เมื่อเราพูดถึง “ขนมเปี๊ยะ” ภาพจำของคนส่วนใหญ่น่าจะเป็นทรงกลม จนเมื่อเราได้ไปเห็น “ขนมเปี๊ยะแท่งยาวของ “จินตนา” ขนมเปี๊ยะไส้หมูหยอง ซึ่งต้องบอกว่าเป็นต้นตำรับขนมเปี๊ยะที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการเปิดขายในย่านเจริญนครมายาวนานเกือบ 40 ปี
สารภาพว่าเราเคยกินขนมเปี๊ยะของแบรนด์นี้ แต่เรากลับจำตราสินค้าไม่ได้เลย เนื่องจากในรุ่นของคุณแม่จินตนา โล่ดำรงรัตน์ แทบไม่ได้ทำการตลาดและแพ็คเกจจิงใดๆ เลย จนกระทั่งรุ่นลูกมาช่วยทำแพ็คเกจจิงและการตลาดผ่านโลกออนไลน์ โดยเฉพาะช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา ทำให้ขนมเปี๊ยะไส้หมูหยองถูกส่งถึงมือคนกินแบบถึงหน้าประตูบ้านผ่านการเดลิเวอรี
ย้อนไปเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน คุณแม่จินตนาเดินทางไปยังจังหวัดภูเก็ตเพื่อช่วยอาแปะ หรือคุณลุงที่เปิดร้านขายขนมจันอับ หรือขนมแต่งงาน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่ขายดีจนต้องหาคนช่วยทำ หลังจากนั่งรถทัวร์ขึ้นลงระหว่างกรุงเทพฯและภูเก็ตในช่วงเทศกาลทุกปี ทำให้คุณแม่ได้วิชาทำขนมมาจากอาแปะ ด้วยความที่อาแปะแก่มากแล้ว และลูกๆ ของแกก็หันไปทำอาชีพอื่นก็เลยไม่มีใครสืบทอดวิชา คุณแม่เองได้สัมผัสกับการทำร้านขนมจันอับก็คิดว่าตัวเองทำไม่ไหวแน่นอน
คุณแม่จินตนา โล่ดำรงรัตน์
“งานของอาแปะหนักมาก ต้องกวนถั่วต้องแรงผู้ชาย ใช้ไม้พายทำ ทำไม่ไหว เลยบอกแปะขอแต่สูตรแป้งนะ เขาบอกเอาไปให้หมดเลย เราตอบหนูทำไม่ไหว งานหนักขนาดนี้ ทำคนเดียวไม่มีใครช่วย แปะบอกว่าให้เอาไปให้หมดยกของให้ด้วย สุดท้ายบอกแปะไปว่าขอสูตรแป้งแล้วจะดัดแปลงเอาหมูหยองมาใส่ จำได้ว่าแปะยังบอกว่า มึงจะบ้าเหรอ ใครจะกินของมึง” คุณแม่เล่าถึงช่วงเวลาที่เธอขอสูตรแป้งขนมเปี๊ยะจากอาแปะ”
ด้วยความเป็นคนชอบกินหมูหยอง และเธอเริ่มต้นการทำงานเบเกอรีด้วยการทำขนมปังปอนด์ขาย เลยชอบเอาขนมปังปอนด์มาทาน้ำพริกเผาแล้วโรยด้วยหมูหยองกิน เธอว่าอร่อยดีเลยคิดลองเอาแป้งขนมเปี๊ยะมาทำดูบ้าง ซึ่งเราว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ในสมัยนั้น หรือแม้กระทั่งสมัยนี้ก็ตาม เพราะใครก็รู้ว่าขนมเปี๊ยะมีทรงกลมและทำไส้ถั่วไส้เผือกเป็นหลัก แม้ว่าจะได้สูตรแป้งของอาแปะ แต่คุณแม่พบว่าไส้หมูหยองพริกเผาของเธอไม่สามารถห่อเป็นทรงกลมแบบพิมพ์นิยมได้
“ทำเป็นแท่งเพราะเราห่อหมูหยองแบบกลมไม่ได้ ถ้าเป็นถั่วจะบีบได้ กลิ้งเป็นทรงกลมแล้วห่อได้ ห่อไม่ได้เลยต้องพับเอา เคยลองทำกลมแล้วอบมาไม่ดีไม่สวย ลูกค้าก็บ่นว่าไม่น่ากิน ลองขายดูแล้วด้วย ลูกค้าไม่ตอบเรารีบปรับในอาทิตย์นั้นเลย เราก็เปลี่ยนจากกลมเลย เอ้าลองดู ลูกค้าตอบรับว่าแบบนี้ดี คล้ายพาย ตอนแรกให้ลูกค้ากินมีแต่คนบอกว่าเหมือนขนมพาย เธอจะเรียกขนมเปี๊ยะไม่ได้ ชั้นทำจากแป้งขนมเปี๊ยะ จะให้เรียกขนมพาย แป้งมันต่างกัน และเราก็ไม่ได้ใช้เนย ไข่ก็มีแค่ทาผิว”
