คุยกับแม่หมอ Pick a Card ในยูทูบ ศาสตร์ที่นอกจากการดูดวง คือการให้กำลังใจและที่พึ่งของสังคม

‘วันนี้ดวงของคุณจะเป็นอย่างไร? เลือกไพ่ใบที่ดึงดูดคุณได้มากที่สุด แล้วไปฟังคำทำนายกัน’

หลายคนคงเคยดูดวงแบบเลือกไพ่ หรือที่เรียกติดปากว่า ‘พิกอะการ์ด (Pick a card)’ รวมถึงบางคนที่ไม่ได้ใช้บริการ ก็อาจได้เห็นคอนเทนต์ผ่านตาในยูทูบ จากชื่อคลิป ‘ตอนนี้เขารู้สึกอย่างไรกับคุณ?’ หรือ ‘ข่าวดีของคุณในวันนี้คืออะไร?’ แล้วเกิดคำถามว่า การดูดวงแบบนี้มันแม่นจริงหรือ และผู้ดูจะได้อะไรจากคลิปประเภทนี้ 

เพื่อคลายข้อสงสัย The Momentum จึงคุยกับ นก-นภัสสร โชติกวณิชย์ ช่อง Bird Eye View และแต้ว-พัชราพรรณ แก้วโลก ช่อง Red Lips Telling แม่หมอที่ทำคลิปพิกอะการ์ดลงยูทูบว่า ความจริงแล้วการดูดวงแบบพิกอะการ์ดได้ประโยชน์อย่างไร

สำหรับการดูดวงแบบพิกอะการ์ดคือ การดูดวงโดยใช้ศาสตร์ไพ่ทาโรต์ (Tarot) หรือที่บางคนคุ้นเคยในชื่อว่า ไพ่ยิปซี หมอดูมักใช้ไพ่หลายสำรับในการดูดวง รวมถึงใช้ไพ่ออราเคิล (Oracle) ซึ่งเป็นไพ่ที่มีความหลากหลายกว่าไพ่ทาโรต์ โดยทำนายผ่านรูปภาพและข้อความอ่านประกอบด้วย ไปจนถึงการใช้อุปกรณ์อื่นช่วยในการทำนาย ส่วนใหญ่พิกอะการ์ดจะเป็นคลิปอยู่ในยูทูบ หมอดูจะเรียงไพ่ไว้ประมาณ 3 ใบ อาจมากหรือน้อยกว่านั้นได้ ให้ผู้ชมเลือกไพ่ใบที่ชอบหรือรู้สึกดึงดูด จากนั้นให้เลื่อนแถบเวลาของคลิปไปฟังคำทำนายของไพ่ใบนั้นๆ หมอดูจะเปิดไพ่ทั้งสำรับและหลายสำรับ เพื่ออ่านคำทำนายของไพ่ที่เราเลือก

การทำคลิปดูดวงพิกอะการ์ด ไม่ได้มีแค่ในประเทศไทย เพราะปัจจุบันมีคลิปพิกอะการ์ดหลายสัญชาติ นภัสสรบอกกับเราว่า ได้ทำช่อง Bird Eye View ดูดวงพิกอะการ์ดในยูทูบมา 7 ปีแล้ว นภัสสรเป็นคนแรกๆ ในไทยที่เริ่มทำคลิปพิกอะการ์ดลงยูทูบและมีหมอดูในต่างประเทศจำนวนมากที่ทำคลิปลักษณะนี้มาก่อนหลายปี

“คลิปดูดวงพิกอะการ์ดมีในต่างประเทศอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลียหรือสหรัฐฯ ซึ่งเราเองเป็นคนแรกๆ แต่ไม่ใช่แรกสุด ที่เริ่มทำพิกอะการ์ดในยูทูบเป็นภาษาไทย คือเรามีสิทธิในการเลือกกองไพ่ และมีโอกาสตรงมากกว่าดูดวงราศีหรือเดือนเกิด ซึ่งเป็นการดูดวงทั่วไปมากๆ เพราะมีหลายสิบล้านคนที่เกิดเดือนนี้ ราศีนี้ แต่การดูพิกอะการ์ด ขอบเขตมันจะแคบลงมาหน่อย” นภัสสรกล่าว

