บทความที่ตีพิมพ์ลงในวารสารโบราณคดีของมหาวิทยาลัยเทลอาวีฟตั้งข้อสังเกตว่า ชาวอิสราเอลในสมัยก่อน เผากัญชาเพื่อให้เกิดอาการหลอนระหว่างประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
การค้นพบครั้งนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ขณะที่พวกเขากำลังขนย้ายของเพราะพิพิธภัณธ์เยรูซาเล็มกำลังทำการปรับปรุง ทำให้ อีราน เอลลี ผู้เขียนบทความชิ้นดังกล่าวและผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีช่วงยุคเหล็กถึงยุคเปอร์เซียประจำพิพิธภัณฑ์ ก็ได้ฉุกใจคิดที่จะเก็บตัวอย่างจากบนแท่นพิธีที่ถูกค้นพบจากวิหารศักสิทธิ์ ในแหล่งโบราณคดีเทล อาลัต เมื่อราวทศวรรษ 1960 ไปทดสอบทางวิทยาศาสตร์
แท่งทั้งสองถูกนำไปตรวจสอบจากห้องแล็บสองแห่ง ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติอิสราเอล ในเมืองไฮฟา และมหาวิทยาลัยฮีบรูแห่งกรุงเยรูซาเล็ม โดยจากการทดสอบแท่นที่หนึ่ง พวกเขาพบร่องรอยของกำยาน ซึ่งไม่นับว่าเป็นเรื่องน่าแปลกใจ
แต่ที่อีกแท่นหนึ่ง พวกเขาพบทั้งสารทีเอชซี สารซีบีดี และสารแคนนาบินอยด์ ทำให้พวกเขาตั้งข้อสังเกตว่า สมัยก่อน ชาวอิสราเอลเคยเผากัญชาเพื่อให้เกิดภาพหลอน ขณะที่ติดต่อกับพระเจ้าภายในวิหาร
การค้นพบครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่มีหลักฐานแรกยืนยันว่ามีการใช้กัญชาเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวอิสราเอลในสมัยโบราณ
“ถ้าต้องการแค่กลิ่น คุณเผาอย่างอื่นก็ได้ กัญชาจะถูกเผาเมื่อพวกเขาต้องการให้เกิดภาพหลอน ดังนั้น มันจึงไม่เกี่ยวเลยว่ากลิ่นมันจะเป็นอย่างไรเมื่อถูกใช้ร่วมกับกำยาน แต่มันเป็นเรื่องของอาการที่เกิดจากการได้กลิ่นจากกัญชาต่างหาก” เอลลีกล่าว
เอลลีชี้ว่า มันเป็นเรื่องที่ทราบดีอยู่แล้วว่าหลายวัฒนธรรมในโลกโบราณใช้บางสิ่งเพื่อทำให้เกิดภาพหลอน แต่ไม่เคยคิดว่าศาลนายูดาห์จะเคยใช้มันเช่นกัน ทั้งนี้ เนื่องจากไม่มีการค้นพบว่ารอบๆ พื้นที่โบราณคดีเทล อาลัต มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเคยมีการปลูกกัญชา ทำให้เขาตั้งข้อสันนิษฐานว่ามันน่าจะถูกนำเข้ามาระหว่างการค้าขายกับจักวรรดิอื่น
อ้างอิง:
https://edition.cnn.com/2020/05/28/world/tel-arad-shrine-israel-cannabis-study-scn/index.html
https://www.bbc.com/news/world-middle-east-52847175
Tags: เยรูซาเล็ม, กัญชา, ฮีบรู, ภาพหลอน