หนึ่งในรายการที่เป็นที่พูดถึงกันไม่น้อยในเวลานี้ก็คือ รายการ Drag Race Thailand ที่นำผู้เข้าแข่งขันสุดแซ่บที่รักศิลปะการแต่ง drag หรือการแต่งกายเป็นผู้หญิง มาประชันฝีมือกัน ทั้งเต้น รังสรรค์คอสตูม เดินรันเวย์ และลิปซิงค์ เพื่อหา drag queen ที่ครบเครื่องที่สุด
ทั้งนี้ รายการ Drag Race Thailand ได้รูปแบบการแข่งขันมาจากรายการ RuPaul’s Drag Race ของอเมริกา ซึ่งเดิมทีเป็นรายการนอกกระแสเล็กๆ แต่โด่งดังขึ้นจนเข้าสู่กระแสหลัก ทำให้ปัจจุบันศิลปะการแต่งแดรกเป็นที่รู้จักกว้างขวางยิ่งขึ้น อีกทั้งยังคว้ารางวัล Emmy Award มาได้สำเร็จอีกด้วย
นอกจากความสามารถในแปลงโฉมและเอ็นเตอร์เทนผู้ชมแล้ว อีกแง่มุมหนึ่งของวัฒนธรรมแดรกที่น่าสนใจมากก็คือ ภาษาเฉพาะกลุ่ม ที่อาจทำให้ใครหลายคนที่เคยดูเวอร์ชั่นต้นฉบับได้แต่เกาหัวว่าหมายถึงอะไร
สัปดาห์นี้ เราจะไปดูกันว่า มีสแลงอะไรบ้างที่แดรกควีนใช้กันติดปาก แต่ละคำหมายความอะไร มีที่มาอย่างไร และใช้ยังไงได้บ้าง
Fishy – ละมุนนี
แม้คำนี้ปกติจะหมายถึง มีลักษณะหรือมีกลิ่นเหมือนปลา แต่ถ้าแดรกควีนใช้คำนี้บรรยายใคร ไม่ได้แปลว่าคนนั้นหน้าเหมือนปลาแต่อย่างใด แต่จะหมายถึง เหมือนผู้หญิงมาก ดูไม่ออกเลยว่าเลยว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่ผู้หญิง หรือที่ในวงการเมืองไทยเรียกกันว่า เนียนนี หรือ ละมุนนี (คือ แนบเนียน หรือ ละมุนละไมเหมือนชะนี ซึ่งเป็นคำใช้เรียกผู้หญิงนั่นเอง) ตัวอย่างเช่น She thinks she’s so fishy, but that Adam’s apple is fooling nobody. ก็จะหมายถึง หล่อนคิดว่าตัวเองละมุนนีเว่อร์ แต่ใครเห็นลูกกระเดือกก็ดูออกแล้วปะ
ว่ากันว่าคำนี้มีที่มาจากที่ส่วนสงวนของผู้หญิงมีกลิ่นคล้ายกลิ่นคาวปลา ก็เลยมาใช้เทียบว่าแดรกควีนคนนั้นเหมือนผู้หญิงราวกับมีอวัยวะเพศหญิงจริงๆ จนได้กลิ่นคาวปลานั่นเอง
Read – แซ็ว
ในแวดวงแดรกควีน คำว่า read ที่แปลว่า อ่าน นี้จะใช้หมายถึง แซ็ว หรือขยี้จุดบกพร่องของคนที่เราพูดถึงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผมหรือลักษณะทางกายภาพต่างๆ เช่น เธอนี่เป็นคนผิวผสมเนอะ หน้าสีนึง คออีกสีนึง เป็นต้น คำว่า read นี้ใช้ในทำนองที่แซ็วกันขำๆ หรือกระทบกระเทียบจริงจังก็ได้ เช่น The judges read me for filth for that dress. ก็จะหมายถึง ใส่ชุดนั้นเลยโดนกรรมการอัดยับเลย หรือถ้าเพื่อนพูดอะไรที่เราไม่มั่นใจว่ากำลังด่าหรือชมเรา ก็อาจจะพูดว่า Was that a read? ก็จะแปลว่า เอ๊ะ เมื่อกี๊ด่าฉันหรือเปล่า
สแลงนี้ใช้ในหมู่แดรกควีนในนิวยอร์กมานานแล้ว แต่เพิ่งมาเป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้นเพราะสารคดีเกี่ยวกับแดรกควีนชื่อ Paris is Burning ที่ฉายในปี 1990 และรายการ RuPaul’s Drag Race
