จะเกิดอะไรขึ้นถ้า The Silence of the Lambs (1991) เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift)
จากการตั้งคำถามเช่นนี้ของ เอ็ม. ไนต์ ชยามาลาน (M. Night Shyamalan) ผู้กำกับเจ้าของผลงานสุดระทึกพร้อมตอนจบที่คาดไม่ถึงมากมาย นำไปสู่ Trap ผลงานเรื่องล่าสุดที่ว่าด้วย คูเปอร์ (แสดงโดย จอช ฮาร์ทเน็ตต์) พ่อที่พาลูกสาวอย่าง ไรย์ลี (แสดงโดย แอเรียล โดโนฮิว) ไปชมคอนเสิร์ตของศิลปินในดวงใจอย่าง Lady Raven (แสดงโดย ชาเลกา ชามาลาน) แต่ปรากฏว่า คอนเสิร์ตครั้งนี้มีแผนการจับกุมลับๆ ของตำรวจซ่อนอยู่ ที่หวังคว้าตัว The Butcher ฆาตกรต่อเนื่องที่มาร่วมคอนเสิร์ตในครั้งนี้ด้วย
ในการสัมภาษณ์กับทางนิตยสาร Empire ชยามาลานเล่าว่า หนึ่งในความตั้งใจของการทำหนังเรื่องนี้ คือ ความต้องการที่จะกำกับหนังระทึกขวัญ รวมถึงหนังคอนเสิร์ตซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขา จึงมีความตั้งใจจะทำคอนเสิร์ตจริงๆ ในเรื่องให้เหมือนและสมจริงที่สุด
แต่อีกประเด็นที่น่าสนใจ ชยามาลานยังเล่าว่า พล็อตการล่อซื้อของตำรวจด้วยการจับกุมผู้ร้ายในอีเวนต์สักแห่งหนึ่ง เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Operation Flagship 1985 เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ
ย้อนกลับช่วงปี 1980 ในเวลานั้นปัญหาอาชญากรรมในสหรัฐฯ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เกินกว่าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรับมือไหวทำให้ U.S. Marshals Service หน่วยงานด้านความปลอดภัยของกระทรวงยุติธรรมจึงใช้วิธีการ ออกแผนล่อให้ผู้ต้องหาจำนวนมากเดินทางมายังสถานที่หนึ่ง ก่อนที่จะล้อมจับ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้วิธีส่งจดหมายไปให้ผู้ต้องหาว่าได้รับรางวัลบางอย่าง ทั้งเงินรางวัล ทรัพย์สิน รวมถึงตั๋วคอนเสิร์ตและกีฬา ที่นำมาสู่ปฏิบัติการ Operation Flagship 1985
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น หลังเจ้าหน้าที่ได้มอบตั๋วเข้าชมการแข่งขันเนชันแนลฟุตบอลลีก (National Football League: NFL) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสหรัฐฯ ให้กับเหล่าอาชญากรกว่า 3,000 รายที่ยังหลบหนีอยู่ โดยอ้างตัวว่า เป็นช่องสถานีวิทยุกีฬาแห่งใหม่ที่ชื่อ ‘Flagship International Sports Television’ ซึ่งคนที่ได้รับจดหมายนั้นคือ ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัล และต้องมารับรางวัลที่ศูนย์การประชุมวอชิงตันในเช้าวันก่อนแข่งขัน
ในเช้าวันที่ 15 ธันวาคม 1985 ศูนย์การประชุมวอชิงตันถูกตกแต่งใหม่ให้มีสีสัน มีทั้งลูกโป่ง พนักงานต้องรับ พิธีกร เชียร์ลีดเดอร์ โต๊ะลงทะเบียนสำหรับผู้ต้องหา ที่จัดทำขึ้นอย่างเป็นกิจจะลักษณะ พร้อมทั้งยังมีแฟนฟุตบอลของทั้ง 2 ทีมที่ส่งเสียงเชียร์อยู่โดยรอบ
แน่นอนว่าทุกคนทราบดีว่า ทั้งหมดคือละครฉากหนึ่งที่ทางเจ้าหน้าที่สร้างขึ้น จะมีก็เพียงแต่เหล่าอาชญากรจำนวน 101 คนที่ไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด และเดินเข้ามาหอประชุมด้วยความหวังว่า จะได้ชมฟุตบอลนัดสำคัญแบบฟรีๆ
สุดท้ายทั้งหมดก็ถูกจับกุมแต่โดยดี ไม่มีใครขัดขืนหรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ทำให้ปฏิบัติการนี้ได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในการจับกุมผู้ต้องหาหนีคดีครั้งใหญ่ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ทั้งในแง่การใช้งบประมาณเพียงน้อยนิด แต่กลับได้ประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก
ทว่าเหตุการณ์ดังกล่าวก็เป็นเพียงแรงบันดาลใจของชยามาลาน ในการสร้างหนังเรื่อง Trap เท่านั้น สุดท้ายแล้วก็ต้องมาตามดูกันต่อว่า ในตอนจบของหนังจะมีการหักมุม หรือนำไปสู่เรื่องราวที่แตกต่างจาก Operation Flagship 1985 หรือไม่
ที่มา
https://www.digitalspy.com/movies/a61525559/m-night-shyamalan-trap-twist-inspiration/
https://screenrant.com/trap-movie-shyamalan-true-story-spoil-twist/
Tags: Entertainment, Trap, เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน, Operation Flagship, Operation Flagship 1985
