‘Yellow’ เป็นเพลงประจำตัวของฉัน แม้จะรู้ว่าคำว่า Yellow หรือสีเหลืองนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ ไม่ใช่สีโปรดของคริส มาร์ติน หรือสมาชิกคนใดในวง แต่เพราะมันเป็นคำที่ลงห้องเพลง จังหวะและเมโลดี้พอดิบพอดี คริส มาร์ตินเคยให้สัมภาษณ์ไว้เช่นนั้น คุณลองร้องเพลงเยลโลว์แล้วแทนคำๆ นี้ ด้วยสีอื่นดูสิ เพอร์เพิล ออเรนจ์ หรือกรีนมันไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ฉันลองมาแล้ว

หรือบางทีมันอาจจะมีความหมายส่วนตัว เพียงแต่คริส มาร์ติน ไม่อยากเปิดเผยให้เรารู้เท่านั้นเอง มันอาจจะเป็นเรื่องราวของเขากับใครสักคน สีส่วนตัวของเขาเมื่อคิดถึงใครคนใดคนหนึ่ง สีผมของเธอคนนั้น หรือแดดสีเหลืองในยามเช้าวันหนึ่งกับใครสักคน เยลโลว์สำหรับฉันคือสีของดอกกุหลาบพันธุ์จูเลียต กุหลาบต้นแรกที่ฉันปลูก และไม่เคยที่มันจะไม่ออกดอกให้ฉันชื่นชม แม้จะถูกเพลี้ยรุมเร้าจนต้นแคระแกร็นลงแค่ไหนก็ตาม

แล้วเยลโลว์ของคุณล่ะคืออะไร

อัลบั้ม Everyday Life อัลบั้มล่าสุดของวงโคลด์เพลย์หลังจากที่ห่างหายไปนาน เริ่มต้นด้วยภาพโปสเตอร์สีขาวดำเก่าคร่ำครึ ถูกติดไปทั่วเมืองในหลายประเทศ ทั้งเซาเปาลู เบอร์ลิน ฮ่องกง และซิดนีย์ ไม่นานจากนั้นแฟนเพลงส่วนหนึ่งก็ได้รับอีเมลจากวงปรากฏข้อความในรูปแบบจดหมายบอกเล่าถึงอัลบั้มใหม่ที่กำลังจะมาถึงภายใต้ชื่อ Everyday Life ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ Sunrise และ Sunset โดยจะวางจำหน่าวยในวันที่ 22 พฤศจิกายน

และถ้าเราสังเกตในภาพซึ่งกระจายไปทั่วโลกและเป็นภาพปกอัลบั้มใหม่นี้จะพบว่า หนึ่งในสมาชิกที่หน้าตาไม่คุ้นที่ปรากฏอยู่ในภาพนั้นก็คือ นักปรัชญาชาวเยอรมัน ฟรีดริช นิตเช่ ผู้ซึ่งเคยประกาศว่าพระเจ้าตายแล้วและเชื่อในความเป็นอภิมนุษย์ ในขณะที่บนโปสเตอร์นั้น เขียนกำกับวันที่ไ้ว้ว่า 22 พฤศจิกายน 1919 หรือ 100 ปีก่อน ที่จริง วันนั้นมันคือวันที่โลกเกิดเหตุการณ์สุริยุปราคาที่ยาวนานที่สุดในรอบ 250 ปี

และหากมองที่ชื่ออัลบั้มทั้งสองส่วน พระอาทิตย์ขึ้น (sunrise) และพระอาทิตย์ตก (sunset) ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นทุกๆ วัน (everyday life) วันที่ 22 พฤศจิกายน 1919 คงไม่อาจเรียกว่าวันธรรมดาที่ทุกสิ่งเกิดขึ้นเป็นปกติอย่างทุกวันได้เพราะวันนั้นเราไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกแต่โลกกลับอยู่ในความมืดมนของสุริยคราส