Throw shade – แซะ
ถ้าการ read คือการแซ็วซึ่งหน้า การ throw shade ก็คือการแซะ พาดพิง หรือดูแคลนอ้อมๆ ไม่พูดว่าตรงๆ ปกติแล้วมักมีเจตนาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เช่น ถ้าสมมติบริทนีย์ถูกจับได้ว่าลิปซิงค์ ไม่ยอมร้องสด แล้วนักร้องคู่กัดโพสต์รูปลงในอินสตาแกรมลอยๆ ว่า “เราร้องสดทุกรอบนะ มาเช็คไมค์เราได้” อย่างนี้ก็จะถือเป็นการ throw shade เราก็อาจพูดได้ว่า She is throwing shade at Britney. What a shady bitch! ก็จะหมายความว่า อีนี่มันแซะบริทนีย์ ร้ายจริงๆ
สำนวนนี้แปลตรงตัวคือ ทอดเงาใส่ ให้อารมณ์เหมือนการพาดพิง จึงนำมาใช้ในความหมายเช่นนี้ ปัจจุบันเป็นที่นิยมและใช้อย่างกว้างขวางในกระแสหลักจนบรรจุลงพจนานุกรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
T หรือ tea – เรื่องเม้าธ์
T หมายถึง ข้อมูล ความจริง หรือ เรื่องซุบซิบ มาจากคำว่า truth มักใช้เวลาจะนินทาหรือเม้าธ์คนอื่น เช่น ถ้าพูดว่า What’s the T? ก็จะหมายความประมาณว่า ไหนๆ เม้าธ์ซิ เล่าให้เจ๊ฟังซิว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร
แต่ด้วย T พ้องเสียงกับ tea ที่แปลว่า ชา เลยแตกไปเป็นสำนวนอื่นๆ อีก เช่น spill the tea หมายถึง เผยความลับ เม้าธ์เรื่องฉาว เช่น We know you went out with that guy last night. Now, spill the tea. ก็จะหมายถึง รู้นะว่าไปไหนกับผู้ชายมา เม้าธ์มาเดี๋ยวนี้ หรือ hot tea หมายถึง ประเด็นร้อนที่คันปากอยากเม้าธ์ เช่น Gather round! Hot tea is about to be served. ก็จะแปลว่า รวมตัวด่วนค่ะเจ๊ มีประเด็นร้อนมาเม้าธ์ค่า
Gag – สำลักความเริ่ด
ปกติ gag เป็นกริยา หมายถึง สำลัก แต่ถ้าใช้ในวงการแดรกควีน จะหมายถึง อึ้งทึ่งเพราะสิ่งที่ได้เห็นนั้นดีมาก ทำนองว่าสำลักความเริ่ด เช่น Her performance left all the judges gagging. ก็จะแปลว่า การแสดงเริ่ดมากจนกรรมการอึ้ง หรือ ถ้าจะอวดว่าแต่งหน้าได้เป๊ะเว่อร์วัง ก็อาจพูดว่า Gag on how flawless my mug is.
บรรณานุกรม
- https://www.merriam-webster.com/words-at-play/shade
- http://www.businessinsider.com/where-the-expression-throw-shade-comes-from-2015-3
- http://rupaulsdragrace.wikia.com/wiki/Reading_is_Fundamental
- https://www.youtube.com/watch?v=Fl6U6eRnGNA
Fact Box
- คำว่า charisma, uniqueness, nerve, and talent ที่รูพอลชอบพูดบ่อยๆ อันที่จริงแล้วเป็นการเล่นคำ ถ้านำตัวอักษรหน้าของทุกคำมาเรียงกัน จะได้เป็นคำว่า c*nt ซึ่งเป็นคำหยาบ หมายถึง จิ๊มิ
- ส่วน Snatch Game ในรายการของรูพอล มาจากรายการเกมโชว์ Match Game แต่เปลี่ยน match เป็นคำว่า snatch เพราะคำนี้เป็นสแลง แปลว่า จิ๊มิ เช่นกัน