เช่า ‘รถบ้าน’ ท่องโลกกว้าง สวรรค์บนดินในนิวซีแลนด์

เชื่อว่าทุกคนคงมีความฝันอยากไปเที่ยวทั่วโลกในที่ต่างๆ ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป หนึ่งในฝันของผู้เขียนคือ อยากจะลอง ‘เช่ารถบ้าน’ ขับท่องโลกกว้างสักครั้งหนึ่งในชีวิต

จุดหมายปลายทางที่คนทั่วโลกต่างเห็นพ้องต้องกันว่าเป็น ‘สวรรค์แห่งการขับรถบ้านเที่ยว’ ก็คือประเทศนิวซีแลนด์

ด้วยถนนหนทางที่กว้างขวาง และกฎระเบียบการขับรถที่เคร่งครัด ปลอดภัย บวกกับความงดงามของวิวสองข้างทาง จึงเป็นประเทศที่เหมาะและปลอดภัยมากที่สุดในการขับรถเที่ยว โดยเฉพาะที่เกาะใต้ เส้นทางสองข้างทางระหว่าง ควีนส์ทาวน์ (Queenstown) ผ่าน แอร์โรว์ทาวน์ (Arrowtown) ไปยัง เลค เทคาโป (Lake Tekapo) ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร ผู้เขียนขอจัดอันดับให้เป็นถนนที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุด ทั้งแนวเทือกเขาน้ำแข็งสลับซับซ้อน สลับกับทิวทัศน์ฝูงแกะฝูงวัวตลอดเส้นทางที่ขับผ่าน รวมถึงทะเลสาบหลากหลายแห่งที่มีน้ำนิ่งสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใสราวกระจก

จอดชมวิวช่วงเมืองแอร์โรว์ทาวน์

ได้ชื่อว่าเช่ารถบ้านขับเที่ยวแล้ว แน่นอนว่าจะต้องใช้เป็นบ้านและเป็นที่นอนได้ด้วย ทริปนี้ เราจึงสามารถประหยัดค่าโรงแรมไปได้เยอะ เพราะเรานอนในรถได้เลย นอกจากที่นั่งคนขับและที่นั่งผู้โดยสาร บนรถบ้านจะมีอุปกรณ์ต่างๆ เทียบเท่าคอนโดเล็กๆ ห้องหนึ่ง ทั้งห้องน้ำ ครัว ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องปิ้งขนมปัง ทีวี เครื่องเล่นดีวีดี ชุดโซฟา และโต๊ะด้านท้ายรถที่สามารถปรับเป็นเตียงนุ่มๆ มีอุปกรณ์ หมอน ผ้าปู ผ้าห่มครบครัน

วิวจากบนเตียงในรถบ้าน

จะขับรถบ้านเที่ยว มารู้จักรถบ้านกันก่อน

ที่นิวซีแลนด์ การขับรถจะขับพวงมาลัยขวาเหมือนบ้านเรา ดังนั้น เซียนขับรถทางไกลทั้งหลาย สบายใจได้ ขับง่ายคุ้นชินสบายๆ ขอแค่มีใบขับขี่รุ่นใหม่ที่มีระบุชื่อภาษาอังกฤษก็ใช้งานได้ (ไม่ต้องทำใบขับขี่สากลให้เปลืองเวลา เปลืองสตางค์) เมื่อจองรถแล้ว พอถึงศูนย์รับรถ ขั้นตอนก็เหมือนการเช่ารถทั่วไป ที่ต่างคือการเรียนรู้อุปกรณ์และระบบต่างๆ ภายในรถเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบไฟ การเติมน้ำ การทิ้งของเสีย สวิตช์ไฟ ท่อแก๊ซ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะอธิบายละเอียดยิบ พร้อมให้ชมวีดิโอสาธิตการใช้งาน (ซึ่งสามารถหาชมล่วงหน้าได้ทางยูทูบเพื่อทำความเข้าใจกันล่วงหน้า ไม่ให้เสียเวลาในศูนย์รับรถเยอะเกิน)

