หลายคนคงเคยพูดกับเพื่อนว่า “ถ้าเราแก่ มาอยู่บ้านเดียวกันเถอะ” เหตุผลเพื่ออยู่ดูแลกัน พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน หากในอนาคตไม่มีคนอื่นเคียงข้าง และไม่อยากอยู่บ้านพักคนชราหรืออยู่โดยลำพัง

แม้สำหรับบางคนคำพูดเหล่านี้อาจเป็นเพียงแค่การพูดเล่นหยอกล้อ ไม่ได้วางแผนอย่างจริงจัง ว่าจะอยู่ด้วยกันที่ไหน อย่างไร แต่ในวันนี้กลุ่มคน Gen Z ในสหรัฐอเมริกาได้เริ่มต้นซื้อบ้านร่วมกับเพื่อน หรือเรียกการซื้อร่วมกันนี้ว่า Co-Buying ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์อยู่ในขณะนี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ราคาบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ มีราคาสูงเกินกว่าคนคนหนึ่งจะซื้อไหว ซึ่งประเทศไทยในปัจจุบันนี้ก็ไม่ต่างกัน ทำให้คนจำเป็นต้องกู้ซื้อบ้านร่วมกับสมาชิกในครอบครัว โดย The New York Times ได้เผยแพร่บทความ ‘How Gen Z Is Buying Homes’ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ให้ข้อมูลว่า กลุ่ม Gen Z ราว 1 ใน 3 ยินดีที่จะซื้อบ้านร่วมกับครอบครัวหรือเพื่อน 

ถึงตรงนี้ ผู้ใหญ่หรือคนวัยพ่อแม่คงแปลกใจว่า ทำไมกล้าลงทุนซื้อบ้านกับคนที่ไม่ใช่ครอบครัว ซึ่งคำตอบเป็นเพราะในสังคมอเมริกันยังมีค่านิยมที่ต้องมีบ้านสักหลังเป็นของตนเอง เพียงแต่ราคาบ้านที่พุ่งสูง ทำให้ฝันเป็นจริงได้ยากขึ้น ซึ่งข้อมูลจากสำนักข่าว NewsNation ของสหรัฐฯ ยังระบุอีกว่า ราคาของที่อยู่อาศัยมีต้นทุนสูงขึ้น ส่งผลให้อายุเฉลี่ยของผู้ซื้อบ้านเพิ่มขึ้นเป็น 56 ปี คน Gen Z ที่โตพอจะซื้อบ้านได้จึงหันมาใช้ทางลัด เพื่อเป็นเจ้าของบ้านได้เร็วขึ้น 

และรายงานจาก NextGen Homebuyers Report องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อคนรุ่นใหม่ ระบุถึงความแตกต่างระหว่างคน Gen Z กับ มิลเลนเนียล (Millennials) หรือ Gen Y ไว้ว่า มิลเลนเนียลมีแนวโน้มซื้อบ้านด้วยตนเองเพียงคนเดียวหรือซื้อร่วมกับคนรัก และซื้อบ้านในพื้นที่ราคาไม่สูง ในขณะที่คน Gen Z ใช้กลยุทธ์ Co-Buying มากกว่าจะรอซื้อตามลำพัง และเต็มใจที่จะมีภาระรับผิดชอบทางการเงินร่วมกับเพื่อนหรือครอบครัว

“กลยุทธ์ Co-Buying คือการสร้างพันธมิตรแบบเพื่อน กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยชาวอเมริกันเกือบ 15% เคยซื้อบ้านกับคนที่ไม่ใช่คู่รักหรือสามีภรรยา และ 70% ของคนรุ่น Gen Z ก็ยินดีที่จะใช้วิธีนี้” สำนักข่าว NewsNation ระบุ

โดยข้อดีของการซื้อบ้านร่วมกับเพื่อน นอกจากจะได้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้เร็วขึ้น ยังได้แบ่งปันพื้นที่ร่วมกับเพื่อนของตนเอง โดยที่ช่วยลดภาระทางการเงิน ไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษาบ้านเพียงคนเดียว และ Gen Z ในสหรัฐฯ ยังมีวิธีช่วยสร้างลดต้นทุน เช่น ปล่อยให้คนอื่นมาเช่าบางส่วนของบ้าน ซึ่งเป็นถือเป็นแนวคิดที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับคนไทยที่อยากซื้อบ้านร่วมกับเพื่อน เพื่ออยู่ด้วยกันตอนชราภาพ แต่ตอนนี้ยังอยากแยกกันใช้ชีวิตอยู่ ก็สามารถซื้อบ้านแบบ Co-Buying แล้วปล่อยเช่าบ้านเพื่อรอเวลาได้ 

