วันนี้เป็นวันแรกของงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30 ซึ่งจัดขึ้นจนถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เชื่อว่าหลายคนคงจดชื่อหนังสือที่อยากอ่านไว้เรียบร้อย ก่อนคว้ากระเป๋าออกไปควานหาหนังสือที่ต้องการ
ใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อเล่มไหนบ้าง เราขอแนะนำให้รู้จักกับแฮชแท็ก #ณรัณอ่าน โดยหากเข้าโซเชียลฯ X จะพบกับคลังหนังสือของ เน-ณรัณ วิกัยรุ่งโรจน์ หรือเน PERSES วงบอยกรุ๊ปจากค่าย G’NEST ซึ่งเนมักมาแบ่งปันหนังสือที่เขาอ่านให้บรรดาแฟนๆ ได้ลองอ่านตาม และจากหนังสือมากมายในขุมทรัพย์ณรัณอ่าน อาจมีสักเล่มที่เปล่งแสงสะดุดตาจนเราอยากมีไว้ในครอบครองเช่นกัน 
นอกจากเนจะเป็นศิลปินแล้ว อีกด้านหนึ่งเขาคือนักเขียนผู้มีนามปากกาว่า ‘ณรัณ’ และในปีนี้เขาเขียนงานเรื่องสั้นแนวกระแสสำนึกในหนังสือแมวดำตัวแรกของชีวิตที่เหลือ หนังสือรวมเรื่องสั้นจาก 6 นักเขียนร่วมสมัย ได้แก่ ณรัณ, ปราปต์, จิดานันท์ เหลืองเพียรสมุท, นริศพงศ์ รักวัฒนานนท์, ประเสริฐศักดิ์ ปัดมะริด และกิตติศักดิ์ คงคา
และไม่นานมานี้ The Momentum มีโอกาสพูดคุยกับนักเขียนหน้าใหม่ เพื่อไถ่ถามว่า มีหนังสือเล่มไหนที่เขาอยากแนะนำสำหรับงานมหกรรมหนังสือปีนี้บ้าง โดยเขาเริ่มพูดถึงหนังสือการ์ตูนที่เพิ่งอ่านจบไปอย่าง 20th Century Boys หรือชื่อไทยคือ แก๊งนี้มีป่วน การ์ตูนญี่ปุ่นแนวสืบสวนไซไฟของ นาโอกิ อุราซาวะ (Naoki Urasawa) โดยฉบับแปลไทยมีทั้งหมด 11 เล่ม และเล่มพิเศษ 21st Century Boys อีก 1 เล่ม แม้จะเป็นหนังสือการ์ตูนที่มีหลายเล่ม แต่เนยืนยันว่าเป็นการ์ตูนที่อ่านจบครบได้ไม่ยาก และอยากให้หลายคนลองอ่าน
“เป็นการ์ตูนนานแล้ว แต่เราเพิ่งอ่านจบแล้วชอบมาก ทั้งการเล่าเรื่อง ประเด็นต่างๆ ของลัทธิเพื่อน มันดูคล้ายสิ่งที่เราเจอในสังคมปัจจุบันของเรา ที่มีบางอย่างที่เราพูดถึงไม่ได้ แล้วเรายิ่งชอบที่ประเด็นมันยึดโยงกับความเป็นเด็กของเรา แล้วเรารู้สึกอินกับความเป็นเด็กที่มันเกิดขึ้นมา” เนเล่าถึงความประทับใจใน 20th Century Boys
นอกจากแนะนำหนังสือที่อ่านจบไปแล้วให้คนซื้อตาม เนกล่าวว่า ตัวเองก็มีหนังสือที่ยังไม่ได้อ่าน แต่เล็งไว้ว่าจะไปสอยมาจากงานหนังสือรอบนี้ ซึ่งคิดว่าเป็นเล่มที่น่าสนใจ จึงหยิบยกมาบอกเล่าให้หลายคนลองซื้อมาอ่านพร้อมกันกับเขา ได้แก่ นครเฟมินิสต์: ชีวิตในพื้นที่ไร้ปิตาธิปไตย, เหตุการณ์ไม่สยบ: ชะตากรรมของสามัญชนในรัฐสามานย์ และต้องเนรเทศ รวมถึงหนังสือของเขาอย่างแมวดำตัวแรกของชีวิตที่เหลือ ที่วาดหวังว่าหลายคนจะอ่านแล้วชอบ
เนเล่าว่า เขารู้จักหนังสือนครเฟมินิสต์: ชีวิตในพื้นที่ไร้ปิตาธิปไตย จากการรีวิวของ เก่งกิจ กิติเรียงลาภ ซึ่งเป็นหนังสือแปลจากต้นฉบับ Feminist City ของ เลสลีย์ เคิร์น (Leslie Kern) นักเขียนแนวสตรีนิยม แปลเป็นภาษาไทยโดย วศินี พบูประภาพ