รถบ้านมีหลายไซส์ เลือกให้เหมาะกับหมู่คณะ และทักษะการขับขี่

Camper van มีให้เลือกหลักๆ ด้วยกันสามรุ่น คือ รุ่น 2 Berth คือรถแบบนอนได้สองคน เป็นรถเล็กขนาดประมาณรถตู้เหมาะสำหรับคู่รักหนุ่มสาว รุ่น 4 Berth เหมาะสำหรับมาเป็นครอบครัวหรือกลุ่มขนาดเล็ก นอนได้สี่คน และ รุ่น 6 Berth รถแบบหกที่นอน เหมาะสำหรับมาเป็นกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวใหญ่

ขนาดรถก็จะแตกต่างกัน มีตั้งแต่ขนาดเท่ารถตู้ถึงรถสิบล้อกันเลยทีเดียว ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจว่าจะจองรถไซส์ไหน นอกจากดูจำนวนสมาชิกแล้ว อย่าลืมถามคนขับให้ดีเสียก่อนว่า เคยมีประสบการณ์ขับรถใหญ่ที่สุดขนาดใดมาก่อน เพราะถ้าไม่เคยขับรถใหญ่มา ก็แนะนำว่าไม่ควรเลือกรุ่น 6 Berth เพราะถ้าไม่มีประสบการณ์หรือความชำนาญในการควบคุมรถใหญ่ การกะระยะ การมองเห็นอาจไม่คุ้นเคย แถมต้องมาขับต่างเมืองด้วย อาจเกิดอันตรายขณะควบคุมรถ

ค่ำไหนนอนนั่น อยากจอดไหนก็ได้เลยไหม

จริงอยู่ที่การเช่ารถบ้านขับจะคล่องตัว ไม่ต้องจองโรงแรมล่วงหน้ากันก็ได้ เพราะทุกๆ 10-20 กิโลเมตรจะมีแคมป์ไซต์ (campsite) ให้สามารถจอดพักรถบ้าน ต่อน้ำ ต่อไฟ ค้างคืนนอนในราคาแสนถูก แต่ที่นิวซีแลนด์ก็มีกฎกติกา บางจุดที่มีป้ายห้ามจอดรถบ้านค้างคืน ก็ต้องระวัง เพราะถ้าฝืนจอดแล้วโดนใบสั่งจะไม่คุ้ม นอกจากค่าปรับที่โหดร้ายแล้ว ยังต้องเสียเวลา เสียอารมณ์ พาลทำให้ทริปชิลๆ ไม่สนุกไป

สำหรับผู้เขียน ถ้าให้สบายใจเลยคือ เลือกแคมป์พักรถแบบ Private Camp Ground ที่มีชื่อเสียงและค้นง่ายที่สุด ได้แก่ แคมป์ไซต์ของเครือ ‘Top 10 Holiday Park’ ที่บริการโดยเอกชน (ราคา 40 NZD/คัน) ซึ่งจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ปลั๊กไฟ น้ำสะอาด ที่ทิ้งน้ำเสีย มีส่วนกลางอย่างห้องครัว ที่ล้างจาน ที่นั่งทานอาหาร เครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ ห้องดูทีวี ห้องเล่นเกม ห้องอาบน้ำอุ่น บางที่มีสปากลางแจ้งให้แช่น้ำอุ่นสบายๆ ครบครัน

สายผจญภัยหน่อยอาจเลือกแบบ  Dom Campsites ที่บริหารโดยรัฐบาล หลายที่ไม่คิดค่าจอด บางแห่งก็คิดราคาถูกมาก (10-20 NZD/คัน) อาทิ Kiwi Holiday Park ส่วนสายลุยที่กล้ามากๆ ลองเลือกแบบ Free Camping คือจะจอดนอนที่ไหนก็ได้ ที่เป็นที่ที่จอดสาธารณะแบบไม่มีป้ายห้ามจอด เช่น ริมทะเลสาบ ข้างลำธาร ริมทะเล ข้างเทือกเขา (ข้อดีของ Free Camping แบบนี้ คือจะได้วิวดี วิวเทพ อย่างที่ Holiday Park ของเอกชนสู้ไม่ได้ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ก็จะไม่สะดวกเท่า หรือแทบไม่มีเลย บางแห่งไม่มีไฟเลย มืดมากๆ แต่ได้ความ Unseen สุด)

