“ผู้คนไม่ได้กลายเป็นเกย์ เลสเบี้ยน หรือไบเซ็กชวล มนุษย์เราก็แค่ตกหลุมรักใครสักคนเท่านั้น” 

ประโยคข้างต้นกลายเป็นสิ่งที่เราสามารถพบเห็นได้บนโซเชียลมีเดีย ทั้งจากคนในคอมมูนิตี้ LGBTQIA+ หรือนอกคอมมูฯ ก็ตาม ประกอบกับการที่ประเทศไทยได้ประกาศ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมกลายเป็นประเทศแรกในอาเซียน และเป็นอันดับ 3 ของเอเชียที่รับรองการแต่งงานเพศเดียวกันต่อจากไต้หวันและเนปาล ก็ยิ่งทำให้ประเทศไทยมีความเปิดกว้างและมีความเข้าใจในความหลากหลายมากยิ่งขึ้น

ในวาระขึ้นศักราชใหม่ The Momentum ชวนเริ่มต้นปีด้วยเรื่องราวของ 3 คู่รัก ที่จะช่วยทำให้เห็นว่า ความรักไม่ใช่แค่เรื่อง ‘เพศ’ และ ความรักเป็นสิ่งกว้างใหญ่มากแค่ไหน

การมีแฟนสาวกว่าไม่ใช่เรื่องผิด

“เราไปส่อง IG เขา และเห็นว่าเขาแต่งหญิง เขาแต่งหน้าเก่งมาก แต่งเป็นผู้หญิงเลย แล้วก็เฟอร์ฟอร์มด้วย คือความรู้สึกตอนนั้นเรารู้สึกว่า เราต้องมีแฟนที่ไม่สาวกว่าเราสิ แต่สิ่งเหล่านี้มันหายไปหมดเลย” เจสสิกา ฮัช (Jessica Hush) กล่าว

เจสสิกาและลูซี บูลล์ (Lusy Bull) เป็นคู่รัก Drag Artists จากจุดเริ่มต้นที่อยู่บนพื้นฐานค่านิยมที่คู่รักต้องดูแมนและไม่สาวไปกว่ากัน สู่ความเข้าใจในความสัมพันธ์และเป็นความรักที่สนับสนุนทุกความสุขของกันและกันเรื่อยมา

“อยู่มาวันหนึ่งเราก็ชวนเขาว่า เดี๋ยวลองแต่งหน้าให้ดูไหม แล้วเขาก็ไม่ปฏิเสธ การที่เราเอาเขาเข้ามาสู่การทำ Drag มันทำให้เรารู้จักเขามากขึ้นด้วยซ้ำ” ลูซีกล่าว

การแต่งหน้าครั้งนั้นทำให้เจสสิการู้สึกว่า นี่คือการปลดล็อกความเป็นตัวเอง เพราะการแต่งหน้าแต่งตัวคือสิ่งที่อยากทำตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา และได้กลับมาทำสิ่งที่ต้องการในตอนนี้

แต่ขณะเดียวกันลูซีก็ยังมีความกังวลและแคร์คนรัก เพราะเธอมีความสุขกับการเป็นทรานส์นอนไบนารี (Trans Non-Binary) 

“ชีวิตหนู หนูไม่ได้อยากเป็นผู้ชายหรือหนูไม่อยากเป็นผู้หญิง หนูเลยอยากให้ตัวหนูมาอยู่ตรงกลางทรานส์นอนไบนารี อันนี้เรามีความสุขแล้ว แต่คนนี้คนที่สำคัญที่สุดในชีวิตเรา เขาจะยังไงต่อ” ลูซีเล่า

เมื่อเจสสิกาได้ฟังก็ตอบกลับมาสั้นๆ แต่มั่นคงว่า “ถ้าเขาจะพัฒนาตัวเองไปในด้านที่ดีกว่าหนูก็เต็มที่ จะซัพพอร์ตเขา”

คู่รักหญิง-หญิงกับความรักที่ยาวนาน 

“ก็คิดว่าจะอยู่จนตายจากกันอย่างนี้ดีกว่า” ปู่กัญจน์กล่าว

ความรักของปู่กัญจน์และย่าตุ๊กเกิดขึ้นมาเหมือนคนทั่วไป จากจุดเริ่มต้นที่บังเอิญพบกันในงานหนึ่ง และมีโอกาสได้โคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งจากคำแนะนำของเพื่อนๆ จากคนรู้จักจึงพัฒนาไปสู่คนรักที่เปลี่ยนแปลงชีวิตกันและกันในทางที่ดีขึ้น