สำหรับความแม่นยำของคำทำนาย อาจไม่ได้ตรงกับทุกคนที่เข้ามาฟัง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคนที่เข้ามาฟังจะฟังต่อ หากสิ่งที่หมอดูพูดตรงกับสถานการณ์ของตนเอง ดังนั้น พัชราพรรณจึงอธิบายว่า การทำคลิปพิกอะการ์ดคือ คอนเทนต์ที่ต้องอาศัยการอ่านไพ่แบบภาพรวม ไม่เหมือนกับการดูดวงแบบตัวต่อตัวกับหมอดู

“พิกอะการ์ดที่เราทำลงช่อง Red Lips Telling มันเป็นการทำคอนเทนต์ลงยูทูบ แปลว่าคอนเทนต์ต้องมีความบันเทิงด้วย กึ่งเอนเตอร์เทนด้วย บางทีเราไม่ได้เน้นอ่านคำทำนายให้คนฟังนำไปใช้มาก แต่จะเน้นเรื่องการสร้างกำลังใจหรือให้แรงบันดาลใจมากกว่า เหมือนผลักดันให้คนที่เข้ามาฟังให้ลุกไปทำอะไรสักอย่าง” 

พัชราพรรณกล่าวเสริมถึงพิกอะการ์ดว่า เป็นการอ่านแบบภาพรวม เพราะคนที่เข้ามาดูมีหลากหลายกลุ่ม ส่วนการดูดวงแบบส่วนตัว จะมีวิธีอ่านไพ่อีกแบบหนึ่ง ซึ่งอิงจากความจริงมากกกว่าพิกอะการ์ด เพราะได้ทราบข้อมูล สถานการณ์ชีวิตของเหล่าลูกดวงหรือลูกค้า จึงให้คำทำนายที่สามารถนำไปใช้แก้สถานการณ์จริงได้

“ดูดวงส่วนตัวมันจะเฉพาะเจาะจง จะรู้ว่าคนคนนั้นทำอาชีพอะไร เกิดปัญหาอะไร มันเจาะจงมาก เลยจะเน้นการอ่านคำทำนายเพื่อนำไปใช้มากกว่า” พัชราพรรณเสริม

ในขณะเดียวกัน สิ่งที่ส่งผลให้แม่นหรือไม่แม่นมีหลายปัจจัย แม้แต่ในการดูดวงแบบส่วนตัวเอง หากต้องการให้แม่นยำ นภัสสรกล่าวว่า ต้องใช้การเปิดใจของทั้งฝ่ายหมอดูและคนที่มาดูดวง

“ศาสตร์ที่ดูเป็นศาสตร์ไพ่ มันต้องใช้การหยั่งรู้หลายด้าน เพราะฉะนั้น ในการทำนายให้แม่นยำหรือเที่ยงตรง ปัจจัยมันค่อนข้างเยอะ เลยจำเป็นมากๆ ที่เราต้องเปิดใจให้เขา และคนที่มาดูดวงกับเราต้องเปิดใจให้เราด้วย มันทำให้เราทำนายได้แม่นมากขึ้น” นภัสสรเล่า

แม้ปัจจุบันจะมีหมอดูนิยมทำช่องพิกอะการ์ดกันหลายคน และถูกมองว่า เป็นการโปรโมตเพื่อหาลูกค้าให้มาดูดวงแบบส่วนตัว แต่สำหรับหมอดูหลายคนที่ทำช่องพิกอะการ์ดไม่ได้รับดูดวงส่วนตัว อีกทั้งบางคนก็ทำเพื่อมอบความสุขและความบันเทิงให้ผู้ชมเพียงเท่านั้น เช่นเดียวกับพัชราพรรณที่ไม่ได้ชอบการดูดวงแบบส่วนตัว มากเท่ากับการทำคลิปอ่านไพ่พิกอะการ์ด

“จริงๆ แล้วไม่ค่อยชอบรับดูดวงส่วนตัว การเปิดช่องยูทูบเพื่อจะได้มีลูกค้าดูดวงส่วนตัว ไม่ใช่เป้าหมายของเรา จุดประสงค์คือต้องการส่งพลังงานดีๆ ให้ผู้คน เพราะก่อนที่จะเริ่มต้นทำคลิป ได้ดูคลิปพิกอะการ์ดของแม่หมอคนหนึ่ง แล้วรู้สึกว่า ได้แนวคิดบางอย่างที่ดีหรือได้กำลังใจ สมมติเราดูดวงเรื่องงานว่า จะได้งานนั้นไหม มันไม่ใช่แค่หาคำตอบ แต่มันเป็นการเติมกำลังใจด้วย” พัชราพรรณกล่าว

