นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย โดยในวันนี้  (2 เม.ย.) พบผู้ป่วยใหม่ 104 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมเป็น 1,875 ราย รักษาหายแล้ว 505 รายสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 15 ราย 

โดยผู้ป่วยที่เสียชีวิต 3 ราย รายแรก เป็นชายไทยอายุ 57 ปี เดินทางจากสุไหงโกลกไปปากีสถานเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ และเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 มีนาคม และกลับสุไหงโกลกโดยรถไฟเมื่อวันที่ 30 มีนาคม เมื่อเวลา 15.00 น. และเสียชีวิตบนรถไฟระหว่างวิ่งผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา

สำหรับรายที่สอง เป็นชายไทยอายุ 77 ปี ประวัติเคยสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ และเริ่มป่วยเมื่อวันที่ 18 มีนาคม มีไข้ ไอ และเจ็บคอ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดปัตตานี แต่อาการแย่ลง และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา

รายที่สามเป็นชายไทยอายุ 55  ปี มีอาชีพขับรถสาธารณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ได้เดินทางไปจังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม และเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 16 มีนาคม โดยมีการไข้ อ่อนเพลีย แต่ไม่มีน้ำมูก เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 18 มีนาคม และอาการแย่ลงเมื่อวัน 21 มีนาคม จึงเข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 เมษายน 

นายแพทย์ทวีศิลป์ยังเปิดเผยอีกว่าแนวโน้มการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ตอนนี้ในส่วนของกรุงเทพมหานคร รวมทั้งนนทบุรี มีสถานการณ์ที่ดีขึ้น ส่วนในต่างจังหวัดยังมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น โดยในหลายจังหวัดเริ่มมีมาตรการที่เข้มมากขึ้น ซึ่งประชาชนต้องให้ความร่วมมือแล้วตัวเลขการติดเชื้อในแต่ละวันจะเพิ่มขึ้นไม่ถึงหลักร้อย

และอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 คือผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ทั้งที่อาศัยอยู่เป็นประจำ และมีการย้ายถิ่น เชื่อมโยงกับชาติจากยุโรปเป็นหลัก และคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศอีกส่วนหนึ่ง

นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุด้วยว่า หลังจากมีการประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โดยพล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและประธาน ศบค. ได้มีมติให้ใช้มาตรการเข้มชะลอการเดินทางของของคนที่จะเข้ามาในประเทศไทย ทั้งคนต่างชาติและคนไทย ยกเว้นคนที่ขออนุญาตไว้ก่อนแล้ว และคนที่มีความจำเป็นต้องกลับมายังประเทศไทย ให้ติดต่อสถานทูต และปฏิบัติตามคำแนะนำของสถานทูตอย่างเข้มงวด โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 15 เมษายน

Tags: ,