มากกว่า 30 ปี ที่ทั้งสองผ่านร้อนหนาว โดยมีครั้งหนึ่งที่ปู่กัญจน์ต้องได้รับการผ่าตัด แต่ย่าตุ๊กไม่สามารถมีอำนาจเซ็นรับรองการผ่าตัดได้ เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายรองรับความสัมพันธ์ เหตุการณ์นี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ทั้งคู่ออกมาขับเคลื่อนกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพราะทั้งสองเชื่อว่า สิ่งนี้จะช่วยให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถมีชีวิตครอบครัวร่วมกันได้อย่างปกติสุขเท่าเทียมกัน และจับมือกันก้าวผ่านทุกอุปสรรค อย่างที่ปู่กัญจ์ทิ้งท้ายว่า 

“มั่นใจคนนี้แหละ เรามีความรักที่มั่นคง 100% อยู่ด้วยกันมา 30 ปี”

มนุษย์เราจะรักษาคำสัญญาได้นานแค่ไหน

ความรักของคุณภัทรและคุณโอเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงที่ทั้งคู่เรียนมัธยมปลาย ทั้งการที่เมื่อคุณโอทราบว่า พ่อของคุณภัทรเสียชีวิตก็รีบเดินทางไปให้กำลังใจ ต่อมาทั้งคู่จึงตัดสินใจอยู่ด้วยกันหลังเรียนจบปริญญาตรี จนคุณภัทรตั้งครรภ์ แต่อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดกลับเกิดขึ้น ตอนกลับจากโรงพยาบาลหลังตรวจครรภ์และฝากครรภ์ 

“หลังจากกลับก็โดนรถพ่วง 18 ล้อชน พอฟื้นขึ้นมาทำให้ภัทรรู้สึกว่า ไม่อยากผูกมัดพี่โอ มันรู้สึกว่ารักเขามากๆ มั้ง ไม่อยากให้เขามาอยู่ลำบากกับเราวินาทีนั้น ถ้าเรายิ่งอ่อนแอ คนที่อยู่ข้างหลังจะยิ่งเสียใจ ภัทรก็ไม่เคยร้องให้กับเรื่องอุบัติเหตุเลย”

แม้คุณภัทรจะพูดไปว่า ไม่อยากผูกมัด เพราะไม่อยากให้คนที่รักต้องมาลำบากกับเธอ แต่คุณโอกลับไม่เคยปล่อยมือจากเธอไปไหนเลย 

“กลัวเขาคิด คิดไม่อยากจะอยู่ เหมือนคิดสั้น ก็บอกว่าอย่าคิดมากนะ อย่างไรผมก็ไม่ทิ้งแน่นอน ก็จะอยู่กับเขาจะอยู่ดูแลเขากับลูกต่อไป เพราะว่าเขามีลูกอยู่ในท้องแล้ว ถ้าเขาตัดสินใจไม่อยู่ เท่ากับว่าลูกก็จะไม่อยู่ตามเขาไป

“โอเคยให้สัญญากับภัทรไว้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ โอก็จะอยู่ดูแลภัทรตลอดไป จะคอยอยู่ข้างๆ เป็นแขนเป็นขาให้เขาตลอดไป”

แล้วความรักคืออะไร

หากดูจาก 3 คู่รักข้างต้นจะพบว่า แต่ละคู่และแต่ละความรักก็มีนิยามหรือเอกลักษ์แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะคู่ของเจสสิกาและลูซี จากเริ่มต้นมีความคลางแคลงใจจากค่านิยมเดิมๆ ที่แฟนหรือคู่รักต้องไม่สาวไปกว่าเรา สู่การค้นพบตัวตนใหม่ๆ และส่งเสริมกันในทุกรูปแบบที่คนรักมีความสุข หรือจะคู่ปู่กัญจน์และย่าตุ๊กที่พบรักกันในยามแก่ แต่กลับครองรักกันยืนนาน รวมไปถึงคำมั่นสัญญาของคุณภัทรและคุณโอที่งดงาม แสดงถึงรักบริสุทธิ์และจริงใจเกินกว่าจะหาคำมาบรรยาย ทั้งหมดทั้งมวลต่างมีความรักในแบบเฉพาะของตนเอง 

เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ความรักไม่เคยมีสูตรสำเร็จ ไม่มีแบบฉบับเฉพาะตัว ทุกความรักและทุกคู่รักย่อมมีรักในแบบของตน รักไม่ได้จำกัดเพียงแค่ว่าต้องเป็นชายหญิง เป็นคนที่สมบูรณ์แบบ หรือคนในบรรทัดฐานสังคม แต่เมื่อมีรักที่มีความสุข เป็นรักที่ช่วยสนับสนุนให้เราเป็นตัวเรา และเป็นรักที่ไม่ได้ทำร้ายกันและกัน 

เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นความรักย่อมงดงามเสมอ

หากใครอยากฟังเรื่องราวความรักในที่สวยงาม กว้างใหญ่ แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและไร้กรอบ สามารถดูพิ่มเติมได้ทาง YouTube ของ YUEDPAO กับคลิปวิดีโอ รักแท้ยังมีอยู่จริงไหม ความรักที่ยืด…แต่ไม่ย้วย | YUEDPAO

Tags: , , , , , , ,