แนะนำว่า ถ้าจะเลือกจอดรถบ้านแบบ Free Camping ควรทำการบ้านมาดีๆ เติมน้ำ เติมไฟรถให้เต็ม ให้มั่นใจว่า จอดตลอดคืนจะมีน้ำ มีไฟใช้ ไม่ต้องทนหนาวกลางดึก

แนะนำ 6 ที่เที่ยวในนิวซีแลนด์ แบบขับรถบ้านเที่ยวชิลล์ๆ

หาดทาคาปูนา (Takapuna Beach) แคมป์ไซต์ ทาคาปูนา บีช ฮอลิเดย์ พาร์ก อยู่ห่างจากโอ๊คแลนด์ไปไม่ถึงชั่วโมง ที่จอดของแคมป์นี้ดีงาม เพราะอยู่ริมชายทะเล เช้าๆ ตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้น จะเห็นแสงสีทองสะท้อนคลื่นเป็นประกาย นกนางนวลนับร้อยตัวบินรับอรุณ

ล่องแพในแม่น้ำไคทูนา (White Water Rafting @ Kaituna) ฝ่าความหนาวต่ำกว่า 6 องศาไปล่องเรือแพในแม่น้ำไคทูน่า โดยมีครูบังคับท้ายหนึ่งคนกับลูกเรือหกคน ช่วยกันพายคดเคี้ยวไปตามลำน้ำ ไฮไลต์ของงานนี้คือการทิ้งดิ่งของแพยางตั้งฉาก 90 องศา ตกลงมาตามน้ำตกที่มีความสูงถึง 7 เมตร นาทีที่ร่างจมไปในน้ำตก ความเสียวท้องขณะแพทิ้งดิ่งด้วยความเร็ว และจังหวะที่แพจมลงใต้น้ำ นับเป็นประสบการณ์ความเสียวที่สนุกและมันส์มาก

เนลสัน (Nelson) เมืองชายทะเลเล็กๆ ที่เก่าแก่ที่สุดในนิวซีแลนด์ ตั้งอยู่ตอนบนของเกาะใต้ ถนนจากท่าเรือสู่ตัวเมืองค่อนข้างคดเคี้ยวหลายร้อยโค้งชวนเวียนหัว แต่วิวสองข้างทางก็สวยงามมากเช่นกัน อาหารขึ้นชื่อที่เนลสันคือ เมนูหอยแมลงภู่ ที่ร้าน The Mussel Pot (www.themusselpot.co.nz) ซึ่งหอยแมลงภู่ตัวอวบอ้วน ออร์เดอร์ต่อคน คนละหนึ่งกิโลกรัม เสิร์ฟมาในหม้อใบใหญ่อบซอสและเครื่องเทศที่มีให้เลือกหลากหลาย นอกจากนี้ ถ้ามาถึงที่นี่ยังสามารถไปเที่ยว Bike & Wine Tour ได้ด้วย ซึ่งทางจักรยานที่เนลสัน จัดว่าสวยงามติดอันดับเมืองขี่จักรยานเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ

ภาพฝูงแกะระหว่างเส้นทางจักรยาน

ควีนส์ทาวน์ (Queenstown) ถ้าจะให้โหวตว่าทิวทัศน์ตลอด 14 วันของสองเกาะในนิวซีแลนด์ช่วงไหนสวยงามที่สุด ก็ต้องบอกว่า ช่วงของการขับรถบ้านเข้าสู่ควีนสทาวน์ มีวิวทิวทัศน์ ภูเขา เทือกเขา ฝูงแกะ ต้นส้น ทะเลสาบสวยงดงามดั่งเมืองสวรรค์ที่สุดของทริป ซึ่งขับยาวห้าชั่วโมงจาก Fox Glacier ถึงควีนส์ทาวน์ที่แม้มีฝนพรำๆ แต่วิวสองข้างทางงดงามมากจนไม่หลับเลย

วิวสวยๆ ช่วงควีนส์ทาวน์

ทางช้างเผือก ณ ทะเลสาบเทคาโป (LAKE TEKAPO) จากควีนส์ทาวน์ จุดหมายต่อไป ระยะทางห่างออกไป 250 กิโลเมตร คือทะเลสาบเทคาโป ทะเลสาบสีเขียวอมฟ้าหรือสีเทอร์ควอยส์  ได้ชื่อว่าสวยที่สุดของเมืองแคนเตอร์บรี (Canterbury) ในเกาะใต้ของนิวซีแลนด์

