ByteDance สตาร์ตอัปดาวรุ่งของจีนและเจ้าของแอปพลิเคชั่นสุดฮิต ‘Tik Tok’ ประกาศท้าชน Tencent Holding บริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและผู้คุมอาณาจักรเกมมือถือในจีนมากว่าทศวรรษ หลัง ByteDance ประสบความสำเร็จในการเซ็นสัญญากับสามผู้พัฒนาเกมรายใหญ่
นับเป็นการเคลื่อนไหวที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการเทคโนโลยีพอสมควร เมื่อผู้พัฒนาเกมมือถือรายใหญ่ของจีนอย่าง CMGE Technology, Shanghai Yaioji Technology และ Kaiser China Culture ตกลงจับมือกับ ByteDance เพื่อขยายอาณาจักรเกมมือถือของตน โดยเฉพาะการจับมือร่วมกับ Kaiser ที่เรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนในวงการได้มากที่สุด หลังวันศุกร์ที่ผ่านมา Zhaoxi Guangnian Information Technology บริษัทลูกของ ByteDance ออกมาประกาศยืนยันการเซ็นสัญญาร่วมงานระยะเวลา 10 ปี ที่จะส่งผลให้เกมมือถือชื่อดังอย่าง Naruto: Slugfest ตกเป็นของ ByteDance แทน Tencent Holding
แม้ว่าก่อนหน้านี้ ByteDance จะพยายามบุกตลาดเกมมือถือ ด้วยการจ้างพนักงานใหม่และดึงนักพัฒนาเกมหัวกะทิจากคู่แข่งเพื่อตั้งทีมเพื่อพัฒนาเกมขึ้นมาโดยเฉพาะ จนสามารถเปิดตัวเกมของตนเองเป็นครั้งแรกในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ก็ต้องประสบปัญหายอดดาวน์โหลดตกต่ำตั้งแต่เปิดตัว โดยทำยอดไปเพียง 1.4 ล้านดาวนโหลด หรือรายได้ 4.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับสถิติรายได้ 139 ล้านดอลลาร์สหรัฐของเกม Perfect World จาก Tencent Holding ที่ทำไว้ภายในเดือนแรกของการเปิดตัว ก็ถือว่าความพยายามของ ByteDance นั้น ‘ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง’
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์และนักลงทุนหลายคนยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพการบุกตลาดเกมของ ByteDance อันเนื่องมาจากจำนวนผู้ใช้งานอันมหาศาลในมือกว่า 700 ล้านรายและเงินทุนสนับสนุนในการพัฒนาเกมอีกมากมาย แดนเนียล อาเมด (Daniel Ahmed) นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Niko Partners ชี้ว่า แผนการบุกตลาดเกมมือถือของ ByteDance ในครั้งนี้ดูไปได้สวยมาก หากบริษัทสามารถจับกระแสตลาดของเกมและปรับปรุงระบบการถ่ายทอดสดให้ดีขึ้นในระยะยาวได้
นอกจากนี้ ByteDance เป็นเพียงบริษัทเดียวที่สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดและรอดพ้นเงื้อมมือบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba และ Tencent ที่แทบจะผูกขาดโลกอินเตอร์เนตของจีนไว้ทั้งหมด
ที่มา:
https://www.techinasia.com/5-reasons-bytedance-next-gaming-giant
ภาพ: REUTERS/Dado Ruvic/Illustration
Tags: Tik Tok, ByteDance