หากเทียบกับประเทศอื่นๆ ในยุโรปแล้ว ประเทศเบลเยียมได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่เล็กที่สุด เพราะมีประชากรเพียงแค่ 11 กว่าล้านคนเท่านั้น นับไปนับมาก็เรียกได้ว่ามากกว่ากรุงเทพฯ ของเราอยู่หน่อยเดียว
โซนครัวที่โชว์ให้เห็นทุกขั้นตอนการทำอาหาร
แม้ว่าเบลเยียมจะโด่งดังในเรื่องเครื่องดื่มจนติดอันดับโลก แต่เราไม่ค่อยเห็นร้านอาหารเบลเยียมสักเท่าไรเพราะประเทศก็เล็ก แถมมีประชากรไม่มาก คงไม่ออกมาตั้งรกรากอยู่ที่อื่นมากนัก และนี่ก็เป็นเหตุผลอีกนั่นแหละที่เรารู้สึกแปลกใจมากที่ได้เจอกับร้านอาหารเบลเยียมบนชั้น 32 ของโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท จนเรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารเบลเยียมแบบเต็มรูปแบบแห่งแรกในประเทศไทยเลยก็ว่าได้
ปีเตอร์ ลาร์ด (Peter Laird) ผู้จัดการที่รั้งตำแหน่ง Master of Beer & Ceremony
ปีเตอร์ ลาร์ด (Peter Laird) ผู้จัดการที่รั้งตำแหน่ง Master of Beer & Ceremony เล่าให้เราฟังอย่างอารมณ์ดีว่าด้วยความที่ทางโรงแรมอยากจะเปลี่ยนคอนเซปต์ของร้านอาหารใหม่ให้เข้าถึงลูกค้าส่วนใหญ่ได้ง่ายขึ้น ร้านอาหารไฟน์ไดนิงอย่าง ‘ลาพาร์ท’ (L’Appart) จึงถูกแทนที่ด้วยร้าน ‘เบลก้า’ (Belga) ที่เน้นความสบายๆ สนุก และเหมาะแก่การสังสรรค์ ผ่านอาหารเบลเยียมที่ค่อนข้างแปลกใหม่ในประเทศไทย โดยคำว่าเบลก้านั้นเคยเป็นหน่วยเงินของเบลเยียมที่ราคาเท่ากับราคาเบียร์ในท้องถิ่นสมัยก่อนพอดี
เชฟนิโคลัส บัสเซท (Nicholas Basset) เชฟชาวฝรั่งเศสผู้สร้างสรรค์อาหารเบลเยียม
เมื่อกำหนดคอนเซปต์ของร้านอาหารได้แล้ว ทางโรงแรมได้ส่งเชฟนิโคลัส บัสเซท (Nicholas Basset) เชฟชาวฝรั่งเศสไปศึกษาดูงานและร่ำเรียนการปรุงอาหารเบลเยียมอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะกลับมาคิดเมนูของเบลก้า ซึ่งเชฟก็เลือกเปิดตัวด้วยเมนูซิกเนเจอร์ของเบลเยียม “เนื่องจากเบลเยียมมีอาณาเขตติดทะเล อาหารของที่นี่จึงเน้นอาหารทะเลเป็นหลักครับ” เชฟนิโคลัสกล่าว
Grey Shrimp Salade
Salade Liegeoise
เมนูที่เสิร์ฟที่เบลก้ามีหลากหลาย ตั้งแต่ Moules (590 บาท) หรือหอยแมลงภู่ในซอสต่างๆ ที่มีให้เลือกตั้งแต่ซอสเบียร์โฮการ์เดนไปจนถึงซอสต้มยำ เสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งทอดที่ต้องทอดสามรอบจนกรอบตามมาตรฐานเบลเยียมและโฮมเมดมายองเนสที่ทางร้านทำเอง นอกจากนี้ยังมี Salade Liegeoise (290 บาท) หรือสลัดจากแคว้นลิแยจ (Liège) ที่ทำจากผักกาดหอม มันฝรั่ง ไข่และเบคอนหั่นชิ้นเล็กๆ Grey Shrimp Salade (390 บาท) หรือสลัดกุ้งตัวเล็กที่ทานคู่กับผักกาดหอม มะเขือเทศและมายองเนส Mixed Croquettes (420 บาท) โครแกตต์ชีสสอดไส้กุ้ง Waterzooi (650 บาท) อกไก่ตุ๋นในซอสไวน์ขาวและเห็ดแชมปิยอง ส่วน Pan-seared Japanese Scallops (620 บาท) นำหอยเชลล์จากญี่ปุ่นมาจี่แล้วเสิร์ฟคู่กับผักอองดีฟและซอสเนยและหอมแดง แต่ก็อย่าลืมเผื่อท้องไว้ให้ Bruxelles Waffle (250 บาท) วาฟเฟิลที่ทั้งนุ่มและกรอบพร้อมไอศกรีมวานิลลาและซอสช็อกโกแลตด้วยล่ะ ซึ่งอาหารทั้งหมดบางจานก็จะมีเสิร์ฟในฝั่งร้านอาหารเท่านั้น บางจานก็มาจากส่วนของบาร์
