สงกรานต์นี้หลายคนอาจได้ถือโอกาสละเว้นแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเมื่อหลายจังหวัดสั่งห้ามขาย ‘สุรา’ ในช่วงเวลานี้ทั้งประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 เพื่อลดการระบาดของโควิด-19 ในโอกาสนี้เราจึงอยากชวนไปดูว่า ตามข้อกฎหมาย สุราแต่ละประเภทถูกแบ่งออกอย่างไรบ้าง

 

ตามข้อกฎหมายระบุว่า

ประเภทที่ 1 สุราแช่ ได้แก่ 1) สุราที่ไม่ได้กลั่น  เช่น น้ำตาลเมา น้ำขาว อุ เบียร์ เป็นต้น และ 2) สุราแช่ที่ได้ผสมกับสุรากลั่นแล้ว แต่ยังมีแรงแอลกอฮอล์ไม่เกินสิบห้าดีกรีด้วย เช่น เบียร์ ไวน์ สปาร์กลิ้งไวน์ และสุราแช่พื้นเมือง เป็นต้น

ประเภทที่ 2 สุรากลั่น ได้แก่ 1) สุราที่ได้กลั่นแล้ว เช่น สุราขาว สุราสามทับ (แอลกอฮอล์) สุราแม่โขง สุราแสงโสม เป็นต้น หรือ 2) สุรากลั่นที่ได้ผสมกับสุราแช่แล้ว แต่ยังมีแรงแอลกอฮอล์เกินสิบห้าดีกรีด้วย เช่น สุราสามทับ สุราขาว สุราผสม สุราปรุงพิเศษ และสุราพิเศษ เป็นต้น

กฎกระทรวง แบ่งประเภทสุรากลั่นไว้ทั้งหมด 5 ประเภท คือ 

  1. สุราสามทับ คือ สุรากลั่นที่มีแรงแอลกอฮอล์ตั้งแต่แปดสิบดีกรีข้ึนไป 
  2. สุราขาว คือ สุรากลั่น ที่ปราศจากเครื่องย้อมหรือสิ่งปรุงแต่ง มีแรงแอลกอฮอล์ต่ำกว่าแปดสิบดีกรี 
  3. สุราผสม คือ สุรากลั่นที่ใช้สุราขาว หรือสุราสามทับมาปรุงแต่ง มีแรงแอลกอฮอล์ต่ำกว่าแปดสิบดีกรี 
  4. สุราปรุงพิเศษ คือ คือสุรากลั่น ที่ใช้สุราสามทับมาปรุงแต่ง มีแรงแอลกอฮอล์ต่ำกว่าแปดสิบดีกรี
  5. สุราพิเศษ คือ สุรากลั่นที่ทำข้ึนโดยใช้กรรมวิธีพิเศษ มีแรงแอลกอฮอล์ ต่ำกว่าแปดสิบดีกรีแบ่งย่อยได้อีก 2 ประเภท คือ 

5.1  ประเภท วิสกี้ บรั่นดี รัม ยิน หรือสุราแบบต่างประเทศอย่างอื่น
5.2  ประเภทเกาเหลียง เชี่ยงชุน บุ้งกุ่ยโล่ว หรือสุราจีนอย่างอื่น

อ้างอิง:

https://www.excise.go.th/cs/groups/public/documents/document/mjaw/mdyx/~edisp/webportal16200061747.pdf?fbclid=IwAR3ilrt2vS5KwWJAZwAw-fRMpDjWVFGIVLPt7kNHg0i4G1nobX1jvcscVF8

 

Tags: