หลังจากการชุมนุมประท้วงของชาวฮ่องกงนับล้านมานานหลายเดือน ในที่สุด บ่ายวันที่ 4 กันยายน แคร์รี่ หลำ ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงก็ยอมประกาศอย่างเป็นทางการ ถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว ซึ่งเป็นแค่หนึ่งในห้าของข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม
ในการประชุมระหว่างแคร์รี่ หลำ กับนักการเมืองที่อยู่ฝ่ายจีนแผ่นดินใหญ่ เธอกล่าวกับที่ประชุมว่าการถอนร่างกฎหมายเป็น “ท่าทีเพื่อทำให้บรรยากาศเย็นลง” และหลังจากนั้นในเวลา 17.51 น. หลำก็ประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์ของฮ่องกงว่า
“ฮ่องกงยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยอยู่หรือไม่ ผู้ที่มีความคิดเห็นต่างกันล้วนแต่ถูกบุลลี่ สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทำให้ดิฉันช็อก จากข้อเรียกร้อง 5 ข้อของผู้ชุมนุม ดิฉันได้ประกาศไปก่อนหน้านี้แล้วว่าจะ ระงับการออกกฎหมาย และกฎหมายฉบับนั้นมันตายไปแล้ว ส่วนข้อเรียกร้องเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอิสระ รัฐบาลคิดว่าไม่ควรตั้งขึ้นมา และควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสภารับเรื่องร้องทุกข์ของตำรวจ (Independent Police Complaints Council)
ส่วนข้อเรียกร้องเรื่องการยกโทษนั้นไม่สามารถยอมรับได้ สำหรับเมืองที่ปกครองด้วยกฎหมาย เธอยังอ้างว่าการอ้างอิงว่าผู้ชุมนุมเป็น ‘ผู้ก่อจลาจล’ นั้นยังไม่มีผลทางกฎหมาย กระทรวงยุติธรรมจะตัดสินใจดำเนินคดีจากหลักฐานที่รวบรวมได้ นอกจากนี้เธอยังบอกว่า ควรจะมีการถกเถียงกันท่ามกลางบรรยากาศที่สงบเรียบร้อย หรือว่าจะปล่อยให้สังคมแตกแยกต่อไป
สิ่งที่หลำจะดำเนินการก็คือ ถอนร่างกฎหมายอย่างเป็นทางการ สนับสนุนการทำงานของสภารับเรื่องร้องทุกข์ของตำรวจ ตั้งแต่เดือนนี้เธอและคณะรัฐมนตรีจะไปพูดคุยกับชุมชนเพื่อทำความเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชนและหาทางแก้ปัญหา และจะมีการศึกษาที่เป็นอิสระเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหาสังคมในฮ่องกงด้วย
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน แคร์รี่ หลำ เคยประกาศไปแล้วว่า รัฐบาลตัดสินใจระงับการพิจารณาร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว โดยบอกว่าร่างกฎหมายนี้ ‘ตายแล้ว’ แต่ในวันรุ่งขึ้น ชาวฮ่องกงราว 2 ล้านคนก็ยังคงออกมาชุมนุม เพราะไม่มีอะไรรับรองได้ว่าจะไม่ถูกนำมาพิจารณาใหม่อีก เพราะหลำไม่ได้ดำเนินการใดๆ ตามกลไกของสภานิติบัญญัติเพื่อถอดร่างกฎหมายนี้ออกไป มีรายงานว่า การถอนร่างกฎหมายนี้จะมีขึ้นเมื่อมีการเปิดประชุมสภานิติบัญญัติอีกครั้งในเดือนตุลาคม
ทันทีที่มีรายงานข่าวออกมา โจซัว หว่อง ทวีตข้อความว่า “น้อยเกินไปและสายเกินไป การตอบสนองต่อผู้ชุมนุมของแคร์รี่ หลำ เกิดขึ้นหลังจากที่มีผู้เสียชีวิต 7 คน มีผู้ชุมนุมมากกว่า 1,200 คนถูกจับ ซึ่งได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีจากตำรวจ
การใช้ความรุนแรงที่โหดร้ายทารุณของเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ได้ทิ้งบาดแผลที่ยากจะย้อนกลับไปได้ให้กับสังคมฮ่องกง และเมื่อแคร์รี่ หลำประกาศว่าจะถอนร่างกฎหมายนี้ ประชาชนจึงไม่เชื่อว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ ‘จริงใจ’
เราขอเรียกร้องให้ชาวโลกตื่นตัวกับยุทธวิธีนี้ จะได้ไม่ถูกรัฐบาลฮ่องกงและจีนหลอก เพราะพวกเขายังคงจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด แคร์รี่ หลำ ล้มเหลวอีกครั้งในการทำความเข้าใจสถานการณ์ การประกาศนี้ห่างไกลจากความต้องการของประชาชน เธอต้องยอมรับทั้งห้าข้อเรียกร้อง: ยุติการดำเนินคดี เลิกเรียกเราว่าผู้ก่อการจลาจล ตั้งกรรมการสอบสวนตำรวจอิสระ และการเลือกตั้งที่เสรี!”
ร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่เป็นชนวนสำคัญของการชุมนุมติดต่อกันเป็นเวลา 13 สัปดาห์ในฮ่องกง และได้กลายเป็นความเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิในการปกครองตัวเองต่อมาด้วย โดยมีชาวฮ่องกงนับล้านคนเข้าร่วมการชุมนุม
นอกจากการถอนกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่แล้ว ผู้ชุมนุมยังเรียกร้องให้มีการสอบสวนตำรวจที่ใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ชุมนุม ไม่เอาผิดผู้ชุมนุมที่ถูกจับ หยุดเรียกผู้ชุมนุมว่าเป็นผู้ก่อจลาจล และเริ่มกระบวนการปฏิรูปการเมือง
หลายเดือนที่ผ่านมา แคร์รี่ หลำ ใช้วิธีการแข็งกร้าวต่อการเคลื่อนไหว มีการปราบปรามผู้ชุมนุมโดยใช้แก๊สน้ำตา การฉีดน้ำแรงดันสูง การใส่สีที่ล้างไม่ออกผสมลงไปในน้ำ พ่นสเปรย์พริกไปจนถึงการยิงปืนกระสุนจริงขึ้นฟ้า นอกจากนี้เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ยังจับกุมนักเคลื่อนไหวหลายคน รวมทั้งโจซัว หว่อง และแอคเนส โจว นักกิจกรรมที่เป็นผู้นำการชุมนุมปฏิวัติร่มเมื่อปี 2014 และยังมีรายงานว่ารัฐบาลจีนเกี่ยวข้องกับการปล่อยข่าวปลอมทางโซเชียลมีเดียอีกด้วย
ที่มา:
https://twitter.com/joshuawongcf/status/1169143882547957762
https://twitter.com/joshuawongcf
ภาพ: ANTHONY WALLACE / AFP
Tags: ฮ่องกง, แครี่ หลำ, ประท้วงฮ่องกง