เป็นที่รู้กันว่า ‘ดอกไม้’ คือตัวแทนของคำว่า ‘รัก’ คอยสื่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน เชื่อมโยงความรู้สึกดีๆ เข้าหากัน โดยให้การมีอยู่ของสีสันและกลิ่นหอมของดอกไม้ เป็นหลักฐานว่าพวกเขาจะรักและผูกพันกันอย่างสุดซึ้ง เมื่อได้มอบและรับดอกไม้ให้แก่กันและกัน

แต่ก็น่าสนใจไม่น้อยว่าดอกไม้นั้นเป็นตัวแทนของคำว่ารักรูปแบบไหนบ้าง

The Momentum ได้รวบรวมหนังที่ปรากฏการใช้ดอกไม้สื่อถึงความรัก-ความสัมพันธ์ ของตัวละครตั้งแต่รักหวานชื่น ไปจนถึงรักต้องห้ามขื่นขม ผ่านหนังหลากหลายประเภทในโลกภาพยนตร์

‘ดอกชงโค’ จากเรื่องเพื่อนสนิท (2005)

ชิ้นส่วนของเรื่องราวดีๆ ไว้ให้ระลึกถึงกัน

จาก กล่องไปรษณีย์สีแดง บทประพันธ์ของ อภิชาติ เพชรลีลา บอกเล่าเป็นหนังโดยใช้ชื่อว่า เพื่อนสนิท ของ คมกฤษ ตรีวิมล บอกเล่าความสัมพันธ์ระหว่างไข่ย้อย (แสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) กับดากานดา (แสดงโดย ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) สองนักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ที่มีความสัมพันธ์รักมากกว่าเพื่อน แต่ก็ยังไม่ถึงกับคนรัก จนกลายเป็นเรื่องราวดีๆ ระหว่างวัยรุ่นทั้งสองคนที่เคยเกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

หนึ่งในฉากที่น่าจดจำ คือฉากที่ดากานดาสงสัยว่าดอกไม้ที่ร่วงลงมาใต้ต้นไม้ที่เธอนั่งอยู่คือดอกอะไร ไข่ย้อยผู้เห็นเช่นนั้นจึงวิ่งไปที่คณะเกษตรศาสตร์ เพื่อหาคำตอบมาให้ดากานดา

ไข่ย้อย: ดอกนี้เรียกว่าดอกชงโค ส่วนดอกนี้เรียกว่าดอกขี้เหล็กอเมริกัน

ดากานดา: แล้วทำไมต้องอเมริกันด้วยล่ะ

ไข่ย้อยจึงต้องวิ่งไปที่คณะเกษตรศาสตร์อีกครั้ง เพื่อหาคำตอบมาให้ดากานดา

แม้จะเป็นฉากที่ไม่ได้สลักสำคัญต่อเนื้อเรื่อง เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นและผ่านไป แต่ในเวลาต่อมา ดอกชงโคและดอกขี้เหล็กอเมริกัน ก็กลายเป็นช่วงเวลาดีๆ สำหรับทั้ง 2 คน ที่ทำให้พวกเขาได้คิดและระลึกถึงในความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างกัน

แม้สุดท้ายจะไม่รู้แน่ชัดว่าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นในรูปแบบเพื่อนหรือคนรัก แต่มันก็ยังคงน่าประทับใจและคู่ควรแก่การจดจำ แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแล้วก็ตาม

‘ดอกกุหลาบ’ จากเรื่องเจ้าชายน้อย (2015)

รักธรรมดาอันแสนพิเศษ

จากจดหมายรักถึงภรรยาของ อองตวน เดอ แซงเตกซูเปรี (Antoine de Saint-Exupéry) สู่การดัดแปลงเป็นเรื่องราวของเจ้าชายน้อย เด็กหนุ่มผมสีทองจากดาว B612 ผู้ท่องไปในดวงดาวต่างๆ พร้อมกับความสัมพันธ์ที่ดูลึกลับระหว่างเขากับดอกกุหลาบดอกหนึ่งที่ปลูกไว้บนดวงดาว ภายในเรื่องมีการกล่าวถึงบุคลิกของดอกกุหลาบดังกล่าวว่ามีความบอบบาง ช่างพูด และเจ้าอารมณ์

