“ฮึบไว้ อย่าร้องไห้ ไม่อายคนอื่นหรือไง”

ตั้งแต่เด็กเรามักถูกปลอบใจด้วยประโยคมากมาย แต่เมื่อโตพอเข้าใจความเจ็บปวดในชีวิต เราก็ยังถูกปลอบด้วยประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมา เพียงเพราะการ ‘ร้องไห้’ ถูกตราหน้าเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ ทั้งที่ความเป็นจริง ความอ่อนแอเป็นเรื่องปกติของมนุษย์

ในแง่ของหลักวิทยาศาสตร์ งานวิจัยจากจิตแพทย์ชี้ว่า การร้องไห้ถือเป็นตัวช่วยปลดปล่อยความเศร้า ระบายความขุ่นมัวในใจ ทั้งยังเป็นการผ่อนคลายระบบประสาทส่วนพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic Nervous System) ที่ช่วยลดความตึงเครียดของร่างกายให้มีเวลาฟื้นฟู ส่วนด้านอารมณ์และความรู้สึก การได้ร้องไห้ช่วยทำให้รับรู้ว่า เราก็เป็นคนธรรมดาที่เสียใจได้ ทุกข์ใจเป็น แต่ก็พร้อมเข้าใจความเป็นไป และยินดีก้าวต่อไปข้างหน้า

เพื่อให้ผู้คนกล้าระบายความโศกเศร้า ด้วยการร้องไห้ออกมาได้โดยไม่ต้องกังวลสายตาผู้อื่น Crybaby_molly ‘มอลลี่’ – นิสา ศรีคำดี ศิลปินหญิงสายงานอาร์ตทอย (Art Toy) จึงได้ไอเดียจัดนิทรรศการศิลปะภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Cry Me A River by Crybaby Molly’ ร่วมกับแกลเลอรี 333Anywhere โดยหยิบตัวคาแรกเตอร์การ์ตูนเด็กหญิงที่มีชื่อว่า ‘Cry Baby’ มาเป็นตัวชูโรง

นอกจากจะได้ชมผลงานศิลปะสุดน่ารักภายในงานแล้ว นิทรรศการ Cry Me A River ยังเป็นเครื่องมือบำบัดความทุกข์ชั้นดี ขณะเดียวกันยังเป็นเพื่อนโอบกอด เคียงข้าง และบอกกับคุณว่า “ร้องไห้บ้างก็ได้ ไม่เป็นไรหรอก”

ผลงาน Big Girl Cry

สิ่งแรกที่สะดุดตาในนิทรรศการนี้ คือคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูน Cry Baby ในสระขนาดใหญ่ ที่เติมเต็มด้วยลูกบอลพลาสติกใสจำนวนมาก โดยจุดนี้ถือเป็นกิมมิกสำคัญ เพราะผู้เข้าร่วมงานสามารถเขียนเรื่องระบายความทุกข์ใส่กระดาษ และนำไปยัดใส่ไว้ในลูกบอลพลาสติก (ลูกบอลและกระดาษได้จากการซื้อโปสต์การ์ดภายในงาน) จากนั้นก็นำไปปล่อยทิ้งลงสู่สระตามเดิม เสมือนได้ปลดปล่อยความเสียใจทิ้งไปกับแม่น้ำตามคอนเซ็ปต์ Cry Me A River

นอกจากนี้ เรื่องราวความทุกข์ทั้งหมดที่ทิ้งลงในสระ มอลลี่จะหยิบนำมาอ่านและคัดเลือก เพื่อเป็นแรงบันดาลใจการปั้นตัวการ์ตูน Cry Baby รุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน สำหรับส่งมอบกลับไปเป็นกำลังใจแก่ผู้โชคดีที่ได้รับการคัดเลือกอีกที

แม้ Cry Me A River จะเป็นงานนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตของมอลลี่ แต่ตัวการ์ตูน Cry Baby มีการพัฒนาคาแรกเตอร์มาตั้งแต่ปี 2017 หรือเกือบ 6 ปีมาแล้ว โดยในช่วงแรก มอลลี่ออกแบบคาแรกเตอร์กระต่ายที่มีชื่อว่า Rabbit Cry ก่อนจะเปลี่ยนดีไซน์ออกมาเป็นรูปแบบที่เห็นในปัจจุบัน

ภายในงาน นอกจากผลงานหุ่นปั้น (Sculpture) สไตล์อาร์ตทอยหลากขนาด หลากสีสัน ผู้เข้าชมยังจะได้พบกับผลงานภาพวาดสเก็ตช์ (Figure Sketching) และเพนติ้ง (Painting) ลักษณะสามมิติอีกด้วย ตามจุดประสงค์ของมอลลี่ที่ต้องการนำคาแรกเตอร์ Cry Baby เข้าสู่โลกเมตาเวิร์สในอนาคต

ผลงานอาร์ตทอยที่มีชื่อว่า The Doll – เด็กขี้แง ทำจากวัสดุไวนิลทั้งตัว ขนาดความสูง 14 ซม. นำมาจำหน่ายในงานจำกัดเพียง 200 ตัว หากใครสนใจสามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านทาง 333Anywhere ราคา 4,900 บาท

หุ่นเด็กหญิงน้ำตานองความสูงขนาดเท่าคนจริงนี้มีชื่อว่า Naked Brown เป็นคาแรกเตอร์จากชุดซีรีส์ Cry Baby ที่มอลลี่ออกแบบเป็นลำดับต้นๆ และเมื่อผนวกกับพื้นหลังสีขาว ยิ่งชวนให้รู้สึกถึงความอบอุ่น รวมถึงความบริสุทธิ์ของเด็กน้อยที่กล้าร้องไห้ออกมาแบบไม่ต้องอายใคร

ผลงาน Clean Your Soul, Throw Your Pain

อีกจุดหนึ่งภายในงานที่น่าสนใจ ที่ภายนอกอาจดูเหมือนตะกร้าทิ้งขยะธรรมดา แต่หากพิจารณาข้อความบนป้ายดีๆ จะพบสิ่งที่ศิลปินต้องการสื่อ คือการได้ร้องไห้ออกมาไม่ต่างจากการชำระล้างจิตใจ ส่วนทิชชูที่ซับน้ำตาก็ไม่ต่างจากการโยนทิ้งความเจ็บปวดออกไป

ภายในงานยังมีจอโปรเจกเตอร์ฉายภาพสเก็ตช์ต้นแบบของคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูน Cry Baby ที่วาดขึ้นด้วยดินสอ นอกจากนี้ มอลลี่ยังเตรียมต่อยอดสร้างคาเเรกเตอร์ใหม่อีก 2 ตัว ที่มีชื่อว่า Fix Boy และ Broken Girl

Fact Box

ผู้ที่สนใจเยี่ยมชมนิทรรศการ Cry Me a River by Crybaby Molly อาจต้องรีบหน่อย เพราะเปิดให้เข้าชมและถ่ายรูปได้ถึงวันที่ 29 พฤษภาคม 2565 นี้ ที่ 333 Anywhere ArtGallery, Warehouse โกดังที่ 5 ซอยเจริญกรุง 30 ตั้งแต่เวลา 11.00-18.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์) สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 333Anywhere

Tags: , ,