นับเป็นข่าวดีที่สำคัญท่ามกลางความตึงเครียดในวิกฤตระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่แผ่ขยายไปทั่วโลก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จีนประกาศยกเลิกการปิดเมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยจะมีผลในวันที่ 8 เมษายน นี้ หลังจากที่สามารถลดการติดเชื้อรายใหม่ในมณฑลหูเป่ยได้เป็นศูนย์ เป็นเวลา 5 วันต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม จากที่เคยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่นับพันคนต่อวันในเดือนกุมภาพันธ์ นับเป็นเวลากว่า 2 เดือนตั้งแต่เมืองหลวงแห่งมณฑลหูเป่ยถูกปิดตายจากโลกภายนอกเมื่อวันที่ 23 มกราคม
ฝ่ายบริหารของมณฑลหูเป่ยได้ประกาศลงในเว็บไซต์เว่ยป๋อว่า ตั้งแต่วันพุธ (25 มีนาคม) เป็นต้นไป ประชาชนชาวมณฑลหูเป่ย ยกเว้นชาวเมืองอู่ฮั่น จะได้รับอนุญาตให้เดินทางออกจากหูเป่ยได้ ถ้ามีคิวร์โค้ดสีเขียวในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งคิวอาร์โค้ดดังกล่าวเป็นสิ่งที่ฝ่ายบริหารของหูเป่ยกำหนดให้เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงสถานะสุขภาพของประชาชน ประกอบด้วย 3 สี คือ แดง เหลือง และเขียว
สีต่างๆ ของคิวอาร์โค้ดจะเป็นไปตามข้อมูลในฐานข้อมูลการควบคุมการระบาดของมณฑล ประชาชนที่ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้ว ผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อหรือไม่แสดงอาการ หรือผู้ที่มีอาการไข้ จะได้รับคิวอาร์โค้ดสีแดง ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับเชื้อจะได้รับคิวอาร์โค้ดสีเหลือง และผู้ที่ไม่มีบันทึกในฐานข้อมูลได้รับคิวอาร์โค้ดสีเขียว ซึ่งหมาความว่าเป็นผู้มีสุขภาพดีและปลอดภัยต่อการเดินทาง
โดยมาตรการดังกล่าวนี้จะขยายไปใช้กับประชาชนชาวอูฮั่นในวันที่ 8 เมษายนนี้
อย่างไรก็ตาม ประชาชนจากมณฑลอื่นในประเทศจีนจะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามณฑลหูเป่ยและเมืองอู่ฮั่น โดยที่ไม่ต้องยื่นเอกสารใดประกอบ หากพวกเขามีคิวอาร์โค้ดสีเขียวเช่นกัน
นอกจากนี้ ประกาศยังบอกด้วยว่า ภาคธุรกิจในอู่ฮั่นจะกลับมาดำเนินการอีกครั้ง โดยอยู่บนฐานของการประเมินความเสี่ยง ขณะที่โรงเรียนและมหาวิทยาลัยกำลังอยู่ในการพิจารณาวันเปิดทำการ
สำหรับบรรยากาศทั่วไปของเมืองอู่ฮั่น ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่แล้วเป็นต้นมา ประชาชนบางส่วนได้เริ่มกลับเข้าสู่ชีวิตปกติแล้ว ทางการอู่ฮั่นประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ประชาชนที่มีคิวอาร์โค้ดสีเขียวและจดหมายจากนายจ้างจะได้รับอนุญาตให้กลับเข้าทำงานได้ แต่ยังต้องวัดอุณหภูมิเมื่อกลับถึงบ้าน จุดตรวจทั้งหมดในเมืองจะถูกยกเลิก และระบบขนส่งสาธารณะจะกลับมาทำงานอีกครั้ง บริการส่งอาหารถึงบ้านก็กลับมาให้บริการอีกครั้งตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่มา
ภาพ: STR / AFP
Tags: โควิด-19
