ประเทศไทยเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นอันดับ 9 ของโลก

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ดร.กฤษฎา บุญชัย ผู้ประสานงานเครือข่าย Thai Climate Justice for All (TCJA) หนึ่งในสปีกเกอร์ในงานครบรอบ 8 ปี Drive The Momentum พูดในหัวข้อ From Net Zero to Real Zero โดยมีใจความสำคัญคือการมุ่งสู่ Real Zero คือการเปลี่ยนผ่านกระบวนการชดเชยทางคาร์บอน (Carbon Offset) ไปสู่การเลิกปล่อยคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรมพลังงานที่ใช้ฟอสซิล 

“ข้อเสนอสำคัญของประชาชนหลายๆ ประเทศทั่วโลก คือเราไปสู่แนวคิดเรื่อง Real Zero ได้ไหม ซึ่งภาคส่วนไหนที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเยอะ ต้องเปลี่ยนผ่านโดยเร็วที่สุด ไม่จำเป็นต้องไปเอาตัวอื่นมาชดเชย Real Zero หมายความว่า ต้องลดการปล่อยจากจุดหลักๆ สำคัญ ตอนนี้ก๊าซเรือนกระจก 70% มาจากภาคพลังงาน อีก 20% มาจากเกษตรเชิงเดี่ยว และยังมีอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ละแฟกเตอร์ต้องวางแผนว่าจะค่อยๆ ลดจุดที่สำคัญอย่างไร”

ดร.กฤษฎากล่าวต่อไปว่า การบรรลุเป้าหมาย Real Zero มีหลายองค์ประกอบที่ต้องดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นการลด การปรับเปลี่ยนพลังงาน การใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีตัวอย่างจากหลายประเทศที่พยายามใช้แนวคิดเรื่อง Real Zero เข้ามาแทน Net Zero เช่น บางเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศสกอตแลนด์ ตั้งเป้าหมายว่าจะลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 75% ภายในปี 2573 โดยไม่พึ่งพาการชดเชย และมีแผนเน้นการลดจากต้นกำเนิด เช่น การพัฒนาพลังงานหมุนเวียน และการเพิ่มประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ยังให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันพลังงานหมุนเวียนเช่นโซลาร์มีต้นทุนต่อหน่วยมีราคาถูกกว่าพลังงานจากฟอสซิลแล้ว และตั้งคำถามถึงนโยบายในการแก้ปัญหาเรื่องการปล่อยก๊าซคาร์บอนของภาคพลังงานที่ยังคงใช้ฟอสซิล

“ประเทศไทยเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากภูมิอากาศเป็นอันดับ 9 ของโลก นั่นหมายความว่าสิทธิของผู้คนในการมีภูมิอากาศที่ดี ที่ยั่งยืน และเป็นธรรม เป็นเรื่องที่มีความหมาย คำถามคือเรามีนโยบายแบบนี้หรือยัง โลกกำลังพัฒนานโยบายเหล่านี้หรือยัง” ดร.กฤษฎากล่าว 

นอกจากนี้ยังทิ้งท้ายว่า “การเปลี่ยนจาก Net Zero ไปสู่ Real Zero ไม่ใช่เรื่องของความทะเยอทะยานแบบไร้ความหมาย แต่มันคือความหวังที่เรามีต่อมนุษยชาติ และลูกๆ หลานๆ ของเรา”