ช่วงปลายปี หลายคนมักมองหาเสื้อผ้ากันหนาวแฟชั่นสวยๆ เพื่อเตรียมตัวต้อนรับการมาถึงของฤดูหนาว โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ว่ากันว่า ‘ลมเย็นๆ’ เริ่มพัดมาแล้ว ไปจนถึงเหล่านักเดินทางที่เริ่มจองตั๋วหนี ‘หนาวเล็ก’ ในไทยเพื่อไปปะทะกับ ‘หนาวใหญ่’ ที่ต่างประเทศ
แต่ครั้นจะลงทุนซื้อเสื้อกันหนาวหรือเสื้อโค้ทตัวใหญ่จากแบรนด์ดังๆ บางทีก็คงมีกระเป๋าแบนกันบ้างด้วยราคา (ไม่นับว่าอยากได้หลายตัวหลายแบบ) แถมยังได้ใส่เพียงแค่ชั่วครู่ชั่วยาม เพราะหลังจากกลับมาจากการเดินทาง เครื่องแต่งกายเหล่านั้นก็คงถูกเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าอย่างมิดชิด จนกว่าฤดูหนาวครั้งถัดไปจะมาเยือน
เมื่อเป็นเช่นนั้น ‘ร้านขายเสื้อผ้ามือสอง’ จึงเป็นทางเลือกของหลายคน ที่นิยมแฟชั่น แต่หยิบจ่ายได้สบายกระเป๋าสตางค์ (และแอปฯ จ่ายเงิน) ในทุกงบ ตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักพัน แถมเสื้อผ้าจากร้านขายเสื้อผ้ามือสองเหล่านี้ยังมีให้เลือกสรรมากมาย ตั้งแต่เสื้อยืดไปจนถึงเสื้อสูท ไปเยือนครั้งหนึ่งต้องเสียเวลากันเป็นชั่วโมงๆ แล้วแต่ว่าใครจะเพลินกับการค้นหาไอเทมเหมาะๆ ให้ตัวเองได้นานกว่ากัน
นอกจากความสนุกในการค้นหาเสื้อผ้าราวกับหาขุมทรัพย์แล้ว ยังเป็นการช่วยยืดอายุและระยะเวลาการใช้งานของเสื้อผ้าเหล่านี้ ที่ไม่ต้องกลายไปเป็นขยะเร็วขึ้นอีกด้วย
หนึ่งในร้านขายเสื้อผ้ามือสองที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมานาน คือ ชินจูกุ เอาท์เล็ต (Shinjuku Outlet) ที่มีหลายสิบสาขาทั่วกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งรวบรวมเสื้อผ้านำเข้าจากญี่ปุ่น เกาหลี อเมริกา ทั้งสินค้ามือหนึ่งและมือสอง ที่จะมีสินค้าใหม่เวียนมาลงทุกวัน ในพื้นที่ร้านกว้างขวาง ให้ได้เดินเลือกกันจนเต็มอิ่ม และมีลูกค้าแวะเวียนมาไม่ขาดสาย
The Momentum พาไปเยือน ชินจูกุ เอาท์เล็ต ที่สาขารามอินทรา กม.8 พร้อมเก็บบรรยากาศร้านบางส่วน เผื่อเป็นตัวเลือกของใครที่อยากได้เสื้อผ้าแฟชั่นราคาย่อมเยาในช่วงปลายปีนี้
ป้ายร้าน ชินจูกุ เอาท์เล็ต สาขารามอินทรา กม.8 ที่หลายคนคงเคยมีโอกาสได้เข้ามาใน ‘ป่าเสื้อผ้า’ แห่งนี้ และค้นหาเสื้อผ้าในแบบที่ชื่นชอบจนหมดเวลาไปเป็นวันๆ ตัวร้านอยู่ติดกับถนนใหญ่ แถมป้ายขนาดนี้ก็ึคงมองเห็นได้ไม่ยาก
ภายในร้านกว้างขวาง เต็มไปด้วยราวแขวนเสื้อผ้าที่ละลานตา ตัวร้านมีสองชั้น ชั้นล่างเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นทั่วไป โดยแบ่งเป็นโซนของผู้ชาย ผู้หญิง และของเด็ก เสื้อผ้ามีทั้งเสื้อยืด เสื้อเชิ้ต แจ็กเกต กางเกง กระโปรง ทุกสภาพตั้งแต่เก่าไปจนถึงใหม่
ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าที่ใส่ในชีวิตประจำวันทั่วไป แต่ยังมีเสื้อผ้าแปลกๆ ที่สวมใส่ในงานเฉพาะให้เลือกด้วย
ตัวร้านแบ่งเป็นซอยต่างๆ ให้เดินเลือกได้ง่ายดาย แถมยังโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด มีแสงไฟส่องสว่างให้ได้เดินหยิบจับลองเลือกเสื้อผ้ากันสบายๆ
นอกจากเสื้อผ้า ก็ยังมีไอเทมเครื่องแต่งกายอื่นๆ ให้เลือกซื้อด้วย เช่น หมวกแฟชั่น ถุงเท้า ผ้าพันคอ หลากสไตล์ โดยรอบๆ ร้านจะมีกระจกยาวที่ติดตั้งไว้ เพื่อให้ได้ลองสวมใส่ตามสะดวก
เมื่อขึ้นมาชั้นสอง จะเป็นโซนสำหรับเสื้อกันหนาว เสื้อโค้ท สเวตเตอร์ ไปจนถึงเสื้อสูท ที่มีให้เลือกหลากหลายมากๆ ทั้งขนเฟอร์ หรือเรียบหรู ไปจนถึงแบบแฟชั่น
ความสนุกคือการเลือกตัวที่อยากได้จากเสื้อผ้าที่มีเป็นพันๆ เหล่านี้ ซึ่งบอกได้เลยว่า หากใครตาดีหรือมีรสนิยมในการเลือกหน่อย ก็อาจได้เสื้อผ้าแบรนด์ดังกลับไปสวมใส่ในราคาเพียงแค่หลักร้อยหรือหลักพันเท่านั้น
โซนเสื้อสูทที่มีทั้งแบบเป็นทางการและแบบแฟชั่น ในสภาพที่บางตัวแทบจะดูไม่ออกว่าเป็นมือสอง แถมยังมีหลายไซซ์ หลายสี ให้ได้เลือกซื้อ
เมื่อเลือกเสื้อผ้ากันจนพอใจแล้ว ก็สามารถนำลงมาที่ชั้นล่างเพื่อชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบราคาได้เลย โดยเสื้อผ้าที่นี่จะเริ่มต้นที่ขีดละ 39 บาทเท่านั้น (แต่ละสาขาราคาอาจไม่เท่ากัน) ชั่งได้ราคาเท่าไร ก็นำไปชำระเงินที่แคชเชียร์ และเป็นอันเสร็จสิ้น
ชินจูกุ เอาท์เล็ต มีสาขาดังนี้
• สาขา ทาวน์อินทาวน์ (ขีดละ 39)
• สาขา รังสิต-ตลาดรังสิต (ขีดละ 30)
• สาขาปิ่นเกล้า ข้างพาต้า (ขีดละ 39)
• สาขาตลาดโชคชัย 4 ลาดพร้าว55 (ขีดละ 39)
• สาขา พหลโยธิน 69 (ขีดละ 30)
• สาขา รามอินทรา กม.8 (ขีดละ 39)
• สาขาบ้านโป่ง จ.ราชบุรี (ขีดละ 30)
• สาขา รามคำแหง ซ.59 (ขีดละ 30)
• สาขามหาชัย (ขีดละ 30)
• สาขาโลตัสบางกะปิ (ขีดละ 39)
• สาขาพระราม2 ข้างบิ๊กซี (ขีดละ 39)
• สาขาดอนเมือง ถ.สรงประภา (ขีดละ 39)
• สาขารังสิต คลองสาม (ขีดละ 39)
• สาขา แฮปปี้แลนด์เซนเตอร์ ชั้น2 (3 ตัว 100)
• สาขา อ่อนนุช 72 ม.เสรี (3 ตัว 100)
• สาขาบางใหญ่ซิตี้ ซ.6 (3 ตัว 100)
• สาขา ถ.กรุงเทพกรีฑา ซ.26-28 (3 ตัว 100)
• สาขา โลตัสกาญจนบุรี (3 ตัว 100)
• สาขา โลตัสหางดง (3 ตัว 100)
สะดวกหรือใกล้ที่ไหน ก็ไปลองเลือกซื้อเสื้อผ้ากันได้เลย
Fact Box
ชินจูกุ เอาท์เล็ต
Facebook: https://www.facebook.com/shinjukuoutlet/
แผนที่ร้านแต่ละสาขา: https://www.facebook.com/media/set/?set=a.907250205968383.1073741829.407134599313282&type=1