สมัยก่อนแรกๆ คุณแม่บอกว่าเธอขายชิ้นละ 3 บาท ทุกวันนี้ยังมีลูกค้าที่เคยซื้อราคานั้นก็ยังมาอุดหนุนกันอยู่ เธอเคยหิ้วจากเจริญนครไปส่งถึงสะพานควายมาแล้ว เธอบอกว่าลูกค้าสั่งร้อยกว่าบาท ในสมัยนั้นถือว่าเยอะ เธอก็เลยต้องหิ้วไปส่งด้วยตัวเอง ความน่าสนใจคือ จินตนา ไม่ได้ทำสินค้าอย่างอื่นเลย ทำเฉพาะขนมเปี๊ยะไส้หมูหยองขายมาเกิน 35 ปี ทำคนเดียวมาตลอด ไม่มีลูกจ้าง จนลูกๆ ลาออกจากงานมาทำร้านขนมเปี๊ยะต่อจากคุณแม่
ทุกวันคุณแม่จินตนาจะตื่นมานวดแป้งด้วยมือ เนื่องจากเครื่องตีมือยังทำให้ได้แป้งที่หนืดแบบที่ต้องการไม่ได้ ทำให้ใช้แรงเยอะ ต่อวันจึงทำได้ไม่ได้มาก ทำไปอบไป แรกเริ่มเตี่ย หรือคุณพ่อของเธอรับหน้าที่ทำหมูหยอง แต่เมื่อคุณพ่อเสียไปเธอก็ใช้หมูหยองของเจ้าประจำมาโดยตลอด เช่นเดียวกับน้ำพริกเผาที่ใช้ของแม่ประนอม
“แป้งสูตรของแปะจริงๆ ไม่ต่างจากเจ้าอื่น เพียงแต่ว่าเราอบแห้ง ปกติไส้ถั่วมีน้ำมันซึมออกมาที่แป้ง แป้งกรอบได้วันสองวันแล้วนิ่ม แต่เราไม่มีน้ำมัน ไม่กรอบมาก เป็นแค่แป้งอบ ไม่มีผงกรอบผงฟู เป็นแค่แป้งขนมเปี๊ยะ เราทำทีละชิ้น เรานวดหมดแล้วเด็ดเหมือนลูกชิ้นเป็นก้อน ด้วยความเคยชินก็ได้ชิ้นเท่ากัน แล้วกลิ้งแป้งเป็นแผ่น เอาน้ำพริกเผาทา เราใช้แม่ประนอมจนได้นาฬิกามาเนี่ยะ เจ้าของยังมาซื้อกับเราเลย เห็นนาฬิกาบอกว่าแสดงว่าซื้อกันมานานมาก 5555”
ด้วยความสงสัยว่า ขนมเปี๊ยะไม่ใช้สารกันบูด แต่เมื่อมีน้ำพริกเผาที่มีน้ำมัน ทำไมถึงอยู่ในอุณหภูมิห้องได้นานเป็นสัปดาห์ และอยู่ในตู้เย็นได้เป็นเดือน คุณแม่ตอบว่า สูตรขนมเปี๊ยะของร้านทำมาแห้งมาก โดยเลือกใช้น้ำพริกเผาแบบไม่มีน้ำมัน เธอบอกว่าน้ำพริกเผาจริงๆ แล้วมี 2 แบบ ตอนแรกเธอก็ไม่เข้าใจสั่งซื้อแบบขวดปกติ แล้วนำเอามาเทน้ำมันทิ้ง ซึ่งเพิ่มต้นทุน จนมารู้ว่ามีสูตรแบบไม่มีน้ำมัน เลยเลือกใช้แบบหลังแทน
ส่วนขนมเปี๊ยะไส้ไก่หยองเริ่มทำมาได้ประมาณ 1 ปี เนื่องจากเพื่อนมุสลิมขอมา เช่นเดียวกับแพ็คเกจจิงและไลน์เบเกอรี่ที่เพิ่มเข้ามาหลังจากที่ลูกสาวทั้ง 2 คน เจน – ชนาภา โล่ดำรงรัตน์ ลูกสาวคนโต และบัว – ฐิติภา โล่ดำรงรัตน์ ลูกสาวคนเล็ก ตัดสินใจลาออกจากงานประจำกลับมาช่วยคุณแม่จินตนาทำขนมเปี๊ยะ
“เราเริ่มพูดกับแม่ว่าถ้ายังไม่ลาออกจากงานวันนี้ รอแก่ค่อยมาทำขนมเปี๊ยะ จะทำไม่ได้ แม่เองก็แก่ตัวลงทุกวัน มีช่วงหนึ่งแม่เข้าโรงพยาบาลไปเกือบเดือนเพราะบ้านหมุน ถ้าไม่ออกจากงานมาทำกันก็จะไม่มีใครสอนแล้ว ตอนนี้แม่ยังมีกำลังทำไมไม่สอนตอนนี้ ต่อไปก็เป็นอาชีพของเรา เรามีหน้าร้านของตัวเองทำไมไม่ทำต่อ” เจน พี่สาวคนโตพูดถึงการเริ่มกลับมาสานต่อกิจการ
