ (Marcel Duchamp)

ในปี 1917 มาร์เซล ดูชองป์ ส่งโถปัสสาวะเซรามิกสีขาวเข้าร่วมแสดงในนิทรรศการศิลปะที่จัดขึ้นโดยสมาคมศิลปินอิสระ (Society of Independent Artists) โดยเขาตั้งชื่อผลงานของตนเองว่า ‘Fountain’ หรือ ‘น้ำพุ’

งานน้ำพุก่อให้เกิดคำวิพากษ์วิจารณ์มากมาย นับตั้งแต่คำถามว่ามันคืองานศิลปะหรือไม่ ดังนั้นหลังการปรากฏตัวของน้ำพุหรือโถปัสสาวะเซรามิก

มาร์เซล ดูชองป์ให้เหตุผลในภายหลังว่าความตั้งใจของเขาคือการเปลี่ยนบริบทของวัตถุเสียใหม่และสร้างการมองเห็นที่ไม่ได้ตัดสินจากความงามทางสายตา สำหรับการเลือกวัตถุใดๆ ก็ตามมาจัดแสดงในฐานะงานศิลปะ “การท้าทายผู้ชมคือสิ่งสำคัญที่สุด”

 

เดเมียน เฮิร์สท์ก็ท้าทายผู้ชมด้วยการเปลี่ยนบริบทของวัตถุที่มีมาแต่เดิมอย่างรุนแรงในผลงานชื่อยาวเหยียด ‘The Physical Impossibility of Death in the Mind of Someone Living’ (ความเป็นไปได้ทางกายภาพของความตายในความคิดคำนึงของใครบางคนที่ยังมีชีวิตอยู่) ในผลงานชิ้นนี้ เดเมียนตัดสินใจใช้ปลาเป็นองค์ประกอบหลักอีกครั้ง แต่แทนที่เขาจะใช้ฝูงปลาดังในงาน ‘Love Lost’ เขากลับใช้ซากของปลาฉลามเสือเพียงตัวเดียวโดยอาศัยการสนับสนุนด้านการทุนจาก ชาร์ลส์ ซาท์ชิ นักสะสมผลงานศิลปะแนวหน้าของโลก 

เดเมียนติดต่อนักล่าปลาคนหนึ่งในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ให้จัดหาปลาฉลามเสือขนาดใหญ่พอที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกหวาดผวาได้ หลังจากนั้นเขาแช่ปลาฉลามเสือตัวดังกล่าวลงในน้ำยาดองศพหรือฟอร์มัลดีไฮด์ ในวันจัดแสดง ปลาฉลามขนาดใหญ่ที่ลอยตัวอย่างอิสระและแยกเขี้ยวใส่ผู้ชมทำให้คนรู้สึกได้ถึงการท้าทาย– –เป็นการท้าทายต่อการขบคิดถึงความตาย

ปลาฉลามเสือเป็นปลาฉลามพันธุ์หนึ่งที่ทำร้ายมนุษย์ มีรายงานถึงการทำร้ายผู้คนของปลาฉลามเสืออยู่เป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นจากนักดำน้ำหรือนักโต้คลื่น ดังนั้นการเผชิญกับปลาฉลามเสือแบบใกล้ชิดทำให้ผู้ชมขบคิดถึงความสัมพันธ์ของตัวเขาเองกับธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตที่คุกคามพวกเขาจนถึงแก่ความตายได้ การตระหนักว่าในอีกสถานการณ์หนึ่งที่ไม่ใช่ภายในห้องจัดแสดงงานศิลปะ ผู้ชมจะกลายเป็นเหยื่อ และความตายจะเป็นผลลัพธ์ ไม่ใช่การชมงาน ความรู้สึกที่ว่านี้คือความเป็นไปได้ที่จะวนเวียนอยู่ในความคิดคำนึงของผู้ชม

ปลาฉลามเสือของเดเมียน ได้เปลี่ยนบริบทจากสัตว์ทะเลไปสู่สัญญาณแห่งความตาย 

ปลาในงานศิลปะของ เดเมียน เฮิร์สท์ ทั้งปลาคาร์ปสีดำและปลาฉลามเสือจึงไม่ใช่เพียงปลาอีกต่อไป มันถูกแปลงความหมายใหม่จากสิ่งที่เคลื่อนไหวในน้ำ หายใจทางเหงือก มีครีบและหาง ไปสู่องค์ประกอบทางศิลปะ แต่นั่นไม่ใช่การแปรเปลี่ยนและผลกระทบต่อมนุษย์เพียงประการเดียวของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าปลา

ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานปลา’ ‘อาณาจักรของปลาและจักรวาลของปลาได้ส่งผลกระทบต่ออารยธรรมมนุษย์ การตั้งถิ่นฐาน พฤติกรรมการกิน และโครงสร้างร่างกายของมนุษย์อย่างมากมาย

Tags: ,