ความรุนแรงในครอบครัวเป็นอีกประเด็นที่น่าห่วงในช่วงที่ผู้คนต้องกักตัวอยู่บ้าน และล่าสุดนี้มูลนิธิในสหราชอาณาจักรอย่างเรฟูจี (Refuge) ที่ช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกทำร้ายจากคนในครอบครัว ได้เปิดเผยว่ามีผู้โทรเข้ามาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิเพิ่มขึ้นถึง 700% ตั้งแต่มีมาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่มูลนิธิในประเทศฝรั่งเศสระบุว่าได้รับอีเมลแจ้งเหตุเพิ่มขึ้นถึง 286% หน่วยงานของรัฐของฝรั่งเศสได้รับแจ้งเหตุเพิ่มขึ้น 30% และตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงกรณีที่มีการแจ้งเหตุเท่านั้น
นางปรีติ ปาเตล (Priti Patel) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ประเทศอังกฤษ ยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลือกับผู้หญิงทุกคนที่ถูกทำร้ายจากคนในครอบครัว โดยรัฐบาลอังกฤษจะเผยแพร่แคมเปญ #YouAreNotAlone เป็นพื้นที่ให้ผู้คนได้มาส่งกำลังใจและแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับเหยื่อ
และในทางปฏิบัติ รัฐบาลอังกฤษร่วมกับมูลนิธิและเครือโรงแรมต่างๆ ในการจัดหาที่พักพิงสำหรับผู้หญิงและเด็กที่หลบหนีจากการถูกทำร้ายในบ้านของตัวเอง ประเทศอื่นๆ เช่นฝรั่งเศส อิตาลี หรือเบลเยียม ก็มีความช่วยเหลือจากรัฐบาลในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ศูนย์รับแจ้งเหตุในฝรั่งเศสระบุว่า การแจ้งเหตุในช่วงเวลานี้ยากขึ้นกว่าแต่ก่อน เนื่องจากเหยื่อแทบไม่มีเวลาที่ได้อยู่คนเดียว เพราะผู้ก่อเหตุ (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคู่รักของเธอ) มักจะอยู่บ้านตลอดเวลา ร้านขายยาจึงกลายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ศูนย์พยายามเข้าไปประสานงานด้วย เพื่อให้เป็นผู้ให้คำแนะนำเบื้องต้นแก่เหยื่อความรุนแรงในครอบครัว
ขณะที่เกาะคานารีประเทศสเปน สถาบันความเท่าเทียมได้ออกแคมเปญ Mascarilla-19 ที่เป็นคล้ายๆ โค้ดลับสำหรับผู้หญิงที่ต้องการแจ้งว่าตัวเองถูกคนที่อยู่ร่วมด้วยทำร้าย ผ่านร้านยาที่พวกเธอ (สามารถใช้เป็นข้ออ้างว่า) ไปซื้อหน้ากากอนามัย ร้านยาจะเป็นผู้แจ้งไปยังศูนย์ช่วยเหลือให้
ที่สำคัญเมื่อย้อนไปยังตัวเลขการแจ้งเหตุในย่อหน้าแรก ก็ยิ่งน่าตกใจว่ายังมีเหยื่อที่ไม่สามารถแจ้งได้อีกเป็นจำนวนเท่าใด และความช่วยเหลือจะสามารถไปถึงพวกเธอหรือเขาเหล่านั้นได้อย่างไรบ้าง?
อ้างอิง:
https://www.bbc.com/news/world-europe-52216966
https://www.france24.com/en/20200410-french-domestic-violence-cases-soar-during-coronavirus-lockdown
Tags: domestic violence, ความรุนแรงในครอบครัว, โควิด-19