แน่นอนว่าการกลับมาของสองพี่น้องไม่ใช่การตามรอยแม่ทั้งหมด พวกเธอนำเอาสิ่งที่คุณแม่คิดว่าไม่จำเป็นมาทำให้ดีขึ้น หลังจากบัวได้เข้าร่วมโครงการ SME ต่อยอดธุรกิจ ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เธอสร้างแบรนด์ใหม่หมด จากกล่องกระดาษสีขาวไม่มียี่ห้อ เธอเริ่มใส่โลโก้และทำแพ็คเกจจิงให้ลูกค้าจดจำตราสินค้าได้ รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มเดลิเวอรีที่จินตนาเริ่มจริงจังในวันที่ทุกคนต้องอยู่บ้านเพราะโควิด-19 ส่วนเจนก็เป็นคนชอบกินและทำเบเกอรีอยู่แล้ว จึงเริ่มลงคอร์สพื้นฐานคนทำธุรกิจเบเกอรีของ UFM และแตกไลน์เบเกอรีเพิ่มขึ้นจากขนมเปี๊ยะ เนื่องจากเธอมองว่าด้วยแรงของเธอทำขนมเปี๊ยะจำนวนมากไม่ไหว การเพิ่มไลน์จะทำให้เธอมีสินค้ามากขึ้น
เบเกอรีของเจนเป็นขนมอบและคงไอเดียที่เชื่อมโยงกันระหว่างรุ่นแม่และรุ่นลูก คือ ทำขนมที่เก็บได้นานเป็นเดือน โดยไม่ใส่สารกันบูด เธอทำคุกกี้วานิลลาไส้สับปะรด ที่ใช้ฝักวานิลลาในการทำ ก่อนต่อยอดเป็นคุกกี้มัชฉะไส้สับปะรด ที่ใช้มัชฉะจากเมืองอูจิ และคุกกี้มิกซ์เบอร์รีไส้สับปะรด นอกจากนี้ยังทำคุกกี้ช็อกโกแลตชิพ และ Brookie บราว์นีหน้าคุกกี้ ที่เจนทำทุกอย่างให้แห้งและมีอายุยาวขึ้นโดยไม่ต้องใส่สารกันบูด
แน่นอนว่าช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาสองพี่น้องทำการตลาดให้แบรนด์จินตนาผ่านตลาดต่างๆ ทั้งตลาดธรรมศาสตร์ และตลาด Tri-Assumption ล่อซื้อ ที่รวมศิษย์เก่าอัสสัมชัญ 3 แห่ง
“พอกลุ่มเด็กอัสสัมรวมกัน 3 โรงเรียน ขนมตัวนี้คือ ขนมที่ทุกคนแอบกินใต้โต๊ะ เป็นขนมที่พวกหนูโดนคุณครูฝ่ายปกครองเรียกเข้าห้องมรกต เพราะเอาขนมไปขายที่โรงเรียน หิ้วไปขายทีเดียว 40 กล่อง พอทุกคนรวมกลุ่มกันในตลาด หลายคนก็บอกว่าเคยกิน เคยแอบมาสเตอร์มิสกิน เออหาตั้งนานว่าที่ไหน ได้กลุ่มไตรอัสสัม ทำให้เราเริ่มสมัครไลน์ออฟฟิเชียล แพลตฟอร์เดลิเวอรี ไอจี เฟซบุ๊ก เริ่มส่งขายทางไปรษณีย์ เราจริงจังมากในช่วงโควิด-19 ต้องบอกว่าเราโชคดีที่คุณแม่มองการณ์ไกล ซื้อสังคมให้ลูกไปเรียนโรงเรียนที่ดีอย่างอัสสัมชัญคอนแวนต์”
เจนและบัวไม่ได้หยุดเท่านี้ ตอนนี้พวกเธอเริ่มคุยกับคุณแม่เรื่องการทำขนมเปี๊ยะไส้อื่นๆ โดยเฉพาะขนมเปี๊ยะไส้เจ เนื่องจากช่วงเทศกาลกินเจคือช่วงที่ทางร้านแทบขายไม่ได้เลย แน่นอนว่าไลน์เบเกอรีใหม่ของเธอทำได้ไม่ยากเพียงเปลี่ยนจากเนยเป็นมาการีน แต่ขนมเปี๊ยะสูตรคุณแม่นี่แหละที่จะใช้ไส้อะไรที่อยู่ได้นานและไม่ต้องใส่สารกันบูด ซึ่งเป็นสิ่งที่จินตนาทำมาโดยตลอด
Fact Box
- ร้านขนมเปี๊ยะ จินตนา ตั้งอยู่ที่ปากซอยเจริญนคร 28 เขตคลองสาน เปิดบริการทุกวันเวลา 8.00 -20.00 น. โทร. 02-437-8184, 02-8602984, อินสตาแกรม : chintana_kanompai และเฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/chintanakanompai