23 ตุลาคม ใครสักคนที่ยังคงอ่านหนังสือพิมพ์อยู่จะสังเกตเห็นว่าในหน้าโฆษณาของหนังสือพิมพ์  Express and Echo ของเมืองเอ็กซิเตอร์บ้านเกิดของคริส มาร์ติน และหนังสือพิมพ์ Daily Echo ของเมืองเซาท์แฮมตัน บ้านเกิดของมือกลอง วิล แชมป์เปียน ซึ่งเต็มไปด้วยประกาศต่างๆ นานา เป็นกรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆ หนึ่งในกรอบเล็กๆ นั้นมีประกาศชื่ออัลบั้มใหม่ของลงโคลด์เพลย์ พร้อมรายชื่อเพลง 18 เพลงปรากฏอยู่

24 ตุลาคม โคลด์เพลย์เพลงปล่อยซิงเกิลแรกทางยูทูบ  ‘Orphans’ เพลงที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายดนตรีแอฟริกัน ใครสักคนเล่าว่าเพลงนี้กล่าวถึงเด็กหญิงที่ชื่อโรซาลีมและพ่อของเธอที่เสียชีวิตในเหตุระเบิดในกรุงดามัสกัส ในสงครามซีเรีย ปี 2018 เหมือนที่เพลงขึ้นต้นว่า ‘Boom Boom Ka Buba De Ka’ หากเป็นเช่นนั้นจริงฉันคิดว่าเพลง ‘Daddy’ ที่เพิ่งปล่อยออกมาล่าสุดก็คงหมายถึงพ่อของเธอ

บนปกซิงเกิลนี้มีอักษรอารบิกซึ่งมีความหมายว่ารักและสันติ’ (peace and love) ปรากฏอยู่ เช่นเดียวกันกับซิงเกิลที่สอง Arabesque และบนปกอัลบั้มนอกจากจะมีคำว่า Everyday Life แล้ว ยังมีคำเขียนด้วยอักษรอารบิกซึ่งแปลความหมายได้ว่าบุตรของอดัม’ (Bani Adam หรือ The Children of Adam) อันหมายถึงมนุษย์นั่นเอง

Bani Adam ยังเป็นชื่อเพลงในอัลบั้มนี้อีกด้วย ว่ากันว่าคริส มาร์ติน ได้แรงบันดาลใจมาจากบทกวีชื่อเดียวกันของซาดิ ชิราซี (Saadi Shirazi) นักกวีชาวอิหร่าน ซึ่งครั้งหนึ่งบารัก โอบามา ก็เคยนำเอาบทกวีชิ้นนี้เป็นสารกล่าวสวัสดีปีใหม่ในปี 2009 บทกวีอันมีความหมายที่ลึกซึ้งในการเป็นมนุษย์และการอยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้

คริส มาร์ติน เป็นศิลปินอีกคนหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลทางความคิดมาจากลัทธิซูฟี ที่เน้นความเชื่อด้านจิตวิญญาณของศาสนาอิสลาม และบทกวีของรูมี (จาอาล อัล ดิน) นักเทววิทยา หนึ่งในตัวแทนของลัทธิซูฟี คือสิ่งที่ช่วยให้เขาเดินทางผ่านความเจ็บปวดและทุกข์ยากมาได้เมื่อครั้งที่เลิกรากับอดีตภรรยา เกว็นเน็ธ พัลโทรว์ โดยเฉพาะบทกวีที่ชื่อ The Guest House ของรูมี

22 พฤศจิกายนนี้ โคลด์เพลย์ประกาศแสดงคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มที่เมืองอัมมาน เมืองหลวงของประเทศจอร์แดน ดินแดนที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม ศาสนา ศิลปวิทยาการ และอยู่ (เกือบๆ) ตรงกลางใจโลก โดยจะแสดงสองรอบ รอบแรกพระอาทิตย์ขึ้นเวลา 6 โมงเช้าตามเวลาประเทศจอร์แดน กับการเล่นเพลงในพาร์ทแรก Sunrise ของอัลบั้ม Everyday Life และอีกรอบพระอาทิตย์ตกเวลา 6 โมงเย็นตามเวลาประเทศจอร์แดน กับการเล่นเพลงในพาร์ทที่สอง Sunset ของอัลบั้มนี้

การแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้ อาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของอัลบั้มนี้ เพราะทางวงเพิ่งจะประกาศว่า อัลบั้มนี้จะไม่มีการออกทัวร์คอนเสิร์ตใดๆ เนื่องด้วยการทัวร์คอนเสิร์ตนั้นเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างคาร์บอน อันเป็นตัวการที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ปัญหาใหญ่ที่มวลมนุษยชาติกำลังเผชิญอยู่ เว้นเสียแต่ว่าจะมีเทคโนโลยีหรือวิธีการใดที่จะทำให้การทัวร์คอนเสิร์ตนั้นไม่สร้างคาร์บอน (Carbon Neutral) โคลด์เพลย์ก็อาจจะกลับมาทัวร์คอนเสิร์ตอีก

ผมหวังอยากจะมีคอนเสิร์ตที่ไม่มีการใช้พลาสติก ใช้ระบบไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ แต่สุดท้ายการเดินทางโดยเฉพาะเครื่องบินก็ทำใ้ห้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอยู่ดี เราออกทัวร์มามากแล้ว เราได้ให้ความสุขแก่ผู้คนมามากมายแล้ว ครั้งนี้เป็นการที่เราจะให้กลับคืนแก่โลกบ้าง โดยการไม่ออกทัวร์คริส มาร์ติน กล่าว

คอนเสิร์ตที่จอร์แดนในครั้งนี้โคลด์เพลย์ร่วมมือกับยูทูบเพื่อทำการเผยแพร่สดให้ผู้คนทั่วโลกได้ดูฟรี

ในอัลบั้ม Everyday Life นี้เต็มไปด้วยเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามความรุนแรงทางการเมืองความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในโลกทั้งเรื่องปืนโลกร้อนการเกลียดชังกันด้วยเรื่องเชื้อชาติศาสนาในขณะเดียวกันก็ยังเต็มไปด้วยความหวังด้วยความศรัทธาความเชื่อศาสนาความรักในรูปแบบเพื่อนมนุษย์ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันดังเช่นในกวีของซาดิชิราซีและการเชื่อในความเป็นมนุษย์มากกว่าการกำหนดโดยพระเจ้าดังเช่นนิตเช่

ความรุนแรงโหดร้ายเหล่านี้ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นทุกๆ วันเหมือนการมีพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก และเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้าโลกใบนี้ไม่ว่าในปัจจุบัน หรือร้อยปีก่อน มนุษย์ยังคงเจ็บปวดจากมนุษย์ด้วยกันเองเหมือนดังเช่นในบทกวี Bani Adam ของซาดิ ชิราซี และหากจะมีวันที่ไม่ธรรมดาเกิดขึ้น วันที่ไม่มีพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก สำหรับโคลด์เพลย์มันก็คงจะเป็นวันที่มนุษย์ไม่เข่นฆ่าหรือทำร้ายกันเองไม่ว่าในนามแห่งเชื้อชาติ ศาสนา การเมือง สิ่งแวดล้อมฯลฯ แต่เต็มไปด้วยความเรียบง่ายของความรักและสันติ

อ้างอิง

https://stepfeed.com/coldplay-is-into-arabic-now-their-new-album-is-proof-along-with-a-jordan-act-4154

https://www.bbc.com/news/entertainment-arts-50490700

https://www.vulture.com/2019/10/coldplay-new-album-everyday-life-sunrise-sunset.html

https://www.jordantimes.com/news/local/coldplay-selects-jordan-eighth-album-release

ภาพ : Coldplay, Steve Marcus/Reuters

Tags: , , ,