ชีวิตหมอดู คนรับพลังงานลบ ให้พลังงานบวก

‘การดูดวงมันราคาถูกกว่าการหาจิตแพทย์ และไปง่ายกว่าโรงพยาบาล’ นา อาจอง (จอน จงซอ) นางเอกซีรีส์เกาหลีเรื่อง Wedding Impossible กล่าวไว้ และดูเหมือนว่า คนที่ชื่นชอบการดูดวงจะเห็นด้วยกับประโยคนี้ โดยเฉพาะพิกอะการ์ดที่สามารถดูดวงได้ทุกวันและดูวันละกี่คลิปก็ได้

พิกอะการ์ดมีหลายหัวข้อทั้งเรื่องความรัก การงาน การเงิน หลายครั้งคนที่เข้ามาดูอาจเป็นคนที่กำลังเผชิญปัญหา และอยากได้คำตอบหรือกำลังใจ แต่หลายคนไม่ใช่แค่ฟังเพื่อหาคำตอบว่า จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต แต่ใช้คลิปนี้เปิดฟังเป็นเพื่อนเวลาทำงาน และฟังเพื่อให้เกิดความรู้สึกสบายใจอีกด้วย เพราะก่อนที่พัชราพรรณจะมาทำช่อง Red Lips Telling ก็เป็นคนที่ชอบฟังคลิปพิกอะการ์ดเวลาทำงาน

“เราเริ่มทำช่องมา 3 ปี วันเกิดช่องคือวันที่ 17 สิงหาคม 2564 ส่วนตัวมีความสนใจในเรื่องของการดูดวงอยู่แล้ว ก่อนหน้าที่เราจะเปิดช่องยูทูบ เรายังทำงานประจำ เป็นอินทีเรียดีไซเนอร์ ก็ชอบดูคลิปพิกอะการ์ดอยู่แล้ว เปิดดูไปเรื่อยๆ เราก็มีไพ่สำรับหนึ่ง เลยลองฝึกดูดวงให้เพื่อนที่ทำงาน แต่ตอนนั้นเราไม่ได้อ่านไพ่คล่องนัก ก็ดูไปแล้วเปิดหนังสือไป เพื่อนก็ให้เราดูขำๆ ในออฟฟิศ ซึ่งเขาก็บอกว่าตรงอยู่นะ พอลาออกจากงานประจำ มาทำฟรีแลนซ์งานอินทีเรีย ก็เท่ากับว่ามีเวลาว่างครึ่งหนึ่ง เลยตัดสินใจเอาเวลามาทำช่องยูทูบดูดวงพิกอะการ์ด ซึ่งเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงเรามากที่สุด”

พัชราพรรณเล่าต่อว่า บางครั้งการเป็นหมอดูไม่ใช่แค่การทำนาย แต่ยังรับหน้าที่เป็นเพื่อนช่วยแนะนำในด้านการงาน 

“เราผ่านช่วงเวลาที่เราลาออกจากงาน มันค่อนข้างหนักอยู่พอสมควร แล้วก็เหมือนต้องหาเส้นทางของชีวิตใหม่ ซึ่งมีคนดูช่องเราอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เหมือนกัน เช่น อยากออกจากงานแต่ว่าไม่กล้า ยังอยากอยู่ในเซฟโซน เลยเข้ามาให้ช่วยไกด์ให้” พัชราพรรณเล่า

ในขณะที่นภัสสรเองก็กล่าวว่า การสื่อสารของหมอดูมีผลต่อคนดูอย่างมาก

“ถ้าพูดในส่วนของการเป็นหมอดู ถ้านักพยากรณ์คนนั้นมีวิธีการในการสื่อสารที่ดี หรือมีวิธีการพูดที่เหมาะสม ก็จะทำให้คนดูรู้สึกมีกำลังใจ เป็นช่องทางหนึ่งในการฮีลลิ่งเขา หรือเป็นอีกวิถีทางในการแก้ปัญหาของเขา” นภัสสรอธิบาย

แม้คนที่เข้ามาฟังคลิปพิกอะการ์ด จะไม่ได้คาดหวังถึงความแม่นยำของคำทำนายอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่กำลังเผชิญกับวิกฤตทางด้านจิตใจ แล้วต้องการดูดวงส่วนตัวเพื่อปรึกษาปัญหา หรือต้องการคนรับฟังสถานการณ์เลวร้ายของชีวิตในราคาย่อมเยากว่าการเข้าหานักจิตบำบัด นั่นไม่ได้หมายความว่า การคุยกับหมอดูดีกว่าการคุยกับจิตแพทย์ 

นภัสสรเน้นย้ำว่า แม้แต่อาชีพหมอดู หากมีปัญหาด้านจิตใจก็ต้องพบนักจิตบำบัด และบางครั้งนักพยากรณ์อาจมีคำพูดบางอย่างที่ทำให้คนฟังรู้สึกไม่สบายใจได้เหมือนกัน

“เราต้องเข้าใจว่า ถ้าเรามาดูดวง หลักใหญ่ใจความในการดูดวงคือ การพยากรณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนเรื่องจะฮีลคนได้หรือฮีลคนไม่ได้ ถ้าสมมติว่า อนาคตเป็นสิ่งที่บวก มันฮีลเราได้แน่ๆ แต่ถ้าอนาคตเราเป็นสิ่งที่ลบ มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ฮีลเรา

“ถ้ามีปัญหาทางจิตจริงๆ แม้กระทั่งหมอดูก็พบนักจิตบำบัดหรือจิตแพทย์ เพราะหมอดูไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตบำบัด หมอดูพบเจอได้ง่ายจริง แต่สุดท้ายแล้วหมอดูไม่สามารถแก้ไขปัญหาลึกๆ ในจิตใจคนอื่นได้ร้อยเปอร์เซ็นต์” นภัสสรกล่าว

พิกอะการ์ดคือ การส่งสารจากไพ่สู่คนดูคลิป แน่นอนว่า มีความหมายหลายอย่างที่หมอดูต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการตีความไพ่ เพื่อสื่อสารกับคนดูกลุ่มใหญ่ จึงต้องระมัดระวังเรื่องการสื่อสารเป็นอย่างมาก พิกอะการ์ดของพัชราพรรณจึงเป็นการพูด เพื่อสร้างบันดาลใจให้กับคนดูคลิป

“ดูดวงส่วนตัวจะมีเรื่องอาชีพ ที่เขาไม่กล้า ไม่รู้จะไปทำอะไรใหม่ๆดี มีเยอะมาก เลยรู้สึกว่าเวลาที่ได้รับการคอนเฟิร์มหลายๆ ครั้งจากผู้ชมว่า เราสามารถพูดเพื่อให้แรงบันดาลใจหรือปลุกให้เขาไปทำอะไรสักอย่างได้ ช่วยผลักดันใครสักคนให้ลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ สิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่อยู่แค่ในคอมฟอร์ตโซน ความสุขมันอยู่ตรงที่หลายคนบอกว่า เรามาช่วยชีวิตได้ทัน บางคนกำลังเศร้า นอย หรือว่าเจอเรื่องอะไรไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องงาน เหมือนโดนเราปลุกขึ้นมาผลักดันอะไรแบบนี้” พัชราพรรณกล่าว

บางคนอาจไม่เชื่อเรื่องดวง และมองว่าการดูคลิปพิกอะการ์ดเป็นเรื่องไร้สาระ แต่สำหรับบางคนการได้รับกำลังใจให้ก้าวข้ามสถานการณ์บางอย่างเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก และจุดประสงค์ของพิกอะการ์ด นอกจากจะเป็นการดูดวงเพื่อความบันเทิง หรือเป็นเพื่อนที่คอยช่วยฮีลใจ นอกจากนี้ คนที่เข้ามาดูคลิปยังมีกลุ่มคนที่ชื่นชอบในศิลปะ เพราะหน้าไพ่แต่ละสำรับที่หมอดูใช้มีความสวยงามและสร้างสรรค์ เหมือนเป็นการดูรีวิวไพ่แต่ละสำรับอีกด้วย