Moules
Mixed Croquettes
Pan-seared Japanese Scallops
ใช่แล้ว บาร์! ได้ชื่อว่าเป็นเบลเยียมจะขาดเครื่องดื่มไปได้อย่างไร อันที่จริง เพียงแค่เดินเข้ามาในร้าน เชื่อว่าทุกคนคงจะตะลึงไปกับขวดเบียร์ที่ตกแต่งอย่างละลานตาอยู่เต็มร้าน การดื่มเบียร์ในเบลเยียมถือเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ยูเนสโกจัดให้เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Cultural Heritage) ในปีค.ศ. 2016 ถ้ามองในมุมประวัติศาสตร์ เบียร์ของเบลเยียมมีชื่อเสียงขึ้นมาจาก Trappist Beer หรือเบียร์ที่ผลิตโดยบาทหลวงในอาราม 14 แห่งในสังกัด (ซึ่ง 6 แห่งนั้นอยู่ในเบลเยียม) ที่มีกฎเกณฑ์เฉพาะเจาะจง เช่น ต้องผลิตโดยบาทหลวงเท่านั้น และรายได้จากการจำหน่ายเบียร์ต้องนำไปใช้ทำนุบำรุงอารามหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เมื่อมีการแต่งตั้งองค์กร International Trappist Association ขึ้นมาเป็นทางการ เบียร์อีกประเภทจึงเกิดขึ้นในชื่อว่า Abbey Beer ที่อาจจะผลิตโดยอารามที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มแรก หรือเป็นบริษัทเชิงพาณิชย์ที่ตกลงทำธุรกิจกับอารามต่างๆ ผลที่ออกมาจึงเป็นเบียร์ที่หลากหลายและมากมายยิ่งขึ้นไปอีก
Waterzooi
Bruxelles Waffle
ส่วนในประเทศไทยนั้น หลังจากที่โฮการ์เดนเข้ามาเปิดตลาดเมื่อหลายปีก่อน วัฒนธรรมเบียร์ของไทยก็ดูจะเปิดกว้างให้กับเบียร์ต่างชาติมากยิ่งขึ้น และเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้
เบียร์เบลเยียมนานาชนิด
โซนด้านนอกร้านที่เหมาะจะนั่งรับลมและดูพระอาทิตย์ตกดิน
เบลก้าจึงมีเบียร์ให้เลือกกว่า 40 ชนิด โดยมีดราฟท์เบียร์ 4 ชนิดที่มีจำหน่ายที่นี่เท่านั้น ได้แก่ De Konink, Maredsous Bruin, Maredsous Blond และ Duvel เบียร์อันดับหนึ่งของเบลเยียมที่มีเสิร์ฟที่เดียวในเอเชียคือที่เบลก้าแห่งนี้ แต่ถ้าไม่ใช่สายเบียร์ ที่นี่ก็มีเครื่องดื่มอื่นๆให้เลือกด้วยเช่นกัน ซึ่งพอมาแพร์กับมุมรูฟท็อปรับพระอาทิตย์ตกในย่านอโศกแล้วก็บอกได้ว่าเข้ากันได้อย่างกลมกล่อม
Fact Box
- Belga Rooftop Bar & Brasserie ชั้น 32 ของโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท เปิดทุกวันเวลา 17.00 น. – 1.00 น. สำรองที่นั่ง http://bit.ly/2WCUxp6 Website: https://belgarestaurantbangkok.com/ Facebook: https://www.facebook.com/BELGABangkok/ และ IG: https://www.instagram.com/belgabangkok/
- ส่วนลดพิเศษสำหรับแฟนๆ The Momentum เพียงบอก Code : BGTheMomentum ได้รับส่วนลดไปเลย 10% สำหรับไม่เกิน 4 ท่านเท่านั้น สำหรับโปรโมชั่น “Mussel & Maredsous” (Free-flow หอยแมลงภู่อบสไตล์เบลเยียม และคราฟท์เบียร์ 2 ชั่วโมง ทุกวันจันทร์) ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กรกฎาคม 2562