แม้จะดูมีความเข้ากันไม่ได้ระหว่างเจ้าชายน้อยและดอกกุหลาบมากแค่ไหนก็ตาม แต่ปรากฏว่าตลอดการผจญภัยของเจ้าชายน้อย ไม่ว่าจะเดินทางไปพบเจอดอกกุหลาบมากมายขนาดไหน เขาก็ยังคงรักและประทับใจในดอกกุหลาบเจ้าอารมณ์ดอกนั้นอย่างเสมอมา

หากพิจารณาถึงการมีอยู่ของดอกกุหลาบในเรื่อง แน่นอนย่อมสื่อถึงเรื่องราวชีวิตรักระหว่างอองตวน เจ้าของเรื่อง กับกอนซูเอโล เดอ แซงเตกซูเปรี (Consuelo de Saint-Exupéry) ภรรยาของเขา ผู้ที่แทนด้วยดอกกุหลาบ

ความไม่สมบูรณ์ของดอกกุหลาบ ย่อมหมายถึงรสชาติรักของทั้งสองที่ไม่ได้หวานชื่นกันไปตลอด มีฝาด มีขม มีจืด ปนกันไปในแต่ละห้วงเวลา แต่สุดท้ายถึงแม้จะเจอดอกกุหลาบอื่นๆ (ผู้หญิงคนอื่น) มากมายแค่ไหน เจ้าชายน้อยและอองตวงก็ยังคงเลือกกุหลาบดอกเดียวที่สถิตอยู่ในใจเขามาตลอดเวลาและคงตลอดไป

‘ดอกซากุระ’ ในเรื่อง Memoirs of a Geisha (2005)

รักต้องห้ามที่ไม่อาจเอื้อม

เรื่องราวชีวิตของชิโยะ (แสดงโดย จาง ซิยี่) ลูกสาวชาวประมงที่ถูกขายให้กับสำนักเกอิชาแห่งหนึ่ง จึงต้องดิ้นรนเพื่อตามหาชีวิตที่ดีกว่า ทั้งในแง่ความเป็นอยู่และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ที่เธอไม่เคยได้สัมผัสหลังถูกครอบครัวทอดทิ้งมาตั้งแต่ในวัยเด็ก

จนในที่สุดเธอได้พบคนที่ในสำนักเกอิชาเรียกว่าท่านประธาน (แสดงโดย เคน วาตานาเบ) ซึ่งดูเหมือนจะเป็นความหวังครั้งสำคัญทำให้เธอได้เข้าใจคำว่ามิตรภาพและความรักสักครั้ง อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานะและบทบาทของเธอและเขา ก็ทำให้บทสรุปของเรื่องนี้ยุ่งยากและซับซ้อนมากกว่านั้น

“เราไม่ควรจะคาดหวังในความสุขกัน บางสิ่งเราก็ไม่คู่ควรที่จะได้ครอบครองมาจริงๆ ปล่อยให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไปตามที่ควรจะเป็น แล้วหากความสุขมันได้เกิดขึ้นมานั้น มันก็คงเป็นของขวัญสุดวิเศษ ณ ช่วงเวลาหนึ่งที่ ไม่ได้อยู่กับเราไปตลอดกาล”

ประโยคที่ตัวละครท่านประธานบอกกับชิโยะ ถึงการเกิดขึ้นของดอกซากุระที่จะบานสะพรั่งให้เราได้ชมความงดงามเพียงห้วงเวลาหนึ่งของปี สะท้อนถึงความรู้สึกของทั้งเธอและตัวเขาได้อย่างชัดแจ้ง ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นเป็นไปไม่ได้และไม่อาจคงอยู่ไปตลอดกาล ดังนั้น ในขณะที่ยังมีโอกาสเช่นนี้อยู่ จงเสพความรัก ณ ช่วงเวลานั้นให้ล้นเอ่อ เสมือนเป็นของขวัญชิ้นหนึ่งที่โลกมอบให้กับตัวเรา

‘มงกุฎดอกไม้’ ในเรื่อง Midsommar (2019)

ตัวแทนแห่งการเกิดใหม่

แม้จะตั้งต้นเอาไว้ว่าเป็นหนังระทึกขวัญชวนขนหัวลุก แต่ในรายละเอียดของ Midsommar ผลงานอันโดดเด่นของ อริ เอสเตอร์ (Ari Aester) กลับเต็มไปด้วยองค์ประกอบที่แตกต่างกับคำว่าสยองขวัญในอุดมคติ ทั้งเรื่องราวลึกลับในฤดูร้อนช่วงกลางวันที่มีแสงแดดจ้า และสีสันของดอกไม้ที่กลายเป็นกิมมิกสำคัญในการเขย่าประสาทผู้คน แทนที่จะเป็นเลือด ของมีคม หรือภูตผี อันเป็นธรรมเนียมของหนังประเภทนี้มาโดยตลอด

