‘เซ็นทรัล ทำ’ (CENTRAL Tham) เป็นโครงการเพื่อสังคมของกลุ่มเซ็นทรัล ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้กรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN) 

โดยกรอบแนวคิดความยั่งยืนของกลุ่มเซ็นทรัล ประกอบด้วยกัน 4 ด้านหลัก คือ 1. People การให้การศึกษาและความเป็นอยู่ที่ดีของคนผ่านโครงการต่างๆ 2. Prosperity การพัฒนาสินค้าชุมชน เพื่อให้ชุมชนมีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หนึ่งในนั้นคือตลาดจริงใจ (Jing Jai Farmer’s Market) ที่ส่งเสริมสินค้าชุมชนท้องถิ่น 3. Planet คุณภาพสิ่งแวดล้อม ผ่านโครงการอย่าง Journey to Zero, Central Green และ Forest Restoration ที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมทั้งถุงพลาสติก การใช้พลังงานทางเลือก และการปลูกป่า 4. Peace&Partnership ด้านความสงบสุขและการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ฟื้นฟูและสนับสนุนสถานที่สำคัญทางศาสนา และภูมิปัญหาท้องถิ่น

สำหรับความคืบหน้าของโครงการเซ็นทรัล ทำ นำโดยพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล ที่เชิญสื่อมวลชนมาร่วมรับประทานอาหารกลางวันภายใต้งาน CENTRAL Tham Local Luncheon: ถอดรหัสอาหารถิ่น 4 ภูมิภาค พร้อมบอกเล่าความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ที่ดำเนินงานอยู่และเป้าหมายในอนาคต

ซึ่งความพิเศษของอาหารมื้อกลางวันนี้ได้เชฟแบล็ค-ภานุภน บุลสุวรรณ เชฟคนดังแห่งร้าน Blackitch Artisan Kitchen ที่เชียงใหม่ มาเป็นผู้สร้างสรรค์อาหาร โดยนำวัตถุดิบจากชุมชนต่างๆ ที่อยู่ในภายใต้การสนับสนุนของเซ็นทรัล ทำ มาทำให้เรากิน

เชฟแบล็คบอกว่าอาหารที่เป็นเทสติ้งเมนูต่อจากนี้จะใช้วัตถุดิบถิ่นจากทั้งภาคเหนือ อีสาน ใต้ และภาคกลาง นำมาผสมผสานกัน เพื่อความหลากหลายและได้ความแปลกใหม่ เริ่มที่เมนูเรียกน้ำย่อยได้แก่ ไส้กรอกอีสานกับส้าผักเมือง เป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นอีสานอย่างไส้กรอกอีสานที่ใช้ข้าวเยอะหน่อยเพื่อทำให้ไส้กรอกมีความแน่น กินกับผักพื้นเมืองภาคเหนืออย่างเล็บครุฑ ยอดมะรุม ถัดไปเป็น ตำถั่วโหระพาหน้ากุ้งมาในกระบอกไม้ไผ่ พร้อมหมูแดดเดียว ขลุกขลิกด้วยเพสโต้ปลาร้า และข้าวแต๋นหน้ากุ้งกับน้ำวูดู 

ถัดมาเป็นสตาร์ทเตอร์ ที่ประกอบด้วย เมล่อนสลัดกับบัลซามิกกาแฟ แหนมเห็ดเทมปุระ ที่เชฟแบล็คใช้เมล่อนเขียวจากวิสาหกิจชุมชนเมล่อนหมู่ใหญ่ร่วมใจพัฒนา จ.อยุธยา ส่วนกาแฟที่นำมาทำเป็นบัลซามิกภูชี้เดือน จ.เชียงราย โดยนำไปเคี่ยวกับน้ำตาล กินกับแหนมเห็ดทอด ต่อด้วยแกงส้มมันกุ้งครีมชะอมสับปะรดย่าง ที่ตัวแกงส้มใช้มันกุ้งเคี่ยวกับมะเขือเทศ พริกแกง กะปิ รากผักชี ผสมกับเนื้อปูที่เลือกใช้จากธนาคารปูที่ปราณบุรี กินกับสับปะรดย่าง และครีมซอสเขียว ที่ทำจากชะอมปั่นรวมกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์

เข้าสู่จานหลัก ได้แก่ ข้าวสังข์หยดอบสมุนไพรห่อมาในใบตอง เป็นข้าวจาก จ.พัทลุง กินกับหมูย่างมะแขว่น ตำตะลิงปลิงคลุกกุ้งแห้งและงา และต้มกะทิปลาช่อนแดดเดียวกับยอดมะขามที่ใช้ปลาช่อนแดดเดียวจาก กลุ่มสตรีถนอมอาหารจากปลาบ้านตราชู จ.สิงห์บุรี ส่วนตัวเราชอบเมนูหลักมากที่สุด ข้าวสังข์หยดก็หอมและนิ่มทานเข้ากันกับหมูย่างมะแขว่น เพิ่มรสความเปรี้ยวด้วยต้มกะทิปลาช่อนแดดเดียวกับยอดมะขาม

 และปิดท้ายด้วยของหวานเป็นผลไม้ลอยแก้ว และไอศกรีมน้ำผึ้งป่าโดยใช้น้ำผึ้งจากม่อนปูยารักษ์ผึ้งป่า จ.พะเยา และกินกับขนมหัวหงอก  

Tags: ,