“เราเจอเล่มที่ชื่อว่านครเฟมินิสต์ฯ ที่อาจารย์เก่งกิจแนะนำว่า เป็นอีกเล่มที่ควรค่าแก่การอ่าน อาจารย์เก่งกิจเขาเขียนไว้ว่า ได้อ่านเล่มนี้แล้วเลิกรำคาญเด็กร้องไห้ในที่สาธารณะหรือบนเครื่องบิน เราก็เลยคิดว่าน่าสนใจ
“หนังสือพูดถึงนครเฟมินิสต์ เป็นบทสำรวจว่าที่พื้นที่ในเมือง ตั้งแต่ถนน ห้องน้ำสาธารณะ ไปจนถึงระบบขนส่ง ถูกออกแบบมาโดยไม่คำนึงถึงผู้หญิงทั้งในฐานะแม่ คนทำงาน ผู้ดูแล เหมือนคนเขียนเขาใช้ประสบการณ์ส่วนตัวสำรวจประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมสมัยนิยม เพื่อเปิดเผยความไม่เท่าเทียมที่ซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวันในภาพเมืองในฝัน” เนบรรยายถึงหนังสือที่เขาสนใจ 
เล่มต่อมาที่เขาหมายตาเป็นของนักเขียนหญิงอย่าง วจนา วรรลยางกูร เจ้าของเรื่องเหตุการณ์ไม่สยบ: ชะตากรรมของสามัญชนในรัฐสามานย์ และอีกเล่มของ วัฒน์ วรรลยางกูร ผู้พ่อที่เล่าประสบการณ์ชีวิตช่วงสำคัญในหนังสือต้องเนรเทศ
“เหตุการณ์ไม่สยบฯ เล่มนี้พูดถึงชีวิตของสามัญชนที่ต้องเผชิญชะตากรรมที่มันช่างวิปริต วิกลเหลือเกินในสังคมเราอยู่ ทั้งตัวเขาเองที่ต้องเสียพ่อไปจากการที่ถูกเนรเทศและหนีคดี เพียงแค่ไม่ยอมสยบต่อรัฐ รู้สึกว่าเป็นอีกเล่มที่น่าสนใจดี แล้วก็มีอีกเล่มหนึ่งของวัฒน์ วรรลยางกูร ที่เขาเขียนตอนลี้ภัย ชีวิตช่วงที่เขาลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ชื่อต้องเนรเทศ คิดว่าเป็นเล่มที่น่าสนใจ” 
ทั้งนี้นักเขียนหนุ่มแนะนำหนังสือแมวดำตัวแรกของชีวิตที่เหลือ ผลงานของตัวเองว่า เขาเขียนเรื่องสั้นโดยได้รับโจทย์เป็นแมวดำ
“สำหรับแมวดำตัวแรกของชีวิตที่เหลือ มีโอกาสไปเป็นหนึ่งในนักเขียนรวมกับอีก 5 ท่าน รวมเราเป็น 6 คน เล่มนี้ก็รวบรวมนักเขียนร่วมสมัยที่โหดๆ ทั้งนั้นเลย แค่นักเขียนก็น่าสนใจแล้ว ส่วนประเด็นคือทุกคนจะได้โจทย์เป็นแมวดำ แล้วทุกคนก็จะไปเขียน โดยพี่เบส-กิตติศักดิ์ คงคา ที่เป็นบรรณาธิการของเล่มนี้ เขาก็บรีฟมาว่า อยากให้เขียนเรื่องที่สามารถโยงไปถึงเรื่องเก่าๆ เล่มที่เป็นชิ้นโบแดงของนักเขียนแต่ละคนได้ แต่ว่าด้วยความที่เรายังไม่มีชิ้นโบแดงอะไร ก็ได้ฟรีสไตล์หน่อย” 
เขาเกริ่นถึงเนื้อหาเรื่องสั้นของเขาว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ฝันถึงกระท่อมหลังหนึ่ง ซึ่งข้างในกระท่อมหลังนั้นมีเครื่องการุณยฆาต และเดินทางออกตามหากระท่อมในฝัน เป็นการเดินทางในช่วงเวลาหนึ่งของชายผู้นั้นเพื่อค้นพบอะไรบางอย่างในชีวิต
ถึงตรงนี้หลายคนคงจดชื่อทุกเล่มจากคลังณรัณอ่าน เพื่อเดินออกตามหาในงานหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือจากปลายปากกาณรัณ ที่ต้องคว้ามาอ่านให้ได้ และสุดท้ายนี้หวังว่า ในอนาคตทุกคนจะได้ดื่มด่ำตัวอักษรของณรัณต่อไปอีกหลายเล่ม 