แน่นอนว่าทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งในการอ้างอิงถึง Midsummer Festival เทศกาลในช่วงหน้าร้อนของชาวไวกิ้ง อันเป็นบรรพบุรุษของประชากรในแถบยุโรปเหนือ ณ ปัจจุบัน แต่การมีอยู่ของดอกไม้ในเรื่องก็ยังอ้างอิงถึงอะไรที่มากกว่าเพียงแค่การเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมเพียงเท่านั้น

เพราะหลังจากที่ตัวละคร ดานี่ (แสดงโดย ฟลอเรนซ์ พิวจ์) เริ่มประดับประดาด้วยดอกไม้ผ่านชุดและมงกุฎนั้น ดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มรู้สึกตัดขาดจากชีวิตในอดีตที่ล้มเหลว และเริ่มเปิดใจให้กับตัวตนใหม่ในฐานะส่วนหนึ่งของหมู่บ้านประหลาดภายในเรื่อง จนในท้ายที่สุด ดอกไม้ทั้งหมดประดับไว้อยู่บนตัวเธออย่างครบถ้วน เธอก็แสดงออกมาผ่านใบหน้าอย่างชัดเจนว่า นี่คือสถานที่และตัวตนที่เธอจะขอเกิดและเริ่มใช้ชีวิตอีกครั้งหนึ่ง

‘ดอกชบา’ ในเรื่อง Merry Christmas, Mr. Lawrence (1983)

ด้วยรักและความอ่อนโยนจากมนุษย์คนหนึ่ง

จากหนังสือ The Seed and the Sower ของ เซอร์ลอว์เรนส์ แยน ฟาน เดอร์ โพสต์ (Sir.Laurens Jan van der Post) สู่การดัดแปลงสู่ภาพยนตร์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของมิตร ความรัก และสงคราม ระหว่าง แจ็ก เซเลียส (แสดงโดย เดวิด โบวี่) เชลยศึกจากประเทศอังกฤษ และโยนิอิ (แสดงโดย ริวอิจิ สกาโมโต้) นายทหารจากประเทศญี่ปุ่น

ในตอนหนึ่งขณะที่แจ็กถูกกักกันอยู่ในค่าย เขาได้นำดอกชบาสีแดงสดมาวางไว้บนเตียงของเพื่อนทหารเชลยศึกที่เสียชีวิตไป แต่กลายเป็นว่าเขากลับต้องถูกจับกุมและทำโทษ เนื่องจากนำสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในค่ายเชลยศึก ถือเป็นการขัดขืนคำสั่งของทหารญี่ปุ่นผู้กุมอำนาจในสถานที่แห่งนี้

“ผมเคยลิ้มรสพวกแมนจู คราวนี้ผมได้ลองลิ้มรสดอกไม้ ผมว่าดอกไม้อร่อยกว่านะ”

คำสารภาพของแจ็กต่อหน้านายทหารญี่ปุ่นถึงสาเหตุที่นำดอกไม้เข้ามาในค่าย ก่อนที่เขาจะกินดอกชบาเข้าไปอย่างเอร็ดอร่อย กลายเป็นฉากในหนังสงครามที่พิสดาร แต่ก็น่าจดจำของตัวละครแจ็ก ที่กระทำต่อดอกไม้ด้วยการกิน แม้มันไม่ใช่อาหารก็ตาม

แต่เมื่อตีความอย่างลึกซึ้งทั้งจากคำสารภาพของแจ็กเอง รวมถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้น การมีอยู่ของดอกไม้ใน Merry Christmas, Mr. Lawrence หมายถึงเมล็ดพันธุ์ของมิตรภาพ ที่กำลังแผ่รากและขยายพันธุ์ท่ามกลางดินแดนของความขัดแย้งระหว่างชาติตะวันออกกับชาติตะวันตก

การมีอยู่ของดอกชบากลายเป็นตัวแทนความอ่อนโยนของมนุษย์ ที่กำลังผลิออกจากหัวใจของชายชาติทหาร นำไปสู่บทสรุปที่น่าประทับใจของหนังเรื่องนี้ในท้ายที่สุด

Tags: , ,