ใกล้ๆ กันมีโบสถ์ขนาดเล็ก ชื่อว่า Church of good shepherd เป็นโบสถ์ขนาดเล็กที่สุดในนิวซีแลนด์ ในเวลากลางวัน นักท่องเที่ยวนับร้อยต่างทยอยแวะเวียนมาเที่ยวที่โบสถ์แห่งนี้ ถ้ามองออกมาจากภายในโบสถ์ จะเห็นวิวทะเลสาบอันงดงาม ถ้ามองจากด้านนอก จะเห็นความงามของโบสถ์สีอิฐที่ตัดกับน้ำสีฟ้า มีดอกลูพิน (Lupin) รายล้อม

ความงดงามดึงดูดให้เราแวะไปที่นี่ถึงสองวันติดกัน เราวางแผนว่าจะเดินจากที่พักไปที่โบสถ์ตอนช่วงดึกๆ แต่ด้วยความหนาวและลมแรง จึงตัดสินใจขับรถบ้านไปถึงโบสถ์ราวห้าทุ่ม เพียงแค่แหงนหน้ามองท้องฟ้าก็ต้องร้องว้าวออกมาดังๆ ของบางอย่างเรารู้ว่ามีอยู่จริงแต่ยังไม่เคยเห็นด้วยตา เช่นเดียวกับดวงดาวบนท้องฟ้าและกาแลกซี่ทางช้างเผือก ที่หากเราแหงนมองฟ้าจากกรุงเทพฯ อย่างมากคงเห็นดาว 7-8 ดวง แต่ที่ทะเลสาบเทคาโป ภาพดวงดาวนับพันๆ ดวงระยิบระยับ ทางช้างเผือกคาดผ่านหมู่ดวงดาว เป็นภาพที่เราเห็น สะกดให้เรานิ่งตะลึงงันจนลืมไปว่า รอบตัวท่ามกลางความมืด มีนักท่องเที่ยวที่ฝ่าลมหนาวมาชมความงามของหมู่ดาวอีกหลายสิบคน ถ้าอากาศเป็นใจกว่านี้ เราสามารถหาที่พิงแหงนหน้ามองฟ้าได้หลายๆ ชั่วโมง หรืออาจจะโต้รุ่งกันเลย แต่ความหนาวสั่นทำให้เรายอมเก็บภาพความงามของหมู่ดาราบนฟ้าไว้ในความทรงจำ

ทะเลสาบรัวทานิวา (Lake Ruataniwha) ที่เมืองทไวเซิล (Twizel) ถือเป็นความประทับใจที่ไม่ได้อยู่ในแผน ระหว่างทางขับรถจากควีนส์ทาวน์ไปยังทะเลสาบเทคาโป เราแวะฟาร์มแซลมอน (High Country Salmon) เดินเที่ยวฟาร์มให้อาหารปลาแซลมอน ก่อนจะซื้อซาชิมิและสเต็กแซลมอนเป็นเสบียงมื้อค่ำ เมื่อออกจากฟาร์ม เราขับเรื่อยมาจนเข้าเขตเมืองทไวเซิล มองไปนอกหน้าต่าง เห็นทะเลสาบสีฟ้า ผืนน้ำใสนิ่งดั่งผืนกระจกที่สะท้อนต้นไม้ บ้านเรือน และท้องฟ้า

เรามาทราบทีหลังว่าชื่อทะเลสาบรัวทานิวา เราจอดรถเมื่อมีจุดแวะพัก พร้อมกางโต๊ะ เก้าอี้ เปิดไวน์ และรับประทานแซลมอนซาชิมิกันริมทะเลสาบ วิวตรงหน้าเรียกได้ว่าน่าอัศจรรย์ ความงดงามของทะเลสาบ ความใสและนิ่งของน้ำยังคงประทับในหัวใจ เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของทริป แม้จะเป็นที่ๆ ไม่อยู่ในแผนการเดินทางแต่แรก