ในกรณีของประเทศไทย การซื้อบ้านแบบ Co-Buying กับเพื่อน อาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีสิ่งที่ต้องระมัดระวังทั้งในเรื่องของความสัมพันธ์และเรื่องเงิน อีกทั้งการซื้อบ้านร่วมกับบุคคลที่ไม่ใช่ครอบครัว ทางธนาคารบางแห่งก็อาจไม่อนุมัติให้กู้ซื้อบ้าน รวมถึงยังมีเงื่อนไขและรายละเอียดมากมายที่ต้องศึกษา 

ไม่ต่างกับที่สหรัฐฯ เพราะแม้เทรนด์นี้จะเป็นที่นิยม แต่จากข้อมูลของ NerdWallet บริษัทการเงิน กล่าวว่า 

“ข้อเสียอย่างหนึ่งของ Co-Buying คือความซับซ้อนในการดำเนินการ เนื่องจากผู้ให้กู้และตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่คุ้นเคยในการทำงานร่วมกับคู่รัก พวกเขาจึงอาจลังเลที่จะช่วยเหลือกลุ่มคนที่ซื้อบ้าน Co-Buying เป็นกลุ่มใหญ่ เนื่องจากต้องประสานงานกันมากขึ้น” 

ทั้งนี้บริษัทการเงินของสหรัฐฯ ยังให้คำแนะนำอีกด้วยว่า ควรระบุข้อตกลงในการอยู่ร่วมกันที่มีผลผูกพันทางกฎหมายให้ชัดเจน ก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านด้วยกัน เช่น วิธีการอยู่ร่วมกันในบ้าน การใช้พื้นที่ การจัดสรรเงินค่าใช้จ่าย และสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับทรัพย์สินหากมีคนใดคนหนึ่งตัดสินใจย้ายออก กระทั่งการขายต่อ ซึ่งทั้งหมดนี้ควรเขียนสัญญาให้เสร็จสิ้นก่อนซื้อบ้านร่วมกับเพื่อน

เช่นเดียวกับ ปีเตอร์ วอร์เดน (Peter Warden) บรรณาธิการของ The Mortgage Reports ที่คลุกคลีอยู่ในด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัย การเงินส่วนบุคคล บัตรเครดิต และประกันภัย กล่าวว่า

“ควรวางแผนสำหรับอนาคตด้วยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคนใดคนหนึ่งได้พบกับรักแท้และต้องการย้ายออกไป หรือต้องการให้คู่ครองคนใหม่เข้ามาอยู่อาศัยในบ้าน จะต้องขายบ้านหรือไม่ แล้วเจ้าของร่วมคนที่เหลือต้องย้ายออกไปหรือไม่ ควรระบุและกำหนดระยะเวลาในการย้าย การซื้อขายต่อด้วย”

เชื่อว่าเทรนด์ Co-Buying ของ Gen Z ที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ อีกไม่นานอาจได้รับความนิยมทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่ยังมีค่านิยมต้องมีบ้านเดี่ยวเป็นของตนเอง แต่ราคาอสังหาริมทรัพย์แพงเกินเอื้อม 

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของคนไทยไม่ใช่การได้เป็นเจ้าของอสังหาฯ ได้เร็วขึ้นเหมือนคนอเมริกัน แต่เป็นการได้มีบ้านสำหรับอยู่อาศัยกับเพื่อนเมื่อแก่ชรา และหากสนใจซื้อบ้านแบบ Co-Buying ขอให้ตระหนักถึงคำแนะนำของวอร์เดนว่า การซื้อบ้านเป็นภาระเป็นผูกพันที่ยิ่งใหญ่ และการซื้อบ้านร่วมกับผู้อื่นอาจนำมาซึ่งความท้าทายใหม่ๆ หากความคาดหวังไม่สอดคล้องกันอย่างชัดเจนตั้งแต่แรก

อ้างอิง:

https://themortgagereports.com/118361/the-rise-of-co-buying-gen-z

https://www.floridarealtors.org/news-media/news-articles/2025/09/gen-z-turns-co-buying-homes 

https://thehill.com/business/personal-finance/5514127-co-buying-gen-z-homeownership-hack/?tbref=hp